30ปีบนเส้นทางบันเทิง “ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข”  เปิดใจที่แรกเรื่องลูกสาว


ให้คะแนน


แชร์

30ปีบนเส้นทางบันเทิง “ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข”  เปิดใจที่แรกเรื่องลูกสาว
      ถือว่าเป็นนักร้องนักแสดงที่เคยฮอตในยุค 80 สำหรับ  “ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข”  ในวันนี้คือเป็นศิลปินอิสระ รับงานรับจ้างทั่วไปล่าสุดมาทำพีอาร์ให้คลินิกเสริมความงามของ “มาลี”รองอันดับ5  มิสแกรนด์ไทยแลนด์2022
       ดาราเดลี่ได้เปิดใจเส้นทางชีวิตที่น้อยคนนักว่าหลังจากตัดสินใจแต่งงานแล้ว ทำไมต้องหายไปจากวงการบันเทิง  ต้องการหนีข่าวฉาวจริงหรือไม่อย่างไร 

อ่านต่อ: 7 ศิลปิน ยุคเก๋าคัมแบ็คพร้อมกับโปรเจ็คท์ดีๆ | daradaily

ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข

ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข

      Q. “ติ๊ก กิตติพันธ์” ในวันนี้ยังมีคนจำได้ไหม 
วันนี้จะมีใครรู้จักผมไหม คงไม่มีแล้ว  เดิมผมเป็นอดีตนักร้อง นักแสดง ถ่ายแบบ ช่วงหลังก็ไม่ได้ทำงานในวงการเพราะไปทำงานอื่นเลยครับ
       Q.ช่วงที่ดังที่สุด เป็นไง ปีไหน 
พีคสุดคือช่วงที่ออกอัลบั้มที่สอง  20 กว่าปีแล้วละ ตอนนั้นเล่นละครเยอะมากๆ เป็นนิยายรักนักศึกษา โดยมากเป็นละครช่อง 3 ผมเป็นยุคกลางๆ 80 สมัยไหนยังออกแผ่นเสียงและเทป คาสเซ็ตอยู่เลย ยังไม่มีซีดี 
       Q. ยังโลดแล่นในวงการ อะไรทำให้คิดออกไปทำอย่างอื่น 
ด้วยความที่ผมแบบว่าช่วงหนึ่งนั่ง ดูละครตัวเอง  7 วัน การที่ผมมีละคร 7 วัน มันเร็วมากๆ วงการชื่อเสียงมาแล้วก็ไปนะ มันเร็วมากๆ คืองานในวงการมันสั้นลงทุกวัน  วันหนึ่งผม เดินไปถาม “อาเปี๊ยก พิศาล” ตอนนั้นผมเล่นเรื่องซอสามสาย ผทก็ไปถามอว่าผมควรออกวงการช่วงไหนดี 
       Q.อาเปี๊ยก ว่าไง
อาก็บอกว่า มึงเป็นบ้าไปหรือเปล่า แต่ถ้าจะออก อาบอกให้ออกช่วงที่ดังที่สุด แต่ต้องดูแลตัวเองให้ดี  คนที่ออกไปจากวงการ เอ็งไม่รู้หรอกว่าวันหนึ่งอาจจะกลับเข้ามา ผมก็ตัดสินใจออก
 

ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข

ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข

      Q.จากนั้นไปทำอะไร 
ก็ไปทำธุรกิจ ช่วงนั้นก็มีข่าวเรื่องผม คือผมมีแฟนจริงๆ ตามข่าวที่เป็นคู่กันสมัยนั้น ผมไม่อยากเอ่ยชื่อ  คือเรื่องนั้นไม่อยากพาดพิงเขา หลายครั้งที่เขาพูดถึงเราแง่ลบ ผมไม่เคยไปโต้ตอบ คือผู้หญิงเสียเวลากับเรามาหลายปี ฉะนั้นมาบอกว่าเคยบอกว่ารักและโกรธกันมาพูดอีกแบบ ผมไม่ทำ
       ผมมองว่า ต้องหาอะไรทำ วงการบันเทิงยังไม่ตอบโจทย์ คือตัดสินใจไปทำสำนักพิมพ์ตอนนั้นผมเจอคุณแจง  ภรรยาในปัจจุบัน ก็ทำหนังสือกัน ยุค ภาณุเดช เล่มที่ ดังที่สุด ดังที่สุดคือเรื่องของ “คาร่า พลสิทธิ์”  หลังจากนั้นก็ไปทำออแกไนซ์  ผมว่าเราเป็นเจ้าแรกที่บุกเบิกการทำบู้ทขายหนังสือในห้างสรรพสินค้า  ผมต้องขอบคุณผู้ใหญ่ในสำนักพิมพ์ดอกหญ้า ในตอนนั้น คือเราขายพื้นที่ เขาบอกว่า ถ้าลดเช้าพื้นที่ลดลง แต่คุณเอาความสามารถไปเชียร์หนังสือ จะดีกว่าไหม เราคือเจ้าแรกๆ ที่มีสปอนเซอร์หลังปก เป็นสำนักพิมพ์แรกๆที่เอาหนังสือไปขายในเซเว่น
       Q.แต่งงานเมื่อไหร่ครับ  
แต่งงาน 2 ธค. 20 ปีที่แล้ว ผมวางแพลนแบบนี้  หลังแต่งงาน ผมจะทำงานสองทุ่ม ตอนนั้นหารายได้จากการร้องเพลง พอรู้ว่ามีลูก แล้วก็ตั้งใจว่าให้เวลาอีก 4-5 เดือนเพื่อตรงนี้ คือทำสำนักพิมพ์มันอยู่บ้าน
       Q. มีลูกสาว 1 คน 
ใช่ครับ  น้องเฌอแตม อายุ19 แล้ว ตอนนี้เรียนที่ คณะอักษร จุฬาฯ  ลูกสาวผมเคยเล่นเป็นดาราเด็กใน รอยฝันตะวันเดือด แล้วก็เล่นเป็นแม่พลอยตอนเด็กในสี่แผ่นดิน มิวสิคเคิล 

น้องเฌอแตม

ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข

       Q.วางชีวิตให้ลูกมาทางนี้หรือเป็นสายเลือด
ตอนเด็ก ๆผมบังคับลูกให้เรียนบัลเล่ต์และเปียโน ผมเคยบอกลูกว่าถ้ามีวิชาชีพติดตัวจะดี เป็นจุดเริ่มต้นที่ออดิชั่นมาเป็นนักแสดง 
Q. กว่าจะผ่านมาได้ สำหรับติ๊ก ทราบว่าก็ล้มลุกคลุกคลาน 
ผมว่าดาราหลังๆ เขาเก่งนะ มีโซเชี่ยล ผมใช้ตลอดคือผมไม่ยึดติด ช่วงหนึ่งผมไม่มีงานอะไร ก็ไปเช่ามินิมาร์ท เอาของไปขาย เคยไปขายก๋วยเตี๋ยว ช่วงโควิดไปหางานได้นะ ตอนนั้นผมก็มองว่า มีเครือข่าย ออนไลน์ก็ขายสินค้าได้ คือเดี๋ยวนี้ถ้าใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ จะดีกับชีวิตมากๆ ผมไม่ใช่สื่อไปเผือกเรื่องชาวบ้าน เราสอนลูกเสมอว่าให้คิดเรื่องดีๆ ตอนนี้ผมอายุ 54 มีคนถามว่าผมดูแลตัวเองยังไง 1 อาเปี๊ยกสอนว่าต้องไม่ลงพุง พอลงพุงจะทำให้แก่ ผมก็ดูแลเรื่องอาหารให้มากขึ้น 
      Q.ติ๊กในวันนี้กับเมื่อก่อน ต่างกันยังไง
เมื่อก่อนไม่พูดความรู้สึกของตัวเอง ตอนนี้เราพูดอะไรก็อยากให้คนคิด ไม่ว่าบวกหรือลบ คนอย่างผมในวันนี้คือต้องสู้เพื่อลูกครับ   

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

30ปีบนเส้นทางบันเทิง “ติ๊ก กิตติพันธ์ พุ่มสุโข”  เปิดใจที่แรกเรื่องลูกสาว

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.daradaily.com/news/126375/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/126375/read