ส่องชีวิตล่าสุด ชลิต เฟื่องอารมย์ ผันตัวทำสวนทุเรียน รวยเป็นเศรษฐีร้อยล้าน


ให้คะแนน


แชร์

หายหน้าหายตาจากจอทีวีไปพักใหญ่สำหรับ ตุ่ม ชลิต เฟื่องอารมย์ นักแสดงอาวุโส เปลี่ยนเส้นทางชีวิต หันไปเป็นเกษตรกรปลูกทุเรียน ขายดีมากจนคนมาเหมาทั้งสวน ล่าสุด ตุ่ม ชลิต ออกมาเปิดใจในรายการโต๊ะหนูแหม่ม กับพิธีกรตัวแม่ หนูแหม่ม สุริวิภา ถึงการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ พร้อมเปิดใจเรื่องงานในวงการบันเทิงหลังจากนี้

เริ่มต้นที่จะไปเป็นชาวสวนทุเรียนตั้งแต่เมื่อไร?

ตั้งแต่เราวัยรุ่นแล้วนะตั้งแต่เริ่มเล่นละคร เริ่มมีอาชีพเป็นนักแสดง ซึ่งตากล้องช่อง 3 เค้าจะขายพื้นที่จันทบุรีรายละ 30,000 ซึ่งเราก็พอจะมีเงินไปซื้อแล้วจันทบุรีเค้าปลูกทุเรียน เราก็เริ่มปลูกแต่พื้นที่โล่งๆ ว่างเปล่า ตอนแรกซื้อมา 15 ไร่ และทำไปเรื่อยๆ ซึ่งครั้งแรกเราก็ปลูกทุเรียนเลย แล้วก็มังคุด เงาะ ลองกอง อะไรที่เป็นผลไม้ของเมืองจันท์เราลงหมดเลย

การทำสวนมันอยู่ในความฝันเรามั้ย?

เราเรียนรู้และศึกษาเอาเอง จากคนที่เราให้เขามาดูแลสวน ซึ่งเมื่อก่อนเราไปนอนพักผ่อนและมีหน้าที่จ่ายเงินเดือนเขาอย่างเดียว พอเราเริ่มรู้จักคนที่สมาคมเมืองจันท์ เราก็ไปช่วยงานเขาบ่อยจนกลายเป็นคนเมืองจันท์ไปแล้ว และเราก็ไปหากินที่นู่น ช่วยงานจังหวัดโดยไม่ต้องจ่ายค่าตัว ไปช่วยให้ฟรี

ตอนนี้ขยายได้กี่ไร่แล้ว?

จาก 15 ไร่ ตอนนี้เป็น 50 ไร่แล้ว และเราก็เริ่มซื้อไปเรื่อยเรื่อย ตรงไหนเค้าเดือดร้อนมาเราก็ช่วยซื้อ ซึ่งเมื่อก่อนคนสวนถือว่าไม่มีเงินเหมือนตอนนี้ เมื่อก่อนทุเรียนถูกราคา 30 บาท แต่ปัจจุบันมูลค่ามันขึ้นมาเยอะขึ้นเพราะเราส่งออกไปที่จีน

ค่าใช้จ่ายเดือนเท่าไร?

ใช้เงินหลักแสนในการทำสวน ต้องมีค่าใช้จ่ายในการทำสวนแล้วก็คนงาน ถ้าพูดถึงตอนนั้นกับตอนนี้การลงทุนก็ใกล้เคียงกัน แต่ตอนนี้มากขึ้นกว่าทุเรียนเป็นโรคมากขึ้น สารพัดโรคเลย

การที่จะเป็นเศรษฐีร้อยล้าน เป็นเจ้าของสวนทุเรียนยากไหม?

อย่าทำเลยไม่แนะนำ เพราะถ้าคนงานขาดเราทำเอง ซึ่งคนงานเราก็ต้องจ่ายราคาแพง เดี๋ยวนี้ไม่ใช่ถูกๆ เมื่อก่อนวันละ 100 เดี๋ยวนี้วันละ 300- 400 ทุกอย่างต้องลงทุนหมดแต่ทุกคนมองไม่เห็น ทุกคนมองเห็นแต่เงิน ว่ามันต้องได้เยอะอย่างนั้นอย่างนี้

ทุกวันนี้คนไทยมีโอกาสได้กินทุเรียนสวนเราไหม?

เราก็ไม่แน่ใจว่ามีใครได้กินบ้าง เมื่อก่อนนี้ได้กิน ซึ่งทุเรียนเมืองจันท์มันเยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้ล้งคนจีนมาเหมาทั้งสวนเลย ซึ่งเค้าจะมีคนงานมาตัดและเขาก็จะคิดค่าตัดเรารวมอยู่ในราคาซื้อทุเรียน เจอกันที่ 20 กว่าคน มาที 20 กว่าตัน ไม่ได้ตัดแค่ 100-200 กิโล

อนาคตและความคาดหวังจากนี้ไปเป็นยังไงบ้าง?

เราไม่ได้คาดหวัง คิดแค่ว่าทำปีนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง ทุกอย่างเราต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด เพราะให้เงินเรา เราก็ต้องดูแลเขา เราต้องเร่งราก ตัดแต่งกิ่ง ฉีดยาทุกอย่างให้เขา อยู่กับเขาตั้งแต่ตีห้ายัน 6 โมงเย็นทุกวัน ซึ่งทุกวันนี้เราก็อยู่ที่จันทบุรีเป็นหลัก

เป็นมรดกให้กับลูกได้ไหม?

อยู่ที่ว่าเค้าจะเอาหรือไม่เอา เพราะไม่รู้ดูไม่ออกว่าใครจะเอา อาจจะเป็นหลานก็ได้ที่อยากจะทำต่อ ก็ต้องรอดูต่อไป แต่คิดว่าลูกหลานคงไม่ทิ้งเพราะมันคงเป็นมรดก

ทุกวันนี้ยังทำงานในวงการบันเทิงต่อไปไหม?

ทำสิๆ มันคือชีวิตของเรา เพราะอย่างน้อยตอนนี้ก็ยังโชคดี ยังมีงานมาให้เราได้เล่นบ้าง แต่เราก็มาเจอในกองมองเห็นสภาพที่เราตอนเป็นหนุ่ม รวมไปถึงผู้จัดละครที่สนิทสนม ได้ไปเจอนักแสดงรุ่นเดียวกันมันก็มีความสุขอีกอย่างนึง ได้เห็นการเป็นไปของเพื่อน อย่างน้อยวงการนี้มันมีอะไรซึ่งเรารักกันโดยไม่รู้ตัว เวลาไปทำงานมันจะรู้สึกภาพเก่าๆ มันปรากฏแล้วทำให้เรารู้สึกว่ามันมีเสน่ห์ มันมีความสุข.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2696188
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/2696188