แน็ก ชาลี รัก เก๋ไก๋ จริงไม่คอนเทนต์ คุยแล้วมีความสุขแม้แตกต่าง (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

เป็นอีกคู่ที่ถูกแฟนๆ ต่างจับตามองในความสัมพันธ์สำหรับ แน็ก ชาลี กับ เก๋ไก๋ ณัฐธิชา หรือ เก๋ไก๋ สไลเดอร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แน็ก ออกมาประกาศตัวว่าไม่โสดแล้ว ก็ได้สร้างความฮือฮาให้กับแฟนๆ อย่างมาก แม้จะยังไม่ตกลงเป็นแฟนกับ เก๋ไก๋ แต่ก็มีโมเมนต์หวานๆ ออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ 

ล่าสุดได้เจอ แน็ก มาร่วมงาน Blue beetle Thailand Premiere ที่ลานกิจกรรมชั้น 7 ณ SF World Cinema @ Central World เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์ถึงความรักครั้งนี้ว่า

ตอนนี้ใช้ความหล่อของตัวเองให้เป็นประโยชน์ได้แล้ว?

“ผมรู้สึกว่าตัวผมจริงๆ แก่ขึ้นด้วยแหละ พออายุจะ 30 ตอน 29 เราเลยลองว่าเราจะลดน้ำหนักให้ได้ อยากลองดูว่าจะทำได้มั้ย เพราะเราลองทำมา 6-7 ปีแล้วมันไม่สำเร็จ แล้วมันก็ลดได้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มขึ้นมาแล้ว แค่เดือนเดียวขึ้นมาเกือบ 11 โลแล้ว ตอนลดลดไปเกือบ 30 โลเลยครับ ผมลดจากเกือบ 80 ลงไปเหลือ 54 เรารู้สึกว่าเราอยากดูแลตัวเองมากขึ้น ผมว่าถ้าผมปล่อยตัวไปอีก ผมจะกลับมายาก 

จุดพีกที่อยากลดน้ำหนักก็คือว่าตังค์ในธนาคารเรามันหมด เราเห็นจำนวนเงินมันจะไม่เหลือแล้วนะ ผมว่าในยุคนี้เราต้องยอมเหนื่อย ยอมดูแลตัวเองที่จะกลับมาทำงานได้ ผมลดด้วยวิธีงดน้ำอัดลม และกินข้าวน้อยลง ตอนที่น้ำหนักเหลือ 53 ทำผมเสพติดการชั่งน้ำหนัก เชื่อแล้วว่าคนที่ถูกว่าคลั่งผอมเป็นยังไง เพราะผมก็เป็นเหมือนกัน”

ใช้เวลานานเท่าไรในการน้ำหนักลง?

“ผมลงเร็วมาก เดือนเดียว 20 กิโลแล้วครับ 2 เดือนก็ลงแตะเกือบ 30 โล และดูเด็กลงด้วยครับ”  

เพราะมีแฟน เราเลยหล่อรึเปล่า?

“ไม่ใช่ๆ จริงๆ ผมหล่อตั้งแต่เกิดแล้วครับ เหมือนเราเปลี่ยนแปลงในช่วงอายุ ช่วงนี้เราอยากผอม เราก็ทำการบ้านเรื่องผอม เราอยากตัวใหญ่ เราก็ทำให้ตัวใหญ่ แต่ว่าตอนนี้เราอยากคุมเรื่องผอมให้ได้นานที่สุดครับ”

แต่ตอนนี้คลั่งรักเลยใช่มั้ย?

“ตัวผมอาจจะไม่ได้คลั่งขนาดนั้น ผมเป็นคนที่จริงจังในความรัก และให้ทุกวันสำคัญหมด อาจจะไม่ได้ดูหวือหวา หรือคลั่งเกินขนาดนั้น หมายถึงตัวผมนะ”

ครั้งนี้เริ่มต้นจากอะไร?

“เราก็แก่แล้วด้วย และเราได้มีโอกาสได้คุยได้เจอกันอีก มันก็เป็นอะไรที่ดีนะ พอแต่ก่อนชอบอยู่คนเดียวมาก ไม่ได้คุยกับใคร พอเอาจริงเวลามี มันก็รู้สึกดีกว่า”

ผู้หญิงเข้ากับสไตล์เรายาก เก๋ไก๋เข้ากับเราได้ยังไง?

“เอาจริงเรา 2 คนไม่ได้เข้ากันได้เลยนะ (หัวเราะ) ผมจะบอกทุกคนว่าคนสองคนมันต้องมีอะไรที่คล้ายกัน มันเลยจะอยู่ด้วยกันได้ แต่ผมจะบอกอะไรให้เลยว่าพอมาเจอจังหวะชีวิตจริงๆ มันไม่ใช่เลย สำหรับผมถ้าตามที่เราคุยกันไม่ได้มีอะไรที่คล้ายกันเลย” 

ประทับใจอะไร?

“ก็คงเป็นคนที่นิสัยดี และน่ารักมากๆ”

จีบเขายังไง?

“ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่แบบ ตอนหลังเราทำงานใช่มั้ย ก็มีทั้งแบบได้คุยและก็ไม่ได้คุย เหมือนที่วันนั้นผมไม่ได้เปิดตัวเลยนะ เราก็ตอบตามจริง สถานะเราก็ไม่ได้มาถามขอกันแล้ว ผมก็โตแล้วผมก็ไม่ใช่คนมุ้งมิ้ง ก็รู้สึกเขินถ้าต้องมานั่งถามว่เาป็นแฟนกันมั้ย แต่สำหรับผมมันเกินจุดนั้นแล้วด้วย เราก็ไม่ได้คุยกับใครเลย คุยอยู่คนเดียว สำหรับผมถึงจะไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน แต่มันเหมือนนะ”

ทำไมถึงเลือกที่จะพูด เพราะก่อนหน้านี้ที่เราบอกว่าเรามีคนคุย แต่เราไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นใคร? 

“ช่วงนี้ตัวผมก็คุยกันจริงๆ และคนก็ถามเยอะ แต่ว่าไม่รู้จะตอบว่าอะไร เราก็ตอบตามจริง คือเราก็ไม่ได้หวานเหมือนคู่อื่น ตัวผมอาจจะไม่ได้ลงอะไรเยอะแยะมากมาย ถ้าตอนนี้เรามีคนคุยก็คุยอยู่คนเดียว ก็ไม่ได้ต่างจากแฟนอะไร”

แคปชั่นที่ลงแต่ละอย่างคือหวานมาก?

“อันนั้นเป็นสไตล์เขาที่ชอบลงน่ารักๆ เขาเป็นคนที่ชอบเมนต์อะไรน่ารักๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าตัวผมอาจจะไม่ได้พิมพ์หรือเมนต์อะไรแนวนั้น ผมคิดว่าคงทำให้แฟนๆ หลายคนได้อ่านหรือได้ยิ้มไปด้วย ก็น่ารักดีครับ”

เป็นแฟนเก๋ไก๋อาจจะต้องหล่อตลอด?

“ไม่ๆ ผมว่าตัวผมอาจจะสภาพนี้ได้ไม่นาน คงมีเปลี่ยนไปบ้าง เอาจริงๆ ตัวเราต้องมีความตลกไปด้วย ชีวิตประจำวันเราไม่ได้เก๊กหล่อตลอดเวลา มันอาจจะมีสลับๆ กันบ้าง”

เขาบอกมั้ยว่าอยากให้เราอยู่ในสภาพนี้?

“มีๆ เขาบอกว่า พี่นิ่งๆ หน่อย แต่ผมนิ่งได้ไม่นานหรอก ชีวิตผมถ้าช่วงที่จริงจังก็จริงจัง มีตลกบ้าง เครียดบ้าง” 

คนนี้จริงจังมั้ย?

“จริงจัง” 

รักมั้ย?

“รักๆ (ยิ้มเขิน)”

ด้วยความที่เราเป็นยูทูบเบอร์เหมือนกัน เราอยากจะพาเขามาอยู่ในโลกของเรามั้ย?

“มันแปลกมากที่เราอาจจะไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกันมาก เพราะว่าเราความเห็นไม่ตรงกันหลายอย่าง แต่ว่าความแปลกคือสิ่งที่ทำให้เรายังคุยกันได้อยู่ มันยังมีเรื่องที่เราปรับความเข้าใจกันไม่ได้สักที เราก็เถียงกันตลอด เลยอยู่ได้นานนะผมว่ามันแปลกดี มันไม่เหมือนคู่อื่น

เถียงกันเรื่องงาน ผมก็อยากจะทำงานกับเขานะ แต่ว่าความคิดเราอาจจะยังไม่ตรงกัน 100% เขาก็หัวคิดที่เก่งมากๆ เราก็ชอบคิดงานเอง พอมาอยู่ด้วยกันเรื่องงานเลยยังไม่ได้ เลยคิดว่าถ้าเราลง เราลงอะไรที่น่ารัก เป็นธรรมชาติ สิ่งที่เราชอบคล้ายกันคือเรื่องดนตรี เรื่องเพลง ก็อาจจะให้คนได้เห็นมุมนี้มากหน่อย”

แสดงว่างานคู่ก็มีติดต่อเข้ามา?

“มีๆ ถ้าวันหนึ่งเราคุยกันรู้เรื่องขึ้น ยอมที่จะคนละครึ่ง ผมว่าคนอาจจะได้เห็นงานด้วยกันมากขึ้น”

พาเขารู้จักสิงสาราสัตว์ของเรามั้ย?

“ไม่ๆ ผมรู้สึกว่าสัตว์เลี้ยงแปลกๆ เราต้องดูแลเอง”

มุมโรแมนติกของเราอยู่ตรงไหน?

“มุมโรแมนติกเราไม่ค่อยมี แต่เรามีความสุขที่มันเป็นแบบนี้ เหมือนมันเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ แล้วใช้เวลานาน ถึงสถานะตัวผมจะไม่ขอกัน แต่ตอนนี้ก็มีความสุขที่เราเป็นอย่างนี้กัน”

คุยกันนานรึยัง?

“โห มีช่วงหนึ่งที่ผมไปจีบหลายรอบอยู่เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าตอนหลังต่างคนก็ไม่ได้คุยกับใคร และเราก็มีโอกาสมาคุยกัน มันก็ดีกว่าไม่ได้คุยกันอะ”

ตอนที่ไปจีบหลายรอบเหนื่อยมั้ย? 

“ไม่เหนื่อยหรอก เหนื่อยตรงที่เถียงกันมากกว่า”

ทำไมอยู่ดีๆ ถึงคลิกกัน?

“ไม่มีครับ เรายังไม่ได้คลิกอะไรกัน อย่างที่เขาเล่นมุกวันที่ 12 ส.ค. ผมก็ไม่ได้ให้วันนั้น เพราะผมยกให้เป็นวันของครอบครัว ตัวผมมองว่าจะเป็นวันที่ 13 ก็ได้ ถ้าจะคบ ตัวเราไม่จำเป็นต้องระบุวัน แค่คุยกันแล้วมีความสุขก็โอเคแล้ว”

ทำไมถึงต้องจีบคนนี้ เขามีอะไรมาดึงดูดเรา?

“ผมว่าน่ารัก นิสัยดี เขาชอบร้องเพลง เขาชอบทำดนตรี ผมชอบเขาร้องเพลงมากๆ อยากให้ทุกคนได้เห็นเขาในด้านร้องเพลงเหมือนกัน”

อะไรที่ทำให้เขายอมเป็นแฟนเรา?

“ผมแปลกตรงที่ว่าเราไม่ได้คลิกกันได้ทุกเรื่อง เราไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง เรื่องงานความเห็นเราไม่ตรงกัน แต่คำตอบง่ายๆ เลยแค่มีความสุข มันก็น่าจะโอเคแล้ว”

มีทะเลาะกันมั้ย? 

“ก็มีบ้างนะสำหรับการคุยของเรา แต่ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติมาก จริงๆ เราก็ไม่ได้อายุน้อยกันแล้ว แค่งานไหนความคิดเราไม่ตรงกัน เราก็ไม่ทำแล้ว แค่นั้นเอง”

คนแซวเยอะมั้ย?

“แซวเยอะ ตั้งแต่ยังไม่ได้คุย แต่สิ่งสำคัญเลยที่คนไม่ได้เห็นผมลงอะไรที่หวือหวา ก็คือผมเป็นคนห่วงความรู้สึกคนนะ ถึงเราจะมั่นใจในความมั่นคงแค่ไหน แต่เราก็เห็นตัวอย่างหลายๆ คู่นะ พอผิดหวังเราเดาไม่ถูกหรอกว่าชีวิตเราสองคนจะเป็นยังไง กลัวทำให้คนอื่นผิดหวัง รอให้เวลาทำให้เห็นอะไรมากขึ้นดีกว่า”

วันนี้ถือว่าเรียกแฟนเลยมั้ย?

“ผมไม่เคยเรียกเลย สถานะเหมือนเป็นแฟนกันทุกอย่าง แต่ผมไม่เคยเรียกเลย”

เห็นที่ทุกคนพาดหัวว่าเปิดตัว?

“วันนั้นน้องๆ ถามผมในไลฟ์ ผมก็ไม่รู้จะตอบว่าอะไร สภาพของผมสองคนก็ไม่ต่างจากคำว่าแฟนแล้ว ใครจะเรียกอะไรก็ช่าง แต่ผมมีความสุขที่ได้คุยได้เจอ” 

ชุ่มชื่นหัวใจใช่มั้ย?

“ดีๆ” 

เราเรียกเก๋ไก๋ว่าอะไร?

“น่าจะเรียก ตัว เขาก็เรียกผมว่าพี่ครับ”

หลายคนมองว่า สไปรท์ แฟนเก่าของ เก๋ไก๋ ก็เปิดตัวคนรู้ใจพร้อมกัน?

“ผมเห็นแล้วๆ ตัวผมก็ไปดูนะครับ ผมมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เราทุกคนต้องให้เกียรติกันนะ ก็ต้องมองว่าถ้าเขาเป็นคู่ที่น่ารักก็ต้องเปิดใจ คือทุกคนน่ารักหมด ถ้าทุกคนได้ทำงานด้วยกัน ส่งเสริมกัน เราก็ต้องให้กำลังใจ รู้สึกต้องยินดีกับเขา”

ไม่ได้แข่งกัน?

“ไม่ๆ ผมโตแล้ว ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยครับ”

ไม่ใช่คอนเทนต์เนอะ?

“ไม่ใช่ครับ เป็นคนไม่ใช่คอนเทนต์ และเป็นคนไม่ได้โกหกคนอยู่แล้ว ความรู้สึกเราเป็นยังไง เราก็บอกอย่างนั้น เราคุยกันยังไง ก็เป็นตามที่ผมบอกครับ”

สาวๆ อกหักกันทั้งประเทศมั้ย?

“ไม่อกหักหรอกครับ สภาพผมมีคนอกหักด้วยเหรอ ไม่หรอกคือผมอายุเยอะแล้วและก็ไม่ได้มีคนคุยอย่างนี้มานานมาก ก็ต้องยินดีกับพวกเราด้วยนะ”

คนนี้แต่งงานเลยมั้ย?

“เรื่องแต่งงานต้องดูให้รอดก่อน ต้องให้สองคนเอาให้รอดก่อน ไม่เถียงกันและคุยกันให้เคลียร์ทุกอย่างก่อน อันนั้นผมว่าเป็นเรื่องของอนาคต”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2717805
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2717805