“หวาย ปัญญ์ธิษา” ก้าวข้ามคำบูลลี่เลือกที่จะแคร์คนที่หวังดีต่อกัน
กลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแม่วงการ T-POP สำหรับ หวาย-ปัญญ์ธิษา เธียรประสิทธิ์ ศิลปินสาวค่าย XOXO Entertainment ล่าสุดปล่อยซิงเกิล “ให้พูดได้มั้ย? (Let me talk)” กับน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์แนว R&B ที่คุ้นเคย สาวหวายได้เล่าถึงความฟินที่ได้กลับมาร้องเพลงช้าสุดเศร้าในรอบ 2 ปีที่โหยหา เป็นตัวแทนของคนที่อึดอัดติดกับดักในความสัมพันธ์ที่แย่ๆ พร้อมอัปเดตสุขภาพ ทำให้ต้องปรับการใช้ชีวิต ส่วนความรักหลังเลิกรามิโน ปาร์เรลลา จบด้วยดี ทุกวันนี้ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังมองความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ใน “คนดังนั่งคุย”
ทำไมถึงตัดสินใจมาทำเพลงช้าล่ะ “มีหลายๆคนทักเข้ามา โดยเฉพาะแฟนๆ เมื่อไหร่จะปล่อยเพลงช้า 2 ปีแล้ว ทำให้เรามาคิด ถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่สำคัญอยากจะปล่อยเพลงทำให้คนฟังนึกถึงเรา นึกถึงเพลงของเราในอดีตเลยทำเพลงนี้ออกมา”
พอกลับมาร้องเพลงช้าต้องทำการบ้านเพิ่มเติมมั้ยเพราะเพลงก่อนๆจะฟีลสนุกๆ สีสันจัดจ้าน “ใช่ค่ะ ต้องทำการบ้านเยอะค่ะ ตัวหวายค่อนข้างเอเนอร์จี้เยอะ มาอัดเพลงช้าร้องบิลต์ อารมณ์เยอะมากๆ ต้องทำการบ้าน ทำความเข้าใจกับเพลง ถ่ายเอ็มวีต้องควบคุมอารมณ์ของตัวเองมากๆ”

เพลงนี้จริงๆต้องการสื่อสารอะไรออกไป “ที่จริงเพลงนี้อยากเป็นตัวแทนของคนที่อยู่ในท็อกซิกรีเลชันชิปความสัมพันธ์ อยากเป็นตัวแทนคนที่อึดอัดกับความสัมพันธ์แบบนี้ ไม่ว่ากับแฟนหรือครอบครัว กับใครก็ตาม ที่จริงเราหลุดพ้นจากตรงนั้นออกมาได้ ก็อยากให้ทุกคนพูดออกมา สิ่งที่เราเจอคืออะไรบ้าง หาคนที่เราสนิท เชื่อใจพูดกับเขาไป สิ่งที่เราเจอเป็นแบบนี้ พอเราต้องเก็บสิ่งเหล่านั้นเอาไว้ บางทีแค่พูดออกไปมันก็คงจบ”
พอกลับมาร้องเพลงช้าๆ ฟังเพลงนี้ครั้งแรกแล้วรู้สึกยังไงบ้าง “ก็มีนะคะด้วยความที่เราอยู่ตั้งแต่อายุ 13 เรารู้สึกว่าตอนนั้นแนวร้องของเรา การออกเพลง ตัวโน้ต เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ด้วยแนวเพลง การควบคุม โทนของหวายคล้ายเดิม แต่คีฟความเป็นอาร์แอนด์บี นั้นไว้เลยรู้สึกว่าเพื่อนๆ ฟังเพลงนี้นึกถึงหวายในอดีต โดยเฉพาะเนื้อหาเนื้อร้อง เขาเอาคำพูดที่หวายเคยชอบใช้เพลงก่อนๆ รวมถึงเนื้อร้องในเพลงก่อนๆนำมาเป็นกิมมิกในเพลงนี้ ใครฟังจะนึกถึงหวายในอดีตที่เคยร้องมา”
ปล่อยเพลงนี้คนรอบข้างมีฟีดแบ็กกลับมายังไงบ้าง “คนที่สนิทๆ หรือแฟนๆที่ฟังจะบอกว่าชอบมาก ฟังแล้วนึกถึงหวายคนเดิม ดีใจเพราะว่านั่นคือโจทย์ของหวายเลยที่ทำให้ทุกคนนึกถึงเรา ดีใจฟีดแบ็กออกมาดีเพราะเราไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ด้วยความเราไม่ปล่อยเพลงช้านานแล้ว กลัวคนตามไม่ทันแต่หลังจากได้กำลังใจเข้ามาใจฟูมากๆ ไม่คิดว่าทุกคนคอยซัพพอร์ตขนาดนี้”
มีโอกาสได้ลองเขียนเพลงบ้างมั้ย “เพลงนี้ยังไม่ได้ลองแต่ในอนาคตก็อยากจะลองเขียนเองเหมือนกัน ลองแต่งเนื้อร้องเพลง อยากทำเพลงเอง เพื่อนๆ ของหวาย ทั้งทีเจ กวินท์ ก็ทำเพลงของตัวเอง หวายเลยมีความรู้สึกว่าอยากลองทำดูเหมือนกัน รวมถึงกำกับมิวสิก รู้สึกชอบอะไรแบบนี้ ชอบอยู่เบื้องหลังเหมือนกัน”

ปกติแต่ละเพลงของหวายเราจะใส่เต็มทุกอย่างเสื้อผ้า หน้าผม พอเป็นเพลงช้าเศร้าๆเก็บอารมณ์ “อึดอัดค่ะ อยากให้ทุกคนได้เห็นเบื้องหลังมากๆ ตลกมาก บางตอนเราอยากอ้าปากกว้างๆ โชว์ไม้โชว์มือแต่ทำไม่ได้ ต้องคีฟอินเนอร์ให้มันเป็นแบบนั้นไปตามเนื้อหาเพลง พอมือไม้เริ่มขึ้นมา ผกก.จะเตือนหวายเอามือลง เศร้ากว่านี้หน่อย”
ด้วยบุคลิกเราจะเป็นคนมั่นใจเกินร้อย พอมาโหมดหวานเศร้าๆคนจะไม่ค่อยชิน “ใช่ค่ะ ทุกคนค่อนข้างตกใจ ทักเข้ามาไม่เคยเห็นในโหมดนี้ ดีใจที่ทุกคนอินกับเพลงและมิวสิก ดีใจได้น้องเน็ต (สิรภพ มานิธิคุณ) เป็นพระเอกเอ็มวี ส่งอารมณ์ดีมากๆค่ะ”
จากสายตาคนภายนอกมองหวายเป็นสาวมั่นมากเลยนะ จริงๆเราเป็นคนยังไง “เมื่อก่อนเด็กๆเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมาก รักในการเป็นตัวของตัวเอง พอเรามาเจอคำพูดต่างๆเริ่มกดเรามากขึ้น พอเราโดนกดกับคำพูดเหล่านั้นมาตลอด แน่นอนความมั่นใจของเราก็จะลดน้อยลง มันถึงขั้นความมั่นใจเป็นศูนย์ ดาวน์มากๆ เสียใจมากๆ จนทุกวันนี้พอเราโตขึ้นมาอีกสเต็ปเราเข้าใจ ที่จริงเราควรจะเลือกแคร์มากกว่า เหมือนตอนเด็กๆเราไม่แคร์เลย พอช่วงแคร์ก็แคร์ทุกคนมากเกินไป แต่ตอนนี้เราหาความเป็นกลางได้ เราเลือกแคร์คนที่รักเราก็พอ คนไม่หวังดี ไม่รักเราไม่ต้องแคร์คำพูดนั้น ถ้าคำพูดนั้นเนกาทีฟแต่หวังดีต่อเรามาปรับปรุงตัวเอง เรารู้แล้วรับอะไรและไม่รับอะไร ตอนนี้ความมั่นใจเริ่มๆ กลับมา น่าจะเกินร้อยเร็วๆนี้ (หัวเราะ)”
ครั้งนี้ลุคหวายก็เปลี่ยนไป “ตั้งใจจะให้ทุกคนมองเค้ามีอีกมุมเหมือนกันนะ บางทีดูสวยได้เหมือนกัน ไม่เปรี้ยวเซ็กซี่ได้อย่างเดียว” ปกติย้อมผมสีๆ ตลอดแต่ครั้งนี้กลับมาผมดำอีกครั้ง “ด้วยความไม่ได้ทำสีผมดำมานานก็อยากกลับมาผมดำ สู่โหมดเพลงนี้ด้วยอยากให้ทุกคนเห็นเราโทนดาวน์จริงๆ แต่อีกไม่นานหรอก ก็จะย้อมเป็นผมสีๆแล้วคิดถึงตรงนั้นมาก เพราะเป็นคนชอบผมสีๆ ที่สำคัญเราจะมีคอนเสิร์ต “GRAMMY X RS: 2K Celebration Concert รวมถึง กามิกาเซ่ ปาร์ตี้ รียูเนี่ยน คอนเสิร์ต ด้วย ก็อยากปรับโหมดให้สนุกเหมือนเดิม พอรู้จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ แบบนี้ก็ตื่นเต้นค่ะ ตอนขึ้นอิมแพ็ค กามิกาเซ่ มันใจฟูมากๆ กับคอนเสิร์ตแกรมมี่-อาร์เอส หวายไม่คิดเลยจะเกิดขึ้นได้ พอเกิดขึ้นจริงๆ พอทีมงานมาบอกเรามีคอนเสิร์ตนี้ก็รีบรับเลย”
ตอนนี้เราเป็นศิลปิน XOXO เราสามารถขึ้นคอนเสิร์ตต่างค่ายก็เลยสงสัยไม่ได้มีปัญหากับต้นสังกัดใช่มั้ย “หวายโชคดีมากๆ พี่กร ค่าย XOXO จะเปิดโอกาสถ้าหวายอยากทำอะไรเค้าเต็มที่ พร้อมที่จะซัพพอร์ต อะไรที่ทำให้เราได้ต่อยอดได้ ไม่ใช่แค่หวาย ศิลปินท่านอื่นๆ เค้าก็ยินดี”
ก่อนหน้านี้หวายป่วยตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง “หลายๆคนรู้อยู่แล้วก่อนหน้าเป็นโรคซึมเศร้าและแพนิก ดิสออเดอร์ ล่าสุดมีในเรื่องหัวใจด้วย กำลังรักษาอยู่ ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ เพราะก่อนหน้านี้ หวายไปออกงานมีเหตุการณ์หัวใจวาย มันเลยกลายรักษาตรงนี้ไม่ให้หัวใจเราเต้นผิดปกติ เท่าที่คุยกับหมอก็ยังไม่รู้สาเหตุ แต่หมอบอกว่าดีที่เรารักษา ปล่อยให้นานกว่านี้น่าจะซีเรียสมากกว่า ขั้นตอนการรักษา ก็ทานยาเป็นเวลา ปรับไลฟ์สไตล์ให้เข้าหากับหัวใจของเรา ที่จะทำให้มันแข็งแรงขึ้น เฝ้ารักษาแบบนี้ไประยะนึงก่อน”

โรคเดิมยังเคลียร์ไม่จบ พอรู้มีโรคเพิ่มเข้ามาทำให้เราบั่นทอนจิตใจบ้างมั้ย “ช่วงแรกที่เป็นนอยด์และดาวน์มากๆ เพราะว่าเรารู้สึกว่า วันที่เราอยากออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ไปโน่นไปนี่กับเพื่อนๆใช้เวลายาวนานกว่าเราจะรู้จักการควบคุมแพนิกของเรา ทำความเข้าใจก็ใช้เวลานานมาก พอมาเจอเรื่องนี้เหมือนเราไม่กล้าออกไปไหนอีก ไม่กล้าทำอะไร กลัวจะเป็นแบบนั้นอีก มันเป็นฟีลเราอยากใช้ชีวิต ออกกำลังกายเหมือนเดิม ไปเรียนไอซ์สเกต กลับไปซ้อมเต้น ทำให้เราใจฟู แต่เจอเรื่องนี้ทำให้เราไม่กล้าออกกำลังกายอีก”
อะไรเป็นจุดที่ทำให้เรากล้าออกจากเซฟโซน “ตอนนี้รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ พอเรามีงานเข้ามา เราทำงานและจำเป็นก้าวผ่านตรงนั้นไปได้ หวายรู้สึกว่าการทำงานช่วยเราให้เรากล้าขึ้นด้วยและช่วยให้เราดูแลตัวเองมากขึ้นมาก หันมาดูแลสุขภาพจริงจังมากขึ้น ปรับเรื่องการกิน กิจกรรม ก็ดีขึ้นมากๆแล้วค่ะ”
สถานการณ์ความรักเป็นยังไงบ้าง “ตอนนี้โสดสนิทเลยค่ะ โฟกัสในเรื่องสุขภาพมากกว่า ถ้าใครเข้ามาก็ยินดีคุยต่อ (หัวเราะ)”
กับคนรักเก่าทุกวันนี้ยังติดต่อพูดคุยหรือห่างกันไปเลย “ยังมีการพูดคุยกัน อัปเดตกันอยู่เรื่อยๆ เพราะหวายกับเค้าเลี้ยงแรคคูนด้วยกัน ตอนนี้แรคคูนอยู่กับเค้า หวายจะคอยสอบถามว่าเป็นยังไงบ้าง ลดสถานะเป็นเพื่อนกันแต่เรายังเป็นห่วงกัน หวังดีต่อกันเสมอ”
พอเปลี่ยนสถานะทำให้ความสัมพันธ์ต่างๆดีกว่าตอนเป็นแฟนมั้ย “ตอนคบเป็นแฟนก็ดีค่ะ พอเป็นเพื่อนมีฟีลลิงเราไม่ต้องคาดหวัง เขาก็ได้ทำงานของเขา เราก็ทำงานของเรา อยากให้เขาเติบโตในเวย์ของเขา เราก็เติบโตในเวย์ของเราเหมือนกัน ไม่ต้องเป็นห่วงกัน ไม่ต้องมาคาดหวัง ตอนคบกันถึงขั้นเราเป็นห่วงกันมาก การทำงานไม่เต็มที่ทั้งคู่ ส่วนอนาคตไม่รู้หรอกเป็นยังไง ตอนนี้ทั้งคู่โฟกัสการทำงานมากกว่า”
มีแฟนๆอยากให้เรากลับมารีเทิร์น พอจะมีลุ้นมั้ย “มีบ้างค่ะ จะรีเทิร์นมั้ยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ ทั้งคู่สบายใจในสถานะที่อยู่กันตรงนี้ ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะหันกลับมาพัฒนาความรู้สึกนั้นอีกก็ได้”
พร้อมศึกษาใครคนใหม่หรือปิดไว้ก่อนดีกว่า “ตอนนี้หวายรู้สึกว่ามีคนเข้ามาคุยได้ ทำความรู้จักเป็นเพื่อน เป็นพี่ไปก่อนเพราะว่าหวายมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่อยากเครียดหรือคิดมากไม่ว่าเรื่องอะไรเลย รับทุกคนเป็นเพื่อนก่อนดีกว่า ถ้าความสัมพันธ์พัฒนาปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ยังมองความรักเป็นสิ่งที่ดี ใครที่เจอความรักไม่ดี อยากให้รู้ว่าจริงๆความรักเป็นสิ่งที่ดีมากๆ”
เคยถามตัวเองมั้ย ทำไมความรักเหมือนจะดีๆ แต่มีเหตุการณ์หักมุมทุกที “หวายก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเคยเจอมากกว่าหวายรู้สึก ว่าที่ผ่านมา กับความสัมพันธ์ กับคนนี้ดีไปหมดเลย เต็มที่ทั้งคู่ เราคบกันเพื่อแต่งงาน ในเมื่อถึงจุดต่างคนต้องโฟกัสงานจริงๆก่อน เราก็ต้องปล่อยให้ทั้งคู่ต้องเติบโตไปมากกว่านี้ก่อนค่ะ”.
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2720118
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/celeb/2720118