มีความกังวลมั้ย? “เรามีความสุขกับการทำงานอยู่แล้ว เราพยายามเอนจอยถึงบทมันจะหนักนิดนึง มันเพิ่งมาเหนื่อยหลังๆหรือซีนที่เราเจอ ร้องไห้ แล้วไหนจะตบตีกับสามีแล้วต้องมานั่งร้องไห้คนเดียว อันนั้นเราเหนื่อย กลับบ้านแล้วพลังหมด แต่เราก็รู้สึกว่าดีกว่าที่จะอยู่บ้านเฉยๆไม่มีงานและเราแฮปปี้กับการทำงานทุกๆครั้งก็เลยไม่ได้เครียด ทุกครั้งที่เราไปเช็กอัปน้องก็สุขภาพดี ดิ้นดี เราก็โอเค”

เวลาเราพูดเยอะๆน้องมีถีบท้องบ้างมั้ย? “ใช่ คือเค้าก็คงสัมผัสได้กับสิ่งที่เรารู้สึก ก็บอกเค้าตลอดเวลาร้องไห้ว่าขอทำงานก่อนนะ (หัวเราะ) ก็แจ้งให้ทราบ (ยิ้ม)”

ตอนนั้นในใจกังวลมั้ยเคมีบางอย่างในร่างกายอาจจะไปมีผลกับลูก? “จริงๆไม่ได้กังวลเลย (ยิ้ม) เราแค่กังวลเรื่องความเหนื่อยมากกว่าก็จะพักผ่อนน้อยแต่เรื่องอารมณ์คิดว่าโอเค ให้นางสนุกๆกับการทำงานบ้าง (ยิ้ม)”

ตอนที่รู้ว่าท้องแล้วยังถ่ายไม่เสร็จเคยคิดอยากจะถอนตัวก่อนมั้ย? “คุยเลยค่ะ คุยกับผู้ใหญ่ทางช่องและทางผู้กำกับ ผู้จัด ว่าเราจะทันหรือเปล่า เราจะยังไงดี คือตอนนั้นหนูถ่ายไปน้อยมากตอนที่ทราบว่าท้องประมาณไม่ถึง 10 วัน ก็มีถามว่าเปลี่ยนตัวทันมั้ย แต่ด้วยความที่เค้าก็เลือกแล้วและทำพีอาร์ไปแล้วก็ไม่อยากเปลี่ยนตัว หนูก็ไม่อยากเปลี่ยน เสียดายโอกาสมาก แต่ที่กังวลเพราะเราไม่อยากให้เค้าเสียงานด้วย พอคุยทุกๆฝ่ายแล้วบอกว่าจัดการเวลาได้ เราก็สบายใจ”

ตอนเข้าฉากท้องใหญ่ที่สุดขนาดไหน? “ไม่ใหญ่เลย เพิ่งมาใหญ่ประมาณหลัง ก.พ.-มี.ค. กางเกงเริ่มใส่ไม่ได้ เริ่มต้องปรับเรื่องคอสตูม”

ในเรื่องเราก็ต้องท้องอยู่แล้ว ก็เลยต่อเนื่องเลย? “ไม่ เพราะละครจะถ่ายไปมาๆ ก็คือตอนยังไม่ท้องแต่ในเรื่องถ่ายตอนท้องโตก็คือยัดหมอนยิ่งใหญ่อลังการและพอมาท้องจริงๆก็เป็นพาร์ตช่วงหลังที่เรามีลูกแล้ว ลูกโต 2 ขวบ แต่ฉันต้องมาใส่ชุดที่มันดูไม่ออกว่าท้องนะ บางทีมันก็จะมีอุปสรรคเพราะเราไม่ได้ถ่ายเรียงกัน”

“โน้ต–วิเศษ” สามี เป็นห่วงมั้ยตอนนั้น? “เพิ่งมาหลังๆ พอท้องเริ่มโตเดือนที่ 5-6 เค้าก็เริ่มมีถามว่าเหนื่อยหรือเปล่า ตื่นเช้าไปกองเค้าก็จะกังวลนิดนึง”

มีเอาตัวละครกลับไปบ้านบ้างมั้ย? “แรกๆเป็นเพราะบทมันหนักมากและเราก็อยากอินให้มากที่สุด แต่พอท้องเริ่มโตอันนี้เริ่มยาก เรารู้สึกว่ามีอีกคนอยู่กับเราและรู้สึกถึงการดิ้น แต่เรายังต้องมาปรับโฟกัสกับการแสดง”

มีซีนที่อนันดาต้องมาลูบท้องเราด้วย? “ใช่ คือมันมีซีนลึกซึ้ง คุยกับลูก จุ๊บลูก ก็คุยกับพี่โน้ตอยู่ว่าเค้าจะงงหรือเปล่าว่าพ่อเค้าคือใคร (หัวเราะ) เพราะเค้าเล่นกับน้องเยอะ”

โน้ตหวงมั้ยในฐานะพ่อตัวจริง? “นางก็ขำๆเข้าใจว่าเป็นการทำงาน แรกๆที่น้องดิ้นจะไม่ค่อยมีใครจับได้ คือแพทจะรู้สึกคนเดียวแต่คนแรกที่จับได้ก็คือพี่อนันดาที่กอง พอพ่อจับเค้านิ่งนะ แต่พอพี่อนันดาจับเค้าถีบ ฮามาก แล้วพอเล่าให้พี่โน้ตฟังก็ขำกันใหญ่”

วันเกิดปีนี้เป็นไง? “ไม่ได้อะไร เลี้ยงลูกแล้วก็ทานข้าวกับครอบครัว ง่ายๆ รีบกลับไปหาลูก (หัวเราะ)”

สามีให้ของขวัญแตกต่างจากเดิมมั้ย? “ก็ซื้อของให้เล็กๆ น้อยๆ (ยิ้ม) นางไม่ให้พูดหรอกแต่ก็มีมูลค่าทางจิตใจ จริงๆบอกแล้วว่าไม่ต้องซื้อ คือไม่ได้อยากได้อะไรแต่เค้าก็บอกว่ายูก็ให้ลูกมาแล้วก็ขอซื้อให้นิดนึง (ยิ้ม) เป็นกระเป๋าค่ะ เอาจริงๆไม่ได้อยากจะได้ เพราะก็ไม่ได้ใช้ ช่วงนี้เลี้ยงแต่ลูกแต่ก็ถูกใจค่ะ รู้สึกว่าเอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า (ยิ้ม) ถ้าสังเกตหนูไม่ได้เป็นคนใช้เงินหรืออะไรอย่างนั้นอยู่แล้ว ก็เลยรู้สึกว่าพอเรารู้มูลค่าของมันและมันเป็นสิ่งของ บางทีหนูก็จะเบรกนิดนึง”

ที่ผ่านมาเค้าให้อะไร? “ส่วนใหญ่เค้าจะให้แค่เนื่องในโอกาสวันเกิด ขอเซอร์ไพรส์หน่อย เราก็บ่นทุกปีแต่นางก็ขอแค่ครั้งนึงต่อปี อันนี้เราก็โอเคที่เค้าใส่ใจ เค้าเป็นคนชอบช่วยหนูดูเรื่องการแต่งตัว นางชอบแฟชั่น นางมุ้งมิ้งกว่าที่ทุกคนคิด พอเจอทุกคนก็จะบอกว่าทำไมผู้ชายคนนี้ดูมุ้งมิ้ง ดูใจดีกว่าที่คิด คือเค้าก็จะมีมุมที่อาจจะไม่ได้เห็นกันในสื่อ แต่แพทว่าดีนะเพราะเป็นคนแต่งตัวไม่เป็น มีคนคอยช่วยก็เป็นสิ่งที่ดี แรกๆยังไม่ถึงขั้นว่าใส่แบบนั้นแบบนี้จะเป็นฟีลซื้อของให้แล้วเราก็ใช้ แต่หลังๆเค้าชอบซื้อรองเท้าคู่ให้มุ้งมิ้ง ไปไหนก็บอกว่าใส่รองเท้าเหมือนกันสิ (หัวเราะ) ตลกดี ทุกวันนี้ก็ใส่อยู่ แต่จะหนักไปทางลูกค่ะ”.