“เดอะครีเอเตอร์” กำกับโดย กาเร็ธ เอ็ดเวิร์ดส ผู้กำกับอังกฤษ ที่เคยฝากฝีมือกับ Rogue One : A Star Wars Story นำแสดงโดย จอห์น เดวิด วอชิงตัน, เจมม่า ชาน, เคน วาตานาเบะ, แอลลิสัน แจนนีย์ ฯลฯ

เล่าถึงอนาคตที่เกิดสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มนุษย์และปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ที่พัฒนาอาวุธลึกลับทำลายล้างโลก
หนังเรื่องนี้ถ่ายทำในหลายจังหวัดในไทย ซึ่งก่อนจะลงโรง 28 ก.ย. “ไทยรัฐ” ได้ถูกชักชวนไปสนทนากับทีมงานฝ่ายไทยที่ร่วมงานกับกองถ่ายเรื่องนี้ ได้แก่ ไชยยันต์ ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ออกแบบงานสร้างฝ่ายไทย, ปรียนันท์ สุวรรณธาดา นักออกแบบเครื่องแต่งกายฝ่ายไทย และ อิทธิพล ทัณหะธร ผู้จัดหาอุปกรณ์ประกอบฉากฝ่ายไทย

อิทธิพล เผยถึงความรู้สึกถึงการทำงานกับกาเร็ธว่า “เขาเป็นคนสนุก ง่าย คุยกันได้ตลอด เวลามีปัญหาก็เข้าไปหาเขาได้เลย เขาเปิดให้เราเข้าถึง ปรึกษาได้ตลอดเวลาจริงๆ” โดย ไชยยันต์ เสริมว่า “เขาเป็นคนที่เข้าใจนะถ้าเราทำงานแล้วมีปัญหา แต่ว่าเขาค่อนข้างจะดื้อในแง่ถ้าเขาอยากจะได้ เขาจะต้องเอาให้ได้ แต่ถ้าเราทำไม่ได้ เขาเข้าใจ แต่เขาจะเอาให้ได้ แต่เขามีวิธีคุย เขามีลักษณะของความเป็นเด็กค่อนข้างเยอะ บุคลิกบางอย่างจะเหมือนเด็กกว่าวัย แล้วเป็นคนตลก มีมุกตลกเล่าให้ฟังอยู่ตลอดเวลา เรื่องตลกของเขาหลายเรื่องเป็นเรื่องเกิดขึ้นในชีวิตจริงเขานะ แต่จะตลกในลักษณะที่ว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นกับคนธรรมดา”

ในด้านที่จริงจังกับงานมากๆของ กาเร็ธ ทำให้เราซีเรียสไหม? ไชยยันต์ ตอบว่า “ความคิดสร้างสรรค์เขาค่อนข้างจริงจัง แล้วมันออกมาเรื่อยๆ ในช่วงจังหวะหนึ่งบางทีเรามีความรู้สึกว่าค่อนข้างจะทำงานลำบาก แล้วก็เหนื่อยกับสิ่งเหล่านี้ แต่ว่าพอมาถึงจุดจุดหนึ่งที่เราไม่รู้จะหนีไปไหนแล้ว ยังไงก็โดนแน่ๆ เราก็เกิดความรู้สึกอย่างอื่นขึ้นมาแทน ตรงที่ว่ามันจะไปถึงไหนในสิ่งที่เขาสร้างสรรค์ แล้วตอนนี้ตื่นเต้นมากเลยนะที่จะให้ดูหนัง ผมเชื่อว่ามันคงต้องมีอะไรนอกเหนือจากที่เราเข้าใจเติมเข้าไปอีกแน่ๆ”

การร่วมงานกับ จอห์น เดวิด วอชิงตัน ลูกชายของเดนเซล วอชิงตัน ดาราฝีมือพระกาฬ ปรียนันท์ เผยว่า “เขาเป็นคนที่น่ารักมากคนหนึ่ง ค่อนข้างอยู่ง่าย กินง่าย นิสัยดี แล้วรู้เลยว่าเขาถูกเลี้ยงมาจากครอบครัวที่ดี ให้เกียรติคนไทย ทำงานด้วยก็มีความสุขค่ะ เขาก็เฮฮาอารมณ์ดี”ขณะที่ ไชยยันต์ ออกตัวว่าค่อนข้างมีประสบการณ์น้อยมากกับดารา แต่ให้มุมมองว่า “ทีมงานเขาหลายๆคนค่อนข้างจะให้เกียรติคนไทย ให้เกียรติชาวเอเชีย บางทีเราไปถ่ายที่เขมรไปสเกาต์อะไรกัน เขาก็ทำตัวกลมกลืนกับชาวบ้านที่นั่น ผมเชื่อว่าเขาค่อนข้างจะเป็นคนน่ารักกันทั้งทีมเลย”

อิทธิพล สำทับว่า นักแสดงทุกคนมีประสบการณ์ที่สูง เช่น เคน วาตานาเบะ นักแสดงชาวญี่ปุ่น “พอเอาของอะไรไปให้เขาใช้ ผมรู้เลยว่าเขาเป็นคนที่ผ่านงานแสดงมาเยอะมากๆ อย่าง ‘ไอเอามาติดตรงนี้ก็ได้ มันก็ง่ายนะ’ หรือคนที่เล่นเป็น โฮเวลล์ (แอลลิสัน แจนนีย์) ผมก็ต้องโชว์ให้เขาเห็นว่า เออ ทั้งเรื่องเนี่ย ยูมีพร็อพที่ต้องใช้แบบนี้ แล้วก็อธิบายให้เขาฟังว่า อันนี้ใช้ยังไง การ์เร็ธก็จะอยู่คอยช่วยกันคุยกันตลอดเวลา”

การทำงานกับโปรดักชันใหญ่ขนาดนี้เปลี่ยน มุมมองในการทำงานในชีวิตอย่างไรบ้าง? อิทธิพล มองว่า “ช่วยให้เรามีประสบการณ์มากขึ้น กล้าที่จะคิดมากขึ้น สื่อสารคุยกันในทุกวัน พอเราไปทำหนังเรื่องอื่น เราก็กล้าที่จะเสนอไอเดียของเรา เป็นประสบการณ์ที่ดีนะ คือผมอยากทำหนังไซ-ไฟอยู่แล้ว เราก็ต้องทำให้เต็มที่”

ส่วน ไชยยันต์ เผย “ถ้าพูดว่าแตกต่างจากงานอื่น ก็น่าจะเป็นการที่พยายามจะสื่อสารแล้วเข้าใจความต้องการของผู้กำกับ ขออนุญาตพูดถึงหนังเรื่อง Extraction ผู้กำกับจะสร้างสรรค์ฉากบู๊ ซึ่งบางทีเราไม่ต้องไปเข้าใจอะไรมาก แต่การ์เร็ธจะสร้างสรรค์โลกอนาคตของเขาต่างหาก ซึ่งค่อนข้างมีผลกับเรื่องของสิ่งที่เราต้องทำ เรื่องของอาร์ต ดีพาร์ตเมนต์ เรื่องของพร็อพ ฯลฯ เรียกว่าเปิดอะไรมุมมองใหม่ๆ ก็ว่าได้ จริงๆทุกเรื่องสร้างสรรค์หมด เพียงแต่ว่าอันนี้มันเยอะเหลือเกิน มีเกือบทุกชิ้น ทุกฉาก พร็อพทุกอัน เสื้อทุกตัวแตกต่างจากโปรดักชันอื่นๆ”

ด้าน ปรียนันท์ ก็บอกถึงความกดดันในส่วนของเธอว่า “น่าจะเป็นเรื่องของเวลาค่ะ การที่จะสร้างงานแต่ละอย่าง
มันก็ต้องใช้เวลา ทั้งลองแบบ ย้อมสี ทำให้มันเก่า แล้วยังต้องสร้างดับเบิลไว้ใช้ทดแทนกัน การที่เราจะได้ทำงานไซ-ไฟแบบนี้ มันควรจะมีเวลาที่แบบทุ่มเทให้มากกว่านี้ แต่นี่ก็ทำให้เต็มที่แล้ว การ์เร็ธ เขาก็พอใจ”

ก่อนอำลา ไชยยันต์ เป็นตัวแทนพูดถึง “เดอะ ครีเอเตอร์” ว่า “หนังเรื่องนี้ผมคิดว่าน่าจะให้โลกอนาคตที่แตกต่างจากหนังหลายเรื่องที่ผ่านมา ผมเชื่อว่ามีกลิ่นอายของงานการ์เร็ธเขาอยู่ เนื้อเรื่องพูดถึงความเป็นมนุษย์หรือว่าจิตใจของความเป็นคนในโลกอนาคตที่มีเอไอเข้ามา จนบางทีเราสงสัยว่าคนจริงๆ หรือเอไอที่มีความเป็นมนุษย์มากกว่ากัน”…อยากได้คำเฉลยก็ต้องเข้าโรงหนังไปพิสูจน์กัน.

เรื่อง: ศุภางค์ภัค เศารยะพงศ์