เปิดใจ “ต๊อด ปนพงศ์” พระเอกซีรีส์วายสุดฮอต กับชีวิตในวงการ 10 ปี กว่าจะถึงวันนี้ไม่ง่าย
เปิดใจ “ต๊อด ปนพงศ์” พระเอกซีรีส์วายสุดฮอต กับชีวิตในวงการ 10 ปี กว่าจะถึงวันนี้ไม่ง่าย
เรียกได้ว่ากำลังมาแรงสุดๆ สำหรับนักแสดงซีรีส์วายสุดฮอต “ต๊อด ปนพงศ์ ไขแสง” กับผลงานซีรีส์วายเรื่องล่าสุด “Venus In The Sky ห้ามฟ้าห่มดาว” ที่หนุ่มต๊อดได้ประกบคู่กับ “เชค วัชรวีร์ แก้วพูลศรี” และเหลือ EP สุดท้ายตอนจบในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลา 22.45 น. ทาง Amarin TV HD ช่อง 34 ที่จะถึงนี้
“Venus In The Sky ห้ามฟ้าห่มดาว” หนึ่งในซีรีส์วายที่ได้กระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม ทั้งเหล่าแฟนคลับ แฟนด้อม FC หรือแม้แต่แม่ๆ มัมมี่ ก็คอยซับพอร์ตให้ซีรีส์เรื่องนี้ฮอตฮิตบนโลกโซเชียล มีหลายคนพูดถึงเนื้อหา การถ่ายทำ และองค์ประกอบของซีรีส์ที่ขอบอกว่า ดีเลิศ รวมทั้งการแสดงของ หนุ่มต๊อด ที่ใครหลายคนบอกว่า ดี และเติบโตขึ้นจนสามารถเรียกได้ว่าเป็น “นักแสดงคุณภาพ” อีกคนของวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้
ซึ่งซีรีส์วายเรื่องนี้ถือเป็นซี่รีส์วายเรื่องแรกของเขา แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ หนุ่มต๊อดโลดแล่นในวงการบันเทิงมาเกือบ 10 ปี ผ่านผลงานด้านการแสดง ทั้งภาพยนตร์ ละคร เดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา รวมทั้ง MV เรียกได้ว่าครบเครื่อง แล้วมาค้นพบตัวเองว่า “หลงรักวงการบันเทิง” เข้าให้แล้ว ล่าสุดมีโอกาสได้พูดคุยกับหนุ่มต๊อดเขาเล่าถึงความหลังก่อนที่จะมาเป็น “พระเอกซีรีส์วาย” ซึ่งหนทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เรามาทำความรู้จักกับหนุ่มต๊อดให้มากขึ้นจากบทสัมภาษณ์เหล่านี้กัน
เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร?
จริงๆ ต้องย้อนกลับไปเกือบ 10 ปีที่แล้วเลยครับ เริ่มจากการประกวด นายแบบตามเวทีต่างๆ แล้วผู้ใหญ่ที่เป็นคณะกรรมการเริ่มเห็น เค้าก็เลยชักชวนให้ไปลองแคส MV แคสโฆษณา แคสละคร ดูครับ เลยได้รับโอกาสเรื่อยๆ นับจากนั้นมาครับ
ผลงานละครเรื่องแรกเป็นละครพื้นบ้านเรื่อง พระสุธน-มโนราห์ เรื่องนี้ได้รับโอกาสจากพี่ ชายแฮ็คส์ (ดร.วโรดม ศิริสุข) ตื่นเต้นและดีใจมากๆ ในครั้งนั้นก็ได้เรียนรู้การทำงานดีๆ อะไรหลายๆ อย่าง ต้องขอบคุณพี่ชายแฮ็คส์ ที่เป็นคนเปิดทางให้โอกาสในการแสดง ทำให้ผมมีโอกาสได้เล่นหนัง แสดง MV เล่นละคร ซีรีส์เรื่องต่างๆ ตามมาครับ
จากนักแสดงละครพื้นบ้านสู่ พระเอกซีรีส์วาย เป็นอย่างไรบ้าง?
ค่อนข้างแตกต่างกันมากๆ เลย เพราะเราเล่นละครพื้นบ้านมาก่อน ก็จะได้แสดงในบทบาทหนึ่ง แต่พอได้รับโอกาสได้มาเล่นบทบาทใหม่ๆ มันก็ท้าทายดีครับ แต่เราก็มีพื้นฐานจากการแสดงละครพื้นบ้านมาก่อน แล้วมาปรับใช้ในการแสดงละครหรือซีรีส์ในเรื่องต่อๆ ไปได้ ทำให้เราได้พัฒนาตัวเองมากขึ้นครับ
จากนั้นก็มีผลงานมาเรื่อยๆ?
ใช่ครับ ล่าสุดก็มีซีรีส์เรื่อง ฟางเล่นไฟ ข่อง MONO ORIGINAL ครับ ในเรื่องบทที่ได้รับบทค่อนข้างท้าทาย บทดราม่าค่อนข้างเยอะครับ จบจากซีรีส์เรื่องนี้ ก็ได้มาเล่นซีรีส์วายเรื่อง Venus In The Sky ห้ามฟ้าห่มดาว ออนแอร์ทาง Amarin TV HD ช่อง 34 กับทางแอปพลิเคชั่น IQIYI เป็นซีรีส์วายเรื่องแรก ก็ตื่นเต้นครับ เพราะไม่เคยเล่นซีรีส์แนวนี้มาก่อน พอมาได้เล่น มันก็ทำให้เราได้พัฒนาด้านการแสดงไปอีกขั้นครับ ได้เห็นว่าเราสามารถเล่นได้หลายบทบาทมั้ย
เล่นซีรีส์วายเรื่องแรก ต้องไปเรียน หรือ workshop เพิ่มหรือเปล่า?
ทุกๆ ครั้ง ที่ก่อนจะได้แสดงเรื่องใหม่ ผมจะมีการไปลงเรียนเอง workshop กับคุณครูสอนการแสดงทุกครั้ง ให้คุณครูคอยแนะนำเทคนิคในการแสดง ปรับจุดด้อย แล้วหาจุดเด่น ออกมาใช้ในการแสดง แล้วพอแสดงเสร็จแต่ละเรื่อง ก็จะมีการนำมาพูดคุยกับคุณครูทุกครั้งว่าผลงานของเราเป็นยังไง ต้องปรับแก้ไข แล้วพัฒนากันต่อๆ ไปครับ
เริ่มติดใจซีรีส์วายแล้ว?
ก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ แต่อยากจะมีประสบการณ์ด้านการแสดงไปเรื่อยๆ ผมมองว่าการแสดงทำให้เราได้ปลดปล่อยในบทบาทที่ไม่ใช่ตัวเราเอง มันคือความท้าทาย ซึ่งผมก็อยากเล่นหลายบทบาทมากๆ อย่างโรแมนติก ดราม่า ก็น่าจะท้าทายดีครับ
สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตการแสดง?
น่าจะเป็นการรักษามาตรฐานในการทำงานครับ และต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นในด้านการแสดง การดูแลรูปร่าง บุคลิกภาพ ให้พร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา สำหรับผมอันนี้ค่อนข้างยากมากๆ เพราะต้องมีวินัยสุดๆ ครับ
อะไรที่ทำให้ต๊อดอยู่ในวงการบันเทิงได้จนถึงวันนี้?
ความตั้งใจ ความพยายาม และความไม่ยอมแพ้ครับ จะเรียกว่า ดื้อรั้น ก็ว่าได้ครับ คือ ผมทำงานตรงนี้มาสักพักแล้ว เกือบ 10 ปี ก็นานนะ แต่ก็อาจจะยังไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ ผมก็พยายามหาโอกาส ให้ตัวเองอยู่เรื่อยๆ พยายามวิ่ง cast หางาน มีโอกาสไหนเข้ามาผมก็คว้าเอาไว้หมดครับ และตั้งใจทุ่มเทกับงานแต่ล่ะครั้งที่ได้โอกาสมามากๆ เลยอาจทำให้เค้าเห็นถึงความตั้งใจของเรา และมีโอกาสในการทำงานต่างๆ มากขึ้นครับ
อะไรคือแรงบันดาลใจในการเป็นนักแสดง?
ครอบครัวครับ อยากทำให้เค้าภูมิใจ ในตัวผมครับ อยากให้เค้าได้แชร์ ได้โชว์เพื่อนๆ เค้าว่านี่ ลูกฉันนะๆๆ ประมานนี้ครับ มันมีความสุขดีครับ
วงการบันเทิงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีปัญหาหรืออุปสรรคบ้างมั้ย?
ก็มีครับ แต่ผมอยู่ได้ด้วยความ ไม่ย้อท้อ ถามว่ามีท้อ บ้างมั้ย มีบ้างครับ แต่ก็ท้อแปปๆ ก็กลับมาฮึดใหม่ สู้ใหม่อีกครั้งครับ ไม่เคยถอดใจ แต่ทุกครั้งที่สู้ใหม่ ผมจะพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้น พัฒนาตัวเอง ให้เหมาะสม ให้พร้อมสำหรับโอกาสที่เข้ามาใหม่เสมอครับ
มีวิธีการสร้างพลังกาย พลังใจให้ตัวเองอย่างไร?
ก็จะมองภาพตัวเอง จินตนาการตัวเอง เรียกว่า เพ้อฝัน ก็ว่าได้ คือตอนนี้ผม มีธุรกิจของตัวเองด้วย ผมเปิดคลินิกเสริมความงาม W CLINIC ตอนนี้มี 5 สาขาแล้วนะครับ สาขาเอกมัย รัชโยธิน สามย่าน อุบลราชธานี มุกดาหาร เปิดมาได้จะเข้าปีที่ 8 แล้ว แต่ช่วงเวลาท้อๆ ผมจะคิดถึงภาพตัวเองในวันที่ประสบความสำเร็จ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า มันต้องมีวันนั้นสิ ถ้าเราตั้งใจ มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ครับ ทุกคนลองทำดูได้นะครับ มันช่วยได้จริงๆ
มีเห็นว่ามีแฟนคลับ แฟนด้อม มาซับพอร์ตแล้ว
ตอนนี้ก็เริ่มมีคนรู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีคนเข้ามาเป็น FC เป็นแฟนด้อมมากขึ้น ดีใจมากๆ เลย ที่มีคนเห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำ มีคนชื่นชอบในผลงานของเรา มีคนรักในสิ่งที่เราเป็น ซับพอร์ตเราในทุกๆ อย่าง มันเป็นกำลังใจสำคัญมากๆ ที่ทำให้ผม ไม่ยอมแพ้ และเป็นกำลังใจในการพัฒนาตัวเอง ให้เป็นตัวเองในเว่อชั่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ให้สมกับที่เค้าให้ความรักกับเราและจะไม่ทำให้เค้าผิดหวังครับ
มีวิธีคิดหรือแนวคิดในการดำเนินชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร?
ผมว่าในทุกๆ วงการทำงาน หรือ การใช้ชีวิต ผมคิดว่า ความตั้งใจ จะเป็นตัวพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตั้งใจทำงานตามที่เราได้รับมอบหมาย คนที่ทำงานเค้าก็จะเห็นเอง และรับรู้ได้ถึงความตั้งใจของเรา ไม่ว่าจะเป็นความตั้งใจในการทำธุรกิจ ลูกค้าก็จะรับรู้ได้เองว่าเราใส่ใจลูกค้ามากแค่ไหน หรือตั้งใจในการดูแลครอบครัวของเราให้ดี คนในครอบครัวคนรอบข้างก็จะเห็นถึงความกตัญญู ของเราเอง อีกทั้งเรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ คนรอบข้างก็จะเห็นว่าเรารักและดูแลตัวเองและยังสามารถดูแลคนอื่นได้ดีด้วยเช่นกัน ในทุกๆ เรื่องในการใช้ชีวิตผมว่าแค่มีความตั้งใจ ไม่ทำอะไรฉาบฉวย สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นในชีวิตเรา และทำให้เรามีชีวิตที่ดี มีความสุขแน่นอนครับ
สุดท้ายอยากฝากอะไรบ้าง?
ผมขอฝากซีรีส์วายเรื่อง Venus In The Sky ห้ามฟ้าห่มดาว ด้วยนะครับ เรื่องนี้ผมตั้งใจมากๆ ทุ่มเทมากๆครับ เป็น ซีรีย์วายเรื่องแรกที่ผมได้รับบทพระเอก และมีฉากเลิฟซีนเรื่องแรกที่ดุเดือดมากสำหรับผมเลยก็ว่าได้ครับ ยอมรับแรกๆ ก็เขินแหละ แต่พอเราเข้าถึงตัวละคร มันก็ทำให้เราผ่านมาได้ ผมขอฝากดู “คุณหมอสกาย” ใน EP สุดท้ายนี้ด้วยนะครับ
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.daradaily.com/news/132931/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/132931/read