จากสุนทรพจน์ที่นางเอกสาว “เบลล่า ราณี” ได้พูดบนเวทีประกาศรางวัล “คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 20”  หลังคว้ารางวัล รางวัลเกียรติยศ สาขาละคร นักแสดง ทรงคุณค่าตลอดกาล โดย “เบลล่า” ได้เล่าถึงชีวิต 14 ปีในวงการบันเทิงของเธอ ที่ไม่ได้เป็นนางเอกตั้งแต่เรื่องแรก แถมหนังที่ได้เล่นเป็นนางเอกยังไม่ได้ลงจอฉายนานกว่า 12 ปีแล้ว 

“เบลล่า ราณี” เริ่มเข้าวงการจากการเป็นเด็กฝึกกับทางช่อง 3 ตั้งแต่ปี 2553 ก่อนจะได้รับโอกาสให้ลงละครเรื่องแรก เรื่อง “รอยมาร” จากบทนางร้าย ซึ่งพระเอกนางเอกในเรื่องนั้นคือ “บอย ปกรณ์” และ “มาร์กี้ ราศรี” จากนั้นก็ได้ละครเรื่องที่สอง ซึ่งเป็นละครเย็นคือเรื่อง  “ตะวันยอดรัก” ที่รับบทนางรอง เกือบ 3 ปีกว่า “เบลล่า” จะได้เป็นนางเอกเรื่องแรก คือเรื่อง  “พรพรหมอลเวง” ประกับ “บอย ปกรณ์” ก่อนจะมาโด่งดังจาก ซีรีส์ “สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร” ในบท “กรองแก้ว” จนได้รับการยอมรับในฐานะนางเอกมากขึ้น และก็มีละครเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้ง “ลูกทาส” ประกบคู่ “เคน ภูภูมิ” , “เพลิงฉิมพลี”  คู่กับ “อั้ม อธิชาต”  , “ภพรัก” แสดงคู่ “หมาก ปริญ”  , “ปดิวรัดา” กับการมาเจอกันอีกครั้งกับ “เจมส์ จิรายุ” , “วิมานเมขลา” ประกบคู่กับ “แอนดริว เกร้กสัน” , “เพลิงบุญ” คู่กับ “ป้อง ณวัฒน์” และ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์”  

และมาโด่งดังทั่วบ้านทั่วเมืองกับละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” ในบท “แม่นายการะเกด” ประกบกับ “พี่หมื่น โป๊ป ธนวรรธน์”  , “ปี่แก้วนางหงส์” คู่กับ “เกรท วรินทร” และพิสูจน์ฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์กับบท “เรณู” ผู้หญิงตัวสู้ ในละคร “กรงกรรม” จากนั้นมีละครอีกหลายเรื่องทั้ง “ร้อยเล่ห์มารยา / โป๊ป ธนวรรธน์ , ให้รักพิพากษา Dare to Love / กองทัพ พีค ,  พรหมลิขิต    / โป๊ป ธนวรรธน์” 

ส่วนผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกที่เล่นคือ “Fatherland ปิตุภูมิพรมแดนแห่งรัก” ในปี พ.ศ. 2555 ถ่ายเสร็จแต่ไม่ได้ลงจอฉาย จากนั้น 13 กลับมาเล่นหนังอีกครั้ง คือ “อีเรียมซิ่ง” และ “บุพเพสันนิวาส 2” ที่ทำให้ “เบลล่า” ขึ้นแท่นนางเอก 100 ล้าน และภาพยนตร์ “ลุ้นรักป่วน ก๊วนแฟนเก่า”  ที่แสดงคู่กับพระเอกสุดฮอตของยุคนี้คือ “ไบร์ท วชริวิชญ์”