‘นุ่น สุทธิภา’รอแฟนบวช 2 เดือน สุดท้ายโดนทิ้ง เจ็บหนักจนป่วยจิต!
ทำเอาหลายคนสงสารเธอจับใจ สำหรับดาราสาวสายลุย นุ่น สุทธิภา ที่ได้ออกมาเปิดใจกับ นิกกี้ ณฉัตร พี่ชายคนสนิทผ่านรายการ Podcast by nachat ถึงเรื่องราวความรักของเธอในช่วงที่ผ่านมา กับอดีตแฟนหนุ่มของเธอที่เพิ่งเลิกรากันไป โดยในรายการ สาวนุ่น ปล่อยโฮออกมาตั้งแต่ต้นรายการ เล่าถึงสิ่งที่เธอต้องเจอและรับมือกับความรักครั้งนี้ ที่ทำเอาเธอถึงกับป่วยหนักจนต้องเข้าพบแพทย์ ซึ่งเธอได้เปิดใจเล่าว่า
“เราเป็นคนเริ่มต้นก็บอกว่าโอเคพี่ไปบวชสิ เพราะแพลนว่าอยากสร้างครอบครัวกับคนนี้ คบกันเกือบ 2 ปี เขาไปบวชเราก็รอเขาบวชเสร็จ ไม่ใช่ยุให้สึก บวชเกือบ 2 เดือน เราก็ขึ้นเครื่องบินไปใส่บาตรให้เขาบ่อย เขาบวชต่างจังหวัด วัดป่า เขาสึกมาก่อนวันเกิดเรา เราก็ดีใจ กับคนนี้เราเป็นตัวเองมาตั้งแต่ต้น เราก็บอกเขาว่าเราเป็นอย่างนี้ เขาก็รับได้ แล้วเขาเป็นผู้ชายในแบบที่เราชอบมาก ด้วยความที่เขาเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมคน DISC อะไรอย่างนี้ เขารู้ว่าเราเป็นไทป์อะไร เขาเลยรู้ว่าต้องปฏิบัติกับเรายังไง รับมือกับเรายังไง แต่เราพูดเสมอว่าการที่ คุณจะใช้ศาสตร์อะไรอย่างนี้มันควรใช้กับการที่คุณไปทำงานดีลงานกับลูกค้าหรือคนที่คุณเจอชั่วครั้งชั่วคราว แต่คนที่คุณจะอยู่ทั้งชีวิต คุณมาใช้วิธีการเป็นสูตรตายตัวมันไม่ได้ เพราะว่าการที่คุณเป็นตัวเองดีที่สุด สุดท้ายเนี่ยก็มาแยกย้ายกัน เพราะเขาบอกว่าเขาไม่เป็นตัวเอง เขาอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุขเลย เต็ม 10 ให้เราแค่ 2 ทั้งที่หนูนั่งรอเขาบวช มา 2 เดือน บินไปใส่บาตร ตอนนี้เหมือนเขาหมดรัก สิ่งที่มันเกิดขึ้นเราไม่ได้โทษเขานะ แต่เราโทษตัวเองที่มโนวาดฝัน วาดอนาคตซะสวยงาม ความรักที่ผ่านมามันก็ไม่ได้สวยงามนะ แต่กับคนนี้เราก็คิดว่ามันหมดแล้วแหละ เราก็แพลนไว้ว่าเราจะหยุดรับละคร เพราะก่อนหน้านี้ถ่ายละครหนักมาก ไม่มีเวลาให้แฟนเลย เราเป็นคนรักแฟนมาก มีอยู่วันนึงเราก็จับมือเขาแล้วบอกว่า ขอโทษนะทำงานทุกวัน ไม่มีเวลาให้เลย เดี๋ยวหมดตรงนี้จะเคลียร์งานให้นะ จะมาอยู่ด้วย
พอเขาสึกออกมาเขาก็เริ่มไม่เหมือนเดิมช่วงวันครบรอบ อยู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกลับ ตี 4 ตี 5 เราก็งง มีวันนึงเรารอเขา เขาบอกจะกลับแล้ว เราก็รอจนเผลอหลับไป สะดุ้งตื่นมาตอนตี 2 ไหนเขาบอกจะกลับมา ไม่เห็นส่งอะไรต่อเลย เราก็โทรๆๆ เขาไม่รับ จนตี 4 เขามาบอกเราว่ากลับมาแล้ว บอกว่าไม่มีอะไรทั้งนั้นนะ เพื่อนที่ไปด้วยมันเรียกเด็กเอ็นมา แล้วก็ปาร์ตี้กัน ปล่อยให้เราเป็นบ้าบอ เป็นห่วง ตอนนั้นเราคิดว่าเขาเป็นอันตรายไหมเป็นห่วงมาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเรียกเด็กเอ็น เขาบอกเราว่าตอนที่เขาไปบวชเราได้ไปคิดไตร่ตรองว่าเขาไม่เป็นตัวเองเลยเวลาอยู่กับเรา ไม่มีความสุขเลย อย่างที่บอกตอนต้นว่าเขารับมือว่าเราเป็นไทป์อะไร เขาไม่ได้เป็นตัวเองก็เลยไม่มีความสบายใจเกิดขึ้นในชีวิต แล้วพอมาตอนนี้พอได้ลองใช้ชีวิตเองคนเดียว มีเวลาคิด มีเวลาไตร่ตรอง แต่เราเป็นคนที่รอมันก็เลยกลายเป็นการระเบิด”
“ระหว่างที่ขึ้นเครื่องไปเกาหลี อยู่ๆ มาบอกเราว่า เหมือนโดนแฮกโทรศัพท์ เธอแฮกโทรศัพท์พี่หรือเปล่า หนูก็เลยถามว่าทำไมถึงคิดว่าหนูเป็นคนแฮก เขาก็บอกว่าไม่รู้พี่ก็สงสัยไว้หมดก่อน อยู่ๆ ก็เป็นแบบนี้ตอนต่อแถวขึ้นเครื่อง เราก็รีบโยนของเข้าที่นั่ง แล้วก็เก็บของ เขาก็ถามว่าเธอทำอะไรอะ แล้วเราก็งง เขาก็บอกว่าปกติเธอไม่เคยวางของแบบนี้ เธอรักของจะตาย เราก็เงียบไม่อยากทะเลาะ พอไปถึงเกาหลีเราก็พาเขาไปนู่นไปนี่ เรามีความสุขเพราะเราชอบเกาหลี วันที่ 3 เขาอยากปลูกผมให้เราพาไป ตอนเย็นผ่าเลย เรากลัวเขาไม่ตื่นเพราะมันผ่าตัดวางยาสลบเป็นห่วงเขา เสร็จปุ๊บเราก็ดูแลเขาอย่างดีพาไปกินข้าว จนกลับโรงแรมจะนอนแล้วเขาพูดว่า ขอบคุณนะ แต่เป็นขอบคุณที่เราฟังขนลุกมาก แล้วพูดต่อว่า ต่อไปนี้ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานะอะไรก็ตาม ขอให้เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ไม่โกรธไม่เกลียดกัน หวังดีต่อกันได้ไหม หลังจากนั้นก็เงียบ ไม่พูดอะไร แล้วคิดว่าเราพลาดอะไรตรงไหนไป โทษตัวเองก่อน แล้วนั่งคิดลำดับเหตุการณ์วันนี้มันเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่ทะเลาะกันนะ ก็ไปปลูกผม กินข้าว ทุกอย่างโอเค ยังหยิบยาให้กินอยู่เลย ยังเอาผ้ารองเลือดที่หัวปูที่หมอนให้อยู่เลย เรารู้สึกว่าเราพลาดอะไรไป เรานอนไม่หลับทั้งคืน แต่เขาหลับไป จนตื่นมาดูนาฬิกา 6 โมงเช้า เครียดจนลำไส้เดิน แล้วก็อ้วกแตก แล้วเราก็นั่งไตร่ตรองทุกวินาที แต่ไม่ได้ถามว่าที่เขาพูดคืออะไรไม่อยากทะเลาะ
อีกวันก็อยากฉีดหน้า เราก็ไปกินข้าวก่อนเพราะเขาต้องกินยาหลังอาหาร ระหว่างลงลิฟต์ เขาก็บอกว่าเราว่าเขาถ่ายรูปคลินิกนี้ไว้หมดแล้ว มันสวยมาก เธออยากเปิดคลินิกใช่ไหม เดี๋ยวไว้เราเปิดนะ เราก็งงเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ปรับอารมณ์ไม่ทัน เราก็ร้องไห้ออกมา เขาก็รับไม่ได้ว่าเราร้องไห้ พอเราโอเค เราก็ไปกินข้าวแต่เขาก็บ่นยาวเลย จบตรงที่ว่า พี่อยากเลิกกับเธอมานานแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นหนูบอกเขาว่าหนูป่วย จิตหนูไม่ปกติแล้ว อยู่ๆ ก็จะร้องไห้ตลอดเวลา สิ่งที่ได้กลับมาคือคำพูดแบบนั้น แล้วบอกว่า ประเทศต่อไปไม่ต้องไปด้วยกันแล้ว เราก็ถามว่าแล้วมัลดีฟส์ล่ะ คือเราเป็นคนจัดการทั้งหมด เราอยากทำให้ครั้งนึงอยากเป็นแฟนดีๆ สักครั้ง เราทำให้เขา แต่เขาขยี้จนเละ พอถึงเวลานัดฉีดหน้าเราก็ไปกันเขาก็เข้าห้องไป ระหว่างนั้นเราก็จองตั๋วเครื่องบินกลับไทย เขาก็ไม่รู้เพราะทำหน้าอยู่ เขาโทรฯ มาตอนเรากำลังขึ้นเครื่องแต่เราไม่รับ เรารับสายไม่ไหว กลัวเขาจะด่าอะไรเราอีก เลยขอกลับไปหาหมอ ร่างกายเราไม่เคยเป็นแบบนี้ นั่งเครื่องไปได้สักพัก คนข้างๆ เริ่มกรน เราก็ลิงก์ในหัววันที่แฟนเรากรนแบบนี้ เราก็อ้วก 3-4 รอบจนคลานออกมาจากห้องน้ำ จนตอนนี้ก็ยังไม่เจอหน้าเขา แต่เราโทรฯไปเขาบอกว่าเขาไม่เอาเราแล้ว ถามเขาเขาบอกว่าเขาไม่มีความสุข เรารู้สึกว่าเขาใจร้ายกับเรามาก เขาบอกว่าเขาคิดมาแล้วตั้งแต่บวช ระยะเวลาที่เขาบวชจนปัจจุบันมัน 4-5 เดือนที่เขามีเวลาเตรียมเชือดเรา ทีหลังก็ต้องรักครอบครัว ตัวเอง หมา มากกว่าคนอื่น”
ขอบคุณภาพประกอบจาก:Podcast by nachat/noon_sutthipha
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/3558859/
ขอขอบคุณ : https://www.dailynews.co.th/news/3558859/