“ปู มัณฑนา” โต้ถังแตก มีเงินในบัญชี 14 บาท แจงมีทรัพย์สมบัติที่ดินอะไรบ้าง
ออกมาชี้แจงอีกครั้ง สำหรับ “ปู มัณฑนา” พร้อมด้วย สามี “หาญส์ หิมะทองคำ” และ “ทนายประมาณ” หลังเจอมรสุมลูกใหญ่ ติดหนี้ “ลูกหมี” แถมก่อนหน้านี้ “ลิลลี่ เหงียน” ยืนยันว่า เห็นปูมีเงินในบัญชี 14 บาท ทำเอาปูเจอดราม่าถังแตกเข้าจนได้ โดยเจ้าตัวที่แจงที่ตึกอาร์เอสว่า…
เขาบอกว่าเราถังแตกมีเงิน 14 บาท?
ปู : ไม่มีค่ะ คือวันนั้นน้องลิลลี่พา ก. มา น้องเขาบอกว่าเขาก็เหงาๆ ปูก็เครียดๆเรื่องที่ดิน แล้วก็มีคนชื่อ ก. มาก็อกหัก ก็มานัดเจอกันที่ร้านอาหารญี่ปุ่น คือต่างคนต่างมากันวันนั้น คือต่างคนต่างมีปัญหา ก็ได้เล่าว่าพี่ปูมีปัญหาเรื่องที่ดิน น้อง ก. บอกรู้จักอัยการรู้จักศาล ซึ่งสามารถช่วยเหลือได้ แล้วเขาก็พยายามขอเงินพี่ปูในวันนั้น 5 แสน แต่คือพี่ปูเพิ่งรู้จักกัน ก็ไม่อยากให้ ก็เลยโชว์บอกว่า พี่ไม่มีเงิน คือไม่รู้จักกัน อยู่ๆจะมาเอาเงิน 5 แสน
นี่คือเหตุผลที่เราบอกเหลือ 14 บาท?
ปู : ใช่ พี่ปูเลยบอกว่าเราไม่มีเงินจริงๆ แล้ววันนั้นลูกก็โทรมาบอกไม่มีเงินเติมค่าเน็ต เติมเน็ตให้หน่อย แล้วปูก็กำลังคุยกับคนนี้อยู่ คือ ก. น้องลิลลี่เลยบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวโอนให้หลาน แล้ววันรุ่งขึ้นพี่ปูก็โอนคืนเขาเลยนะ ทั้งค่าอาหาร ค่าเน็ตลูกพันกว่าบาท แต่ทำไมเขาไม่บอก
แล้วจะฟ้องลิลลี่ไหม เขาบอกว่าถ้าฟ้องเขาจะไปขายตัว?
ปู : คือ 2 ปี ไปทานอาหารด้วยกันบ่อยมาก พี่อายุโตสุด ก็เลี้ยงเขาทุกคน แต่ทีเขาเลี้ยงมื้อเดียว เขาเอาไปพูดเหมือนเป็นบุญคุณ วันรุ่งขึ้นพี่ก็เลี้ยงเขานะคะ ก็โอนเงินคืนเขา แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง มีคนติดต่อมาให้เขาไปกินข้าวกับผู้ใหญ่ เขาก็เล่าให้ฟัง บอกให้หนูไปนั่งทานข้าว หรือเขาจะให้หนูไปขายตัว พี่ปูก็ห้ามลิลลี่ ห้ามไปนะ ตอนนี้เราเล่นหนังเป็นนางเอกหลายเรื่อง ห้ามไป วันนั้นไปกินข้าวกัน 4 คน เพื่อนๆ ก็ช่วยกันห้าม ก็บอกว่าห้ามไป ก็รักน้องเอ็นดูน้อง น้องก็ทานข้าวด้วยกันบ่อยเที่ยวด้วยกันบ่อย
จะฟ้องไหม?
ปู : ก็เดี๋ยวกลับไปคิด อีกที เพราะน้องก็ด่าพี่ปูเยอะ
สภาพจิตใจตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
ปู : ก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มาที่นี่ เข้าโรงพยาบาล 5 วัน ตั้งแต่เกิดเรื่องเข้าโรงพยาบาล 6 ครั้ง น้ำหนักลดลง 7 กิโล ก็เครียด กระแสโซเชียลด่าเยอะมาก แล้วทนายเดชาก็ไลฟ์สดด่าทุกวัน ทนายกุ้งก็ด่าทุกวัน (ร้องไห้) ทุกวันนี้ต้องทานยาเป็น 10 เม็ด กว่าจะนอนได้ ต้องมีหมอจิตแพทย์ ตั้งแต่เข้าวงการมา 20 กว่าปี ไม่เคยมีข่าวเสียหาย แล้วมันเป็นเรื่องราวระหว่างเพื่อน ที่มีมิตรภาพดีๆ กลับไปดูรูปเก่า เราไปกินเที่ยว ไปทำบุญด้วยกัน เราหาเงินให้เขา 4 เดือน 6 แสน แล้วเราก็เลี้ยงเขาตลอด บอกว่าเราใช้เงินคืนนึง 3-5 หมื่น เป็นเรื่องจริง เพราะว่าพี่หาญส์ซับพรอต ให้เครดิตการ์ดเราจะรูดจะทำอะไรก็ได้ พี่เขาก็ไม่เคยว่า เราถือว่าเป็นพี่โตสุดก็เลยเลี้ยงเขา แต่ในสิ่งที่น้องทำกับพี่ มันมากเกินไป
ยืนยันว่าไม่ได้ถังแตก?
ปู : ไม่ได้ถังแตกค่ะ มีที่ลานจอดรถโรงพยาบาลเทพธารินทร์ มูลค่า 180 ล้าน โรงพยาบาลเทพธารินทร์ ก็เป็นโรงพยาบาลน้องชายของพ่อพี่หาญส์ เป็นที่ที่พ่อพี่หาญส์ยกให้น้องชาย เป็นเจ้าของโรงพยาบาล แล้วหลังโรงพยาบาลก็มีที่ดินอีก 8 ไร่ อันนี้ก็ทำธุรกิจให้เช่า แล้วก็มีคนเช่าเต็มหมดเลย แล้วก็มีที่ 4 ไร่ ที่ศรีนครินทร์ ฟู้ดแลนด์ศรีนครินทร์เช่าอยู่ แล้วก็มีสวนที่คลอง 13 อันนี้เกือบ 100 ไร่ แล้วก็มีที่ดินที่เชียงใหม่สันกำแพง ที่ดินเยอะมาก ที่บ้านทำอสังหาด้วย ไม่ได้ถังแตกค่ะ และพี่ชายทั้ง 4 คน มีหน้ามีตาในสังคม พี่สะใภ้ก็เป็น CEO หลายบริษัท และพี่ปูก็เป็นสะใภ้ตระกูลหิมะทองคำ ก็ต้องขอโทษ ตระกูลหิมะทองคำ ที่เป็นสะใภ้ทำให้ทุกคนเสื่อมเสียชื่อเสียง (ยกมือไหว้ ร้องไห้)
หาญส์ก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้เหมือนกัน เคืองภรรยาไหม?
หาญส์ : พอเกิดเรื่องก็คุยตลอด ถ้าเราจะทะเลาะกัน ก็ไม่เห็นทางอุโมงค์ เพราะมันเกิดขึ้นแล้ว ก็มานั่งคุยกันดีๆ แล้วเราก็มีครอบครัว มีลูก 3 คน จะมานั่งทะเลาะต่อหน้าลูก หรือถ้าทะเลาะแล้วเรื่องมันหาย ก็อาจจะคิดอีกแง่หนึ่ง แต่ทะเลาะยังไงเรื่องก็ยังไม่หาย แล้วมันก็กระทบกับลูก ผมก็รู้สึกเสียใจ ทำไมต้องเอาลูกของผมเข้ามาตรงนี้ด้วย
คนในครอบครัวเข้าใจไหม?
หาญส์ : เข้าใจครับ ผมมีพี่น้อง 3 คน เขาเข้าใจว่าบางทีก็เกิดเรื่องได้ ไม่มีคนไหนที่จะชีวิตราบรื่นจนนาทีสุดท้าย มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไข ไม่ได้ปล่อยให้เป็นเรื่องใหญ่โต
กระทบการเมืองไหม?
หาญส์ : ผู้ใหญ่ก็โทรมาเยอะ โทรมาส่วนใหญ่ก็โทรมาให้กำลังใจ เพราะเขารู้ว่านิสัยผมเป็นยังไง ที่เรื่องมันเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ 2 คน ก็คือปูกับลูกหมี ที่มันสามารถคุยและจบกันได้ ถ้าผมรับทราบตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนที่จะออกมาเป็นเรื่องราว ผมเชื่อว่าคงไม่ต้องมาถึงวันนี้ ที่ต้องมานั่งแถลงกัน ถ้าคุณไม่ให้เกียรติผม ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องเดินมาทางนี้ ถึงได้เอาบริษัทเข้ามาวางระบบ จะได้แก้ไขไปทางเดียวกัน
เห็นลูกไปโรงเรียนไม่ได้เลย?
หาญส์ : ใช่ครับ ก็มีคนตะโกนมา ว่าคนใส่เสื้อสีนี้ แม่ใช้เงินหรือยัง ก็ถามว่าจิตใจที่ลูกเจอจะคิดยังไง ทั้งที่เรื่องก็ไม่เกี่ยวกับตัวเด็กเลย และก็ยังเรียนอยู่ทั้ง 3 คน
ปู : อาจารย์ประจำชั้นก็โทรมา บอกว่าลูกไม่ได้เข้าโรงเรียน คือไปโรงเรียนแต่ไม่เข้าชั้นเรียน คือเข้าโรงเรียนแต่ไม่รู้ว่าไปแอบตรงไหน แล้วเขาก็หมดสิทธิ์เรียน รด. ด้วย เพราะว่าไม่กล้าไปรายงานตัว ซึ่งจริงๆปีนี้เขาต้องขึ้นปี 2 แล้วเขาก็หมดสิทธิ์ และก็ไม่มีสิทธิ์สอบในบางรายวิชา เพราะว่าเขาเข้าเรียน
คิดว่าหลังจากนี้จะกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ไหม?
ปู : ก็อยากให้เขาออกมาพูดความจริง
ดูข่าวต้นฉบับ
ที่มา : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/579365
ขอขอบคุณ : https://www.komchadluek.net/entertainment/thai-entertainment/579365