“นานา” โบ้ยตอบดรามาเพลง “วิบวับ” ถาม “ป๊อก” ดีที่สุด ส่วนภาพ “เวย์” ร่วมเฟรม “ขัน” เป็นสัญญาณที่ดี


ให้คะแนน


แชร์


“นานา” เปิดใจ ให้กำลังใจไปร้องไห้ไป ห่วงพนักงานติดอยู่ในเหตุการณ์กราดยิงที่เทอร์มินอล21 ที่โคราช เยียวยาจิตใจพนักงานให้กลับไปอยู่กับครอบครัวจนกว่าพร้อมกลับมาทำงาน ให้ค่าจ้างเหมือนเดิม บอกความเสียหายทางธุรกิจไม่เท่าความเสียหายทางจิตใจ รอดมาได้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ โบ้ยดรามาเพลงวิบวับให้เจ้าของเพลงตอบจะดีที่สุด

แม้ตัวจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์จ่าคลั่งยิงกราดที่เทอมินอล21 แต่สาว “นานา ไรบีน่า” ซึ่งมีธุรกิจร้านตัดผม neversaycutz ก็อยู่ในสายโทรศัพท์เกาะติดสถานการณ์คอยซัปพอร์ต ช่วยเหลือประสานงานจนพนักงานและคนที่เข้าไปหลบอยู่ที่ร้านสามารถรอดชีวิตปลอดภัยออกมาได้ เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยถึงสถานการณ์ในวันนั้น เจ้าตัวก็เล่าให้ฟังว่า…

“เราทุกคนต้องผ่านช่วงเวลานี้ไป ข่าวสารต่างๆ มันยังสะเทือนใจมากๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ในเหตุการณ์วันนั้นเราก็พยายามจะช่วยน้องๆ ของเราด้วยการหาข้อมูลที่ถูกต้อง ดีที่สุด และเป็นประโยชน์ต่อการช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด ถ้าเราทำอะไรพลาดไปก็คือชีวิตของคนที่อยู่ตรงนั้น นานาก็พยายามจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ในทั้งหมดทั้งมวลแล้วนานานว่าทุกหน่วยงานตั้งใจให้มีผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิตน้อยที่สุดอยู่แล้ว รวมถึงตัวนานาเองที่เป็นคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่รับรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็อยากจะให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”

เผยแม้ตนจะไม่ได้อยู่เหตุการณ์แต่ก็รับรู้สถานการณ์ตลอดเวลา พยายามหาวิธีช่วยลูกน้องอย่างสุดความสามารถ
“ช่วงประมาณ 5-6 โมงเย็น พนักงานที่ร้านโทร.มาบอกว่ามีผู้ร้ายเข้ามาที่เทอมินอล21 เราก็ถามทุกคนโอเคปลอดภัยดีไหม ตอนที่รับโทรศัพท์ครั้งแรกไม่ได้คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้ ก็บอกเขาว่าปิดร้านนะ ไม่ได้ตกใจอะไร แต่พอเวลามันผ่านไป เราก็อยู่ในสายโทรศัพท์กับเขาตลอด มันก็เริ่มเงียบขึ้นมาก ก็คิดว่าท่าทางมันจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แล้ว”

“เปิดข่าวดูด้วยเลยให้เลขาอยู่สายกับน้องแทน แล้วนานาก็ไปหาข้อมูลว่าเราจะช่วยน้องเขายังไงได้บ้าง ก็ไปประสานงานกับทางห้าง เขาก็ให้ข้อมูลกับเราว่าตอนนี้เป็นอย่างนี้แล้ว ตรงไหนจุดไหนที่ต้องระวัง อะไรควรทำ ไม่ควรทำ พอเราได้ข้อมูลที่เรามั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง เราก็จะได้ส่งต่อแบบที่ไม่ทำให้ตื่นตระหนก ณ เวลาตรงนั้นเขาก็หายใจไม่ทั่วท้องแล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์ อะไรที่จะไม่ทำให้เขาตกใจไปมากขึ้นเราก็จะไม่พูด ก็เป็นในลักษณะนั้นอยู่ 4-5 ชั่วโมง เราติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา ดูข่าวตลอดทั้งคืนจนกระทั่งน้องๆ พนักงานเราได้ออกมา ในร้าน นอกจากพนักงานนานาแล้วก็ยังมีผู้คนในห้างเข้ามาหลบในนั้นอยู่ด้วยทั้งหมด 19 คน”

เผยเยียวยาขวัญและกำลังใจพนักงานด้วยการให้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว จนกว่าจะพร้อมกลับมาทำงาน โดยตนให้เงินเดือนเหมือนเดิม
มันเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับจิตใจของเขาที่ไปเจอเรื่องราวสะเทือนขวัญขนาดนั้น ก็ดูแลเขาจนทุกอย่างมันดีขึ้น เอาที่เขาแฮปปี้ เขารู้สึกสบายใจขึ้น อยากจะกลับมาทำงาน สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่สถานการณ์แต่จิตใจเขาดีขึ้น พร้อมที่จะกลับมาทำงานหรือจะให้ช่วยเหลือยังไงเพิ่มเติม วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าขวัญและกำลังใจที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมแล้ว”

“ทุกคนเสียขวัญ นานาอยู่ในโทรศัพท์ จังหวะที่ทุกคนอยู่ในสถานการณ์ตรงนั้นเรายังรู้สึก เราเองยังตกใจมาก ลองนึกว่าเราเป็นเขาที่อยู่แค่ข้างหลังกำแพงเล็กๆ แล้วมีเสียงปืนดัง เราบอกเขาว่าใจเย็นๆ นะแต่เราน้ำตาไหลไปด้วย เราไม่อยากให้ใครบาดเจ็บเลยไม่ใช่แค่พนักงานของเราอย่างเดียว”

“สำหรับการเยียวยาของนานาก็ไม่ได้มีอะไรมาก ให้เขาอยู่บ้านจนกว่าจะดีขึ้น เราก็ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในส่วนที่เขาจำเป็นที่จะต้องใช้ น้องๆ เขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย นอกจากขอเวลา เราเองก็ไม่ได้จะต้องรีบเปิดกิจการ คือขอให้จิตใจ ทุกสิ่งอย่างดีขึ้น ก็หวังว่ามันจะไม่มีแบบนี้เกิดขึ้นอีก เราก็จ่ายเงินเดือนเขาเหมือนเดิมทุกอย่าง วันนั้นเราก็ส่งกันจนถึงบ้าน ประมาณ 4 ทุ่มก็มีเจ้าหน้าที่ไปช่วยเขาออกมา โชคดีว่าร้านอยู่ใกล้กับลานจอดรถเลยได้ออกกันมา”

“ก็คุยกับน้องๆ มั่นใจว่าเขาถึงบ้านกันปลอดภัย บางคนที่เข้ามาหลบในร้านเราด้วยเขาก็เข้ามาเขียนในอินสตาแกรมเราว่าเราปลอกภัยดีแล้ว เราก็โล่งอก จนวันนี้เราก็ยังโทร.ไปสอบถามน้องๆ ของเราว่าเขาเป็นยังไงบ้าง การที่เขาจะกลับมาทำงานได้เป็นปกติแล้วไม่หวาดผวามันไม่ง่ายนะ”

ไม่รู้จุดที่ก่อการร้ายอยู่ใกล้ร้านตนมากน้อยแค่ไหนจึงยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ย้ำผลกระทบทางธุรกิจไม่มากเท่าจิตใจของพนักงาน ชี้ทุกคนที่รอดเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
“ร้านนานาอยู่ถัดไปอีกชั้นนึง ไม่รู้ว่าใกล้หรือเปล่าแต่นานาอยู่ในโทรศัพท์ก็ได้ยินเสียงปืน มันใกล้มากหรือว่าจริงๆ แล้วเสียงปืนมันดังมาก (ร้านเราเสียหายมากน้อยแค่ไหน?) เรายังไม่ทราบค่ะ แต่เดี๋ยวทางห้างจะเปิดให้มีการทำบุญกัน เราก็จะไป เรายังไม่ได้ดูอะไร เพราะสาระสำคัญสำหรับเราอยู่ที่จิตใจของพนักงานของเราและทุกคนมากกว่า ก็ต้องดูทุกอย่างอย่างรอบคอบที่สุดเพื่อที่จะได้มั่นใจว่าลูกค้าสามารถไปใช้บริการได้”

“ผลกระทบทางธุรกิจไม่มากเท่ากับจิตใจหรอก วันนี้อยู่ที่จิตใจของคนมากกว่า มันโหดร้ายเกินกว่าที่เราจะคาดคิดว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนทุกฝ่ายใช้ทั้งชีวิต ทั้งร่างกายเข้าไปช่วย โดยที่ไม่รู้เลยว่าจะรอดกลับมาหรือเปล่า มันที่สุดแล้ว ตัวคนที่หลบอยู่เขาก็ไม่คิดว่าเขาจะได้กลับบ้านหรือเปล่า พอมันผ่านไปได้มันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริงๆ นะ”

เผยมีแพลนทำบุญใหญ่ที่ร้านแต่รอจนกว่าพนักงานจะพร้อมกลับมาทำงานก่อน วอนหยุดวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้แต่อยากให้มองที่ต้นตอที่ทำให้เกิดปัญหา
“ก็ดูๆ อยู่ ตอนนี้ให้น้องๆ เขาพร้อมก่อน ตอนนี้เขาอยากจะอยู่บ้านกับครอบครัว ทางร้านก็มีแพลนจะทำบุญใหญ่กันอยู่ อยากให้กำลังใจทุกคน ไม่อยากให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อะไรกัน ให้มองไปที่ต้นตอหรือแกนของมันจริงๆ สิ่งเร้าที่มันทำให้เกิดเรื่องราวเหล่านี้มันคืออะไร อยากจะขอบคุณทุกฝ่าย เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ทำให้เหตุการณ์นี้จบลงได้ ขอให้ไม่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีกต่อไป”

ถามถึงดรามาเพลงวิบวิบที่สามี “เวย์ ปริญญา อินทชัย” ร่วมแจมร้องท่อนแร็ปที่ทำเอาชาวเน็ตมองว่าขัดกับภาพลักษณ์คุณพ่อนั้นเจ้าตัวโบ้ยถามเจ้าของเพลงจะได้คำตอบดีที่สุด
“มันเป็นสิ่งที่นานาเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเพลงก็ตามก็ไม่อยากจะให้มีเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว คือต้องบอกว่าเรามีข่าวเรื่องที่ร้าน มันมาในช่วงใกล้ๆ กันด้วย ก็เลยยังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกันจริงจัง นานาว่าสิ่งแบบนี้ พฤติกรรมของเพลงฮิปฮอปมันค่อนข้างจะทราบกันอยู่แล้วว่าจะเป็นอารมณ์ที่มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือเจ้าของเพลง เวย์เองก็เป็นหนึ่งส่วนที่ร้องในเพลงนี้ ตัวนานายังไม่ได้คุยอะไรกับเขามาก คนที่จะตอบได้ดีที่สุดคือคนที่ทำเพลง”

“เวย์เป็นส่วนนึงของเพลง ตรงนี้เราต้องให้เกียรติกับเจ้าของเพลง เท่าที่ได้ยินมาพาร์ตเวย์ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เรื่องนี้มันค่อนข้างจะเซนซิทีฟ นานามั่นใจว่าตัวป๊อกเองก็คงไม่ได้อยากจะให้มีอะไรแบบนี้หรอก นานาว่าไม่มีใครอยากจะให้อะไรแบบนี้เกิดขึ้น คำตอบที่ดีที่สุดน่าจะต้องมาจากเจ้าของเพลง นานาเชื่อว่าเขาต้องมีคำตอบและเหตุผลที่ดีให้กับทุกคนอยู่แล้ว”

ส่วนรูปที่สามี ถ่ายรูปร่วมเฟรมกับอดีตเพื่อนรัก “ขันเงิน เนื้อนวล” นั้น เจ้าตัวบอกมีสัญญาณที่ดีขึ้น
อย่างที่บอกว่ามันก็ยังมีความรักอยู่ในนั้น ถ้าสังเกตจากสัมภาษณ์ เชื่อว่าเขาเองก็คงจะพยายามทำให้ทุกอย่างมันเหมือนเดิม เหนือกว่าสิ่งอื่นใดคือแฟนเพลงของทุกคนที่ทุกคนรัก ขัน-เดย์-เวย์เขาต้องรักแฟนเพลงทุกคนอยู่แล้ว วันนี้ทุกคนพยายามจะทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนเพลงทุกคน แต่นานาก็ตอบไม่ได้ว่าเขาจะกลับมาเหมือนเดิมกันแล้ว”

“แต่ถ้าถามว่ามีสัญญาณที่ดีไหม ก็เป็นในเชิงบวกอยู่ สำคัญที่สุดคือเวลาที่จะทำให้มีคำตอบที่ดีขึ้น จิตใจ ความรู้สึก เวลาช่วยได้หมดเลย วันนี้มันไม่ได้แย่ลง มันมีแต่สิ่งที่ดีๆ ทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น เราก็ให้เวลากันดีกว่า เขาก็ไม่ได้เจอกันบ่อยมาก ที่จะได้มีโอกาสพูดคุยกันว่าเราจะทำยังไงกันต่อดี เราเป็นภรรยาก็จริงแต่เราก็เป็นแฟนเพลงไทเทเนียม เราติดตามเขามาตลอด ก็ยังอยากจะเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน นานาเชื่อว่าเวย์เองก็มีความรู้สึกคิดถึงแฟนเพลงไทเทเนียมอยู่เหมือนกันอยู่แล้วด้วย”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : ดารา
ขอขอบคุณ : ดารา