เสนาหอย ยอมลดอีโก้เรื่องงาน เผยต้นตอปัญหาบริษัท หลังขาดทุนร้อยล้าน


ให้คะแนน


แชร์

เคยเป็นคาสโนว่าตัวพ่อของวงการบันเทิงเลยทีเดียว สำหรับ เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค ซึ่งหลายคนมักจะคุ้นตากับผู้ชายผิวเข้ม ผมหยิก มีแต่เสียงตลกขบขัน และอยู่ในวงการมามากกว่า 20 ปี

ล่าสุดในรายการ ตีท้ายครัว เสนาหอย ก็ได้นั่งเล่าให้ฟังถึงชีวิตที่พลิกผัน จากที่เคยทำธุรกิจและมีรายการเป็นของตัวเอง ได้กำไรหลักร้อยล้าน แต่วันหนึ่งพอโซเชียลเริ่มเข้ามา ทำให้รายการและหนังสือพร้อมทั้งบริษัทต้องปิดตัวลง เงินเก็บทั้งหมดที่เคยมีหมดเกลี้ยงไม่เหลือ จนเกือบคิดจะออกจากวงการบันเทิง 

โดย หอย เกียรติศักดิ์ เล่าว่า ที่ดูผอมลงเพราะทำเพื่อผู้หญิงตามคอนเซปต์เดิม น้ำหนักลงไป 17 กิโลกรัม ออกกำลังกายทุกวัน ซึ่งสาเหตุที่หันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจังนั้นเพราะว่า เมื่อก่อนทำเพื่ออะไรบางอย่าง แต่ทำไปทำมาก็รู้สึกว่ามันดีกับตัวเรา ก็เลยทำต่อไป เรียกว่าทำเพื่อรองรับผู้หญิงที่จะเข้ามาในอนาคต ตอนนี้ก็มีคนคุยเรื่อยๆ 

เมื่อก่อนเป็นคนที่เที่ยวแถวทองหล่อทุกคืน ถ้าวันไหนไม่เจอแปลว่าผิดปกติ บางวันทำงานเสร็จตี 1 ก็ยังแวะไปเที่ยว เพราะบ้านกับสถานที่เที่ยวอยู่ห่างกัน 5 นาทีถึง ขอให้ได้เห็นแสงวิบวับมันก็ชื่นใจ ยอมรับว่าเที่ยวหนักมาก เหมือนเป็นโรคจิตอย่างหนึ่งที่ต้องเห็นแสงวิบวับ เวลาไปเที่ยวเอางานไปคิดสักเรื่องหนึ่ง นั่งคิดในแสงวิบวับ ก็จะทำให้คิดงานออก

มาตอนนี้พอเริ่มหันกลับมาดูแลตัวเอง ก็ทำให้ไม่ค่อยมีเวลา ด้วยงานเยอะขึ้นด้วย อยากไปนะ แต่มันไม่มีเวลา ตอนนี้อายุ 50 ปีแล้ว อยากไปเที่ยวแต่สังขารมันไม่ได้ แรงไม่ค่อยมี แต่ใจสู้นะ อย่าให้หลงเข้าบ้าน พอเข้าบ้านแล้วก็ไม่อยากออกไปไหน 

จากที่แต่ก่อนเป็นคนที่เที่ยวประจำ ตอนนี้ก็กลายเป็นว่า ทั้งนั่งสมาธิและสวดมนต์ด้วย เพราะมีคนทักว่า ถ้านั่งสมาธิและสวดมนต์ก็จะทำอะไรบางอย่างสำเร็จ เพราะ 48 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีห้องพระเลย พอมีคนทักก็ทำห้องพระขึ้นมาทันที พอทำไปเรื่อยๆ ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ 

นอกจากนี้ เสนาหอย ยังได้ย้อนเล่าไปถึงช่วงที่ทำรายการ สาระแน ในช่วงแรกๆ ว่า ทำรายการเกี่ยวกับการแกล้งคนขึ้นมาเป็นจำได้เลยว่าตอนนี้ไม่มีดาราคนไหนคบ ซึ่ง ณ ตอนนั้นมันเป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จมากๆ แล้ววันหนึ่งเริ่มมีโซเชียลเข้ามา หนังสือเกี่ยวดาราที่เคยทำ ตอนนั้นกำไรเป็นกอบเป็นกำ พอโซเชียลเข้ามา ข่าวมันก็ไวกว่าเรา เพราะหนังสือเรากว่าจะออกทุกๆ 15 วัน จากที่กำไรๆ ก็กลายเป็นขาดทุน และทีวีดิจิทัลเข้ามา อีกทั้งเหตุบ้านการเมือง 4 ปีซ้อน เลยทำให้เงินหมด 

เมื่อก่อนได้กำไรหลักร้อยล้าน ได้เงินมหาศาลมาก มีพนักงาน 260 คน ทำหนัง หนังสือ รายการวิทยุคลื่น 98.5 รายการทีวี ทำบริษัทเพลง ทั้งหมด 5 บริษัท ทุกวันนี้ปิดตัวหมดแล้ว ถึงขั้นไม่เหลืออะไรเลย และติดลบ ตอนนี้ก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากพนักงาน 260 คน เหลือแค่ 8 คน และยังมีบริษัทที่ทำกับ วิลลี่ 2 คน

เมื่อถามว่าจะกลับมารับจ้างผลิตงานเหมือนเดิมมั้ย เสนาหอย บอกว่า ไม่เอาแล้ว มารับเป็นพิธีกร แสดงละครดีกว่า ตอนนี้งานเยอะกว่าเมื่อก่อนมาก 

ถามว่า ที่ผ่านมาท้อมั้ย เพราะช่วงนั้นหายหน้าไปเลย ก็มานั่งมองหน้ากับ วิลลี่ 2 คน ว่าถ้าเราเลิกหรือเราหยุดอะไรก็แล้วแต่ ก็คิดว่าเราจะออกจากวงการเลยดีมั้ย แต่ไม่ไหว เพราะเรายังมีภาระและมีฝีมืออยู่ ก็ต้องทำให้มันอยู่ให้ได้ และปรับเปลี่ยนสิ่งที่เป็นอยู่ให้มาอยู่ได้ ไม่ท้อ 

ตอนนี้มีรถมินิสีเหลืองก็ขายหมด เพราะเงินมันร่อยหรอจากการทำโปรดักชั่น ตอนนั้นก็เลยกลับมาเป็นมือปืนรับจ้าง รับงานละคร รับงานพิธีกร ประหนึ่งว่าร้อนเงินมาก จากที่ผ่านมาไม่เคยไปออกรายการให้ใครหรือทำงานให้ใครมากว่า 10 ปี ก็หมดอีโก้ยอมไปออกรายการจากข้างนอกเพื่อหาเงินเข้ามา ที่ผ่านมาโทรไปร้องไห้กับ วิลลี่ ทุกวัน ซึ่ง วิลลี่ ก็ให้กำลังใจ 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ตนเองอยู่กับ วิลลี่ มาตลอดได้ก็เพราะว่า เค้าเชื่อว่าเราทำได้ ตนเองจะถามตลอดว่ามันจะทำได้เหรอ เค้าก็จะบอกว่า มันทำได้ เชื่อดิ 

จากนั้น มดดำ ก็ได้ถาม เสนาหอย ว่า คิดจะจีบ อุ้ม ลักขณา จริงมั้ย เสนาหอย บอกว่า จริง คือจีบจริงแต่ความหวังมันริบหรี่ ตนเองเป็นคนชอบผู้หญิงเก่ง ชอบผู้หญิงออกกำลังกาย อุ้ม เป็นผู้หญิงที่มีหมดเลยในตัว ก็เลยคิดว่าลองจีบดู

ท้ากันว่า ถ้าเรามีซิกซ์แพ็กก็จะไปกินข้าวกัน ขอแค่ได้กินข้าวด้วยกัน ก็โอเคแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนเปลี่ยนชีวิตเลย ตอนที่คุยกันครั้งสุดท้าย เค้าก็ไลน์มาถามว่า หนูยังเป็นแรงบันดาลใจให้พี่อยู่รึเปล่า ตนเองก็รีบพิมพ์ตอบกลับไปทันทีว่า ตลอดชีวิต 

ส่วนเรื่องความรัก เสนาหอย บอกว่า ตอนนี้กำลังคุยกับสาวคนหนึ่งอยู่ชื่อว่า เค้กส้ม อายุห่างประมาณ 10 ปี ก็แต่ก็คุยกับผู้หญิงหลายคน เมื่อก่อนเคยคิดว่าจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต แต่ ป๋อง กพล มาพูดคำหนึ่งว่า ถ้าเจอคนที่รักเราและเป็นคนที่ใช่ ก็จะเปลี่ยนใจ เลยคิดได้ ก็เลยไม่ปิดตัวเอง ก็คุยหลายคนเพราะคิดว่าอนาคตจะเป็นใครมันก็เป็นเรื่องอนาคต และเราก็ไม่ปิดตัวเอง.

ชมคลิป 

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1850136
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1850136