แสงสุรีย์ ซาบซึ้งใจ ได้ชีวิตใหม่ บิณฑ์ เผยอยากตอบแทนบุญคุณ พารักษาดวงตาฟรี


ให้คะแนน


แชร์

วันที่ 22 พ.ค. ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้พาอดีตนักร้องชื่อดัง แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ เข้ามารับการรักษาดวงตา หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกระทั่งได้พบกับแสงสุรีย์ที่กำลังลำบาก และป่วยเป็นโรคตาข้างขวามีภาวะการมองเห็นลดลง จึงได้รับไว้ในความดูแล

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ต่อมาทางโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ ได้ทราบข่าวการเจ็บป่วยเกี่ยวกับการมองเห็นของอดีตนักร้องดัง จึงได้ติดต่อเพื่อให้การช่วยเหลือและรับแสงสุรีย์ไว้เป็นคนไข้ในโครงการแพทย์ผู้ให้ เพื่อทำการรักษาดวงตา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

นพ.วรัญญ์ กล่าวว่า “หลังจากที่เราทราบข่าวเรื่องที่บิณฑ์ไปพบแสงสุรีย์ที่ชีวิตกำลังลำบากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และมีปัญหาเรื่องดวงตา จึงขอเข้าให้ความช่วยเหลือ ทางโรงพยาบาลของเรามีทีมแพทย์และอุปกรณ์ที่ครบครัน ได้ติดต่อผ่านไปยังบิณฑ์ให้ช่วยประสานความช่วยเหลือ วันนี้เป็นโอกาสอันดีที่บิณฑ์ได้พาคุณแสงสุรีย์เข้ามาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ทางเราจะดูแลในส่วนของการรักษาจนกว่ากระบวนการรักษาจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์โดยไม่มีค่าใช้ง่ายใดๆ”

พญ.พรรักษ์ เปิดเผยว่า “จากการซักประวัติและตรวจในเบื้องต้นพบว่า นายแสงสุรีย์เคยได้รับการผ่าตัดต้อกระจกและเปลี่ยนเลนส์ตาเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นก็มีอาการตามัวและเคืองตา ซึ่งอาการเคืองตาเกิดจากเยื่อบุตาและกระจกตาอักเสบ อาการเหล่านี้สามารถหยอดตาและรักษาให้หายได้ ส่วนอาการตามัวเกิดจากความผิดปกติของเลนส์ตา ในเบื้องต้นแพทย์จะทำการขยายม่านตาและตรวจแบบละเอียดอีกทีว่า เบื้องต้นคิดว่าจะต้องรักษาด้วยการผ่าตัด สามารถเริ่มการรักษาได้เลย ซึ่งต้องคุยกับแพทย์หลายภาคส่วนเพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการผ่าตัดและดมยาสลบให้มีความปลอดภัย คาดว่าวันอังคารที่ 26 พ.ค.63 นี้ น่าจะทำการผ่าตัดได้ ส่วนเวลาในการรักษาตัว ประมาณ 1 สัปดาห์ก็สามารถประเมินการรักษาได้ ทั้งนี้ทั้งน้ันก็ขึ้นอยู่กับสภาพการฟื้นตัวของสายตาคนไข้ด้วยว่าจะปรับสภาพได้เร็วแค่ไหน รวมถึงสภาพจอประสาทตาที่ไม่ได้ใช้การมานานด้วย”

บิณฑ์ กล่าวว่า “ถือว่าเป็นอะไรที่ดีมาก เพราะว่าคิดว่าจะไปที่วัดไร่ขิง ปกติคุณแม่ เรื่องสายตาก็ไปรักษาอยู่ที่นั่น แต่โรงพยาบาลปริ๊นส์ สุวรรณภูมิ มีวัตถุประสงค์อยากจะช่วยเหลือพี่แสงสุรีย์ อยากรักษาให้ฟรี ให้พามาเลย ไม่ต้องอะไรเลย ทางนี้จัดการให้หมด ค่ารักษาจะเท่าไหร่ก็แล้วแต่ โรงพยาบาลจะจัดการให้ทั้งหมด ผมซาบซึ้งมาก ให้ลูกน้องโทรไปบอกพี่แสงสุรีย์ เตรียมตัวเลย ทางโรงพยาบาลปริ๊นซ์ จะรักษาให้ฟรี ทีนี้ก็ดีใจ ก็เลยนัดมาวันนี้ และคิดว่าไม่เกิน 2-3 อาทิตย์ ก็น่าจะเรียบร้อย และพี่เขาจะกลับไปเป็นนักร้องที่โด่งดังเหมือนเดิม เมื่อกี้แต่งเพลงมาแล้ว 1 เพลงด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่พี่เขาด้วย ผมเข้าไปในห้องเขา พระเต็มเลย คิดว่าเขาอยู่มีธรรมะธัมโมเหมือนกัน”

ทราบข่าวมาก่อนไหมว่าบิณฑ์จะเดินทางมาแจกของ ถึงได้เปิดบ้านรอ?

แสงสุรีย์ : “ไม่รู้ครับ ผมมัวแต่ไปอยู่บ้านนอก ทีนี้มาพอดี เป็นดวงหรือวาสนาของผมก็ไม่รู้ เขามาแจกให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากในซอย ผมเลยมายืนรอ เจ้านายบิณฑ์ กับเจ้านายเอกพันธ์ เขาเห็นผม เขายังไม่รู้จักผมด้วย ผมก็สวัสดีก่อน จำผมได้ไหม ผมแสงสุรีย์ เขาพูดว่าจำไม่ได้พี่ปิดหน้า ผมก็เอาหน้ากากออก เขาก็เลยรู้ ที่นี้ก็ช่วยร้องกันใหญ่เลย”

บิณฑ์ : “ต้องบอกว่าเมื่อก่อนเวลาไปโชว์ตัวที่ไหน เพลงสาวเสื้อลาย เพลงหิ้วกระเป๋า ผมจะร้องประจำ เอาเพลงของพี่แสงสุรีย์ไปใช้มาตลอดหลาย 10 ปี วันหนึ่งได้เจอผมก็ต้องตอบแทนบุญคุณที่เอาเพลงไปร้อง แล้ววันนั้นได้เจอ ผมก็คิดว่าต้องช่วยเหลือเขา จนวันนี้พามารักษาเรื่องตา ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ในอนาคตข้างหน้า ผมจะดูว่าอะไรบ้าง บ้านเขาที่อยู่ตอนนี้ เจ้าของบ้านยกให้แล้ว เราจะเข้าไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ให้สมกับว่านี่คือนักร้องชื่อดัง ทั้งห้องนอน ห้องน้ำ ห้องรับแขก เดี๋ยวจะเข้าไปดู แล้วอีก 2-3 เดือน จะเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง”

แสงสุรีย์ : “ผมเคยได้รับรางวัลโล่ทองคำ เป็นศิลปินนักร้องลูกทุ่งยอดนิยม ที่กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จไปทอดพระเนตรสมัยนั้น”

อาการของดวงตา มีอาการอย่างไรบ้าง?

แสงสุรีย์ : “ตอนแรกก็ร้องเพลงอยู่ดีๆที่จังหวัดพะเยา พอปลายเดือนกุมภาพันธ์ช่วงโควิด-19 จะลงแล้ว ก็รู้สึกเคืองตา เหมือนเกลือเข้าตา มันแสบ มัว พล่า เริ่มมองไม่เห็นเลย เวลาเขาถืออะไรขึ้นไปบนเวทีมองไม่เห็นเลยข้างขวานี้ พอเริ่มมองไม่เห็นก็ไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาชัย ที่นี่เขาก็ให้ไปเอาประวัติที่เคยรักษาที่โรงพยาบาลวัดไร่ขิง พอดีเจ้านายมาเจอก่อนก็เลยยังไม่ได้ไป ตอนที่มองไม่ค่อยเห็นเดินไปไหนก็จะหงุดหงิด พอดีโควิด-19 ลงเสียก่อน ก็เลยไม่ได้ไปร้องเพลงตามงานที่ไหน และยังไม่ได้ไปรักษา”

ตอนนี้มารักษาแล้ว หวังว่าจะกลับมาเห็นชัดเหมือนเดิมไหม

แสงสุรีย์ : “เห็นแน่นอน เพราะคุณหมอบอกมาแล้ว ก็ดีใจ ภาคภูมิใจมากเลย ถ้าเรามองเห็นอะไรก็ไม่ลำบาก อยากบอกเจ้านายบิณฑ์ว่า ที่ช่วยเหลือผมครั้งนี้ โดยเฉพาะชีวิตใหม่ของผม ที่ครั้งหนึ่งจะได้มองเห็นอีก ถามว่ากังวลไหม ไม่ค่อยกังวล เบาหวานผมไม่ค่อยแรงเท่าไหร่”

จากที่เจอกันวันนั้น จนได้ช่วยเหลือสำเร็จลุล่วง?

บิณฑ์ : “ป็นอะไรที่ผมอยากตอบแทนบุญคุณด้วย ที่เอาเพลงของเขามาร้อง เอาเงินมากินไม่รู้กี่ล้านแล้ว ได้เจอพี่เขาเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนวันเกิด 27 พ.ค. นึกถึงคนแรกเลยคือ แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์ ผมติดต่อแสงสุรีย์ไปร้องเพลงให้ผมฟัง พี่เขามาด้วยชุดสูท ยังคิดในใจพี่แสงสุรีย์เขามีฐานะ แต่งตัวดี ก็ร้องเพลง 2-3 เพลง ดีใจมาก วันนี้เป็นศิลปินลูกทุ่งที่ผมชื่นชอบทั้งหมดเลย ประมาณ 10 กว่าคน อยากจะมอบสินน้ำใจให้กับพี่เขา ถ้าใครมีโอกาสจัดงาน นักร้องแบบนี้ครับ เขายังอยากที่จะร้องเพลงอยู่ แต่ไม่มีใครจ้าง เอาพวกเขากลับมาครับ เขาจะได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จะได้เป็นขวัญใจของประชาชน ผมว่าอายุ 40 ขึ้นไป ต้องรู้จักแสงสุรีย์ครับ”

เห็นว่าแต่เพลงไว้เป็นการขอบคุณด้วย?

แสงสุรีย์ : “ใช่ครับ ชื่อเพลง ชีวิตของแสงสุรีย์ เพลงนี้ผมทำเองด้วย เพลงเกี่ยวกับผมที่ทุกข์ยาก ไปร้องเพลงไม่ได้เพราะว่าเรื่องตา และมีโควิด-19 ด้วย”

นอกจากบิณฑ์ ช่วยเหลือแล้ว มีใครให้ความช่วยเหลืออีกไหม?

แสงสุรีย์ : “มีครับ แต่ผมไม่รับบริจาคอะไรเลยครับ ไม่เปิดบัญชี จะหาว่าเราสร้างภาพครับ”

บางคนเขาไม่เชื่อว่าตกอับจริงๆ?

แสงสุรีย์ : “ตอนนั้นมีชื่อเสียงมาก พวกที่ทำแผ่นเสียงก็ยังอยู่ พอเขาตายหมดแล้ว ก็ไม่มีคนทำแล้ว ถ้าวันนี้ผมเปิดบัญชีบริจาค มีคนว่าแน่นอน เขาพูดมาเลยว่า อย่าสร้างกระแสครับ มีคนโทรศัพท์มา แต่ที่พูดแบบนี้มีส่วนน้อย หลายคนบอกน่าสงสาร ถามว่าน้อยใจไหม คือเขาไม่รู้ว่าผมไม่มีกินจริงๆ เงินได้มาเมื่อก่อนก็ใช้หมดไปหลายปีแล้ว อย่าว่าผมสร้างภาพ อยากให้คิดเสียใหม่ เป็นเรื่องจริงครับ”

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4178792
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4178792