“บุ๊คโกะ” โวยอดขายลูกชิ้นเริด หวังรวยร้อยล้าน! จะเป็นลมค่าซ่อมบ้านโดนพายุถล่ม


ให้คะแนน


แชร์


“บุ๊คโกะ” เผยยอดสั่งลูกชิ้นมันดูน้ำแตกทะลุ 5,000 กิโลไปเรียบร้อยภายในแค่ 2 เดือน ตอนนี้มียอดสั่งจากทั้งในและต่างประเทศเยอะมาก คาดหวังรายได้หลักร้อยล้าน เผยบริษัทเอเจนซี่ที่พาไปศัลยกรรมที่เกาหลีใต้ก็ยังทำอยู่ ให้คำปรึกษาเหมือนเดิม แต่คงต้องรอปลายปีกว่าจะได้พาลูกค้าไปอีกครั้ง บอกบ้านที่เชียงใหม่โดนพายุถล่มยับ แม่ต้องไปคอยดูแล ต่อเติมซ่อมแซมใหม่ หมดไปหลายแสนบาท

เรียกว่าเป็นคนที่จับธุรกิจอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จเสมอ สำหรับพิธีกรอารมณ์ดีอย่าง “ดีเจบุ๊คโกะ ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล” เพราะตอนนี้ธุรกิจลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตกยอดขายถล่มทลาย เพราะแค่ 2 เดือนก็มียอดทะลุ 5,000 กิโลกรัมไปแล้ว บอกถ้าไม่ติดปัญหาโควิด-19 คงมีการส่งออกไปต่างประเทศได้เยอะขึ้น เพราะตอนนี้ก็มีหลายประเด็นที่ติดต่อมาแล้ว

“ดีใจมากค่ะ ตอนนี้ทะลุ 5,000 กิโลไปแล้ว เสียงตอบรับดี ก็ต้องขอบคุณค่ะ (ยกมือไหว้) สำหรับพ่อแม่พี่น้องทุกคนเลยที่เป็นกำลังใจให้กับลูกชิ้นปลามันดูน้ำแตก (ยิ้ม) เป็นสูตรเกาหลีที่เราคิดค้นขึ้นมาเอง ตอนนี้ก็ทำผลงานได้ดีมาก ก็อยากจะทำผลงานได้ดีแบบนี้ตลอดไป และเร็วๆ นี้เราจะมีการร่วมมือกันกับผลิตภัณฑ์อาหารยี่ห้อหนึ่ง เจ้าใหญ่ แล้วเดี๋ยวจะมีโปรเจกต์ต่างๆ ด้วยค่ะ”

“ตั้งเป้าเอาไว้ในใจอยากได้อย่างต่ำเดือนละ 3,000 กิโล เพราะปกติเดือนนึงเราก็ได้ 2,000 กว่าอยู่แล้ว แต่เราเพิ่งสตาร์ทปลายๆ พ.ค.ที่ผ่านมา นี่ก็ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว เราก็เร่งพัฒนาในจุดบกพร่องของเราหลายๆ จุด ทั้งเรื่องการขนส่งและบริการ เพราะเราเข้าใจดีว่าเราเพิ่งมาลุยธุรกิจอาหาร และธุรกิจของเราเป็นอาหารแช่แข็ง เราก็เตรียมรับมือหลายๆ อย่าง เพราะตอนนี้เรายังส่งต่างประเทศไม่ได้”

“ตอนนี้ต่างประเทศมีคนติดต่อมาเยอะมาก อย่างออสเตรเลีย หรืออเมริกามีติดต่อมา 5 เจ้าเลย จริงๆ จะส่งแล้วด้วย เราก็ให้เขาไปคุยกับขนส่ง มันก็จะมีเรื่องโควิดและอีกหลายๆ อย่าง คืออเมริกาเป็นประเทศที่ค่อนข้างยากในการขนส่งอาหาร แต่โชคดีที่ของเราเป็นปลา แต่ก็ยังเป็นเนื้อสัตว์อยู่ดี การขนส่งแบบเรือก็ค่อนข้างยาก เพราะถ้าเกิดส่งของปกติที่ไม่บูดไม่เสีย เราส่งทางเรือได้ แต่แบบนี้มันต้องส่งผ่านเครื่องบิน ซึ่งทางเครื่องบินมันมีข้อจำกัดสูง ช่วงนี้ต่างประเทศเราต้องหยุดไว้ก่อน อาจจะเป็นละแวกใกล้เคียงอย่างประเทศเพื่อนบ้านไปก่อนค่ะ ก็จะมีกัมพูชา พม่า ลาวค่ะ”

เผยปฎิเสธรับตัวแทนจำหน่ายไปหลายเจ้า แต่เพราะตนเลือกรับตัวแทนที่จะขายจริงๆ
“ตอนนี้มีตัวแทนจำหน่ายค่ะ แต่ก็จะไม่ได้รับเยอะ เพราะเราเน้นขายออนไลน์ด้วย และพอมีคนสนใจเยอะ แต่ละจังหวัดก็ติดต่อมาเยอะ บุ๊คโกะก็จะเน้นตลอดว่าอยากให้คนอินกับผลิตภัณฑ์ของเราและเข้าใจในอาหารของเรา เวลาบอกหรือให้ข้อมูลลูกค้ามันก็จะมีความสุขในการขาย ก็เลยไม่ได้เปิดรับตัวแทนเยอะ เราก็เลือกตัวแทนด้วย ตอนนี้ของเรามีเชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และมีจากร้านอาหารทั่วไปก็น่ารักมาก เขาก็จะเอาไปทำเมนูพิเศษๆ กับร้านอาหารของเขา รวมถึงเพื่อนดาราทุกๆ คนนะคะก็น่ารักมาก อุดหนุนเองแล้วเอาไปรีวิวให้ด้วย ก็ขอบคุณมากๆ ในวันที่เราต้องการให้เพื่อนๆ มาซัปพอร์ตเรา แต่เราไม่ต้องเอ่ยปาก ทุกคนก็ยินดีมาก”

“ถามว่าไม่เสียดายคนที่เราปฎิเสธไปเหรอ ก็ยอมรับว่าเสียดาย แต่ถ้าเราควบคุมคุณภาพไม่ได้บุ๊คโกะก็ไม่อยากทำ เพราะว่าตอนนี้เรามีปัญหาแค่เรื่องขนส่ง เพราะเราขนส่งแบบแช่เย็น ก็อาจจะทำให้ไปถึงลูกค้าช้า เราก็ต้องแจ้งลูกค้าไว้ก่อนเลยว่าถ้าสั่งวันนี้อาจจะไปถึงอีกสัก 2-3 วันถ้าเป็นต่างจังหวัดนะคะ”

หวังรวยหลักร้อยล้าน พร้อมแตกยอดธุรกิจต่อไป
“ตอนนี้ส่งออกไปต่างประเทศยังไม่ได้เลย แต่จริงๆ ตอนนี้เราก็ขายไม่ทันแล้วนะ เพราะของบุ๊คโกะผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานเป็นโรงงานใหญ่ เป็นโรงงานที่ได้รับทั้งอย. GMP แล้วก็ฮาลาล มันต้องพิถีพิถันในการผลิต ปีนี้ตั้งเป้าเท่าไหร่เหรอ เดี๋ยวขอคำนวนก่อนนะ (ทำท่าคิด) คือตอนนี้เอาน้องสาวมาช่วยด้วยนะ ธุรกิจตรงนี้บุ๊คโกะมองเป็นธุรกิจในอนาคต เป็นธุรกิจที่จะต้องมั่นคง ก็ไม่ใช่ตัวนี้ตัวเดียว เราจะมีไลน์อาหารอย่างอื่นเพิ่มมาอีก”

“ถามว่าต่อไปจะมีนามสกุลต่อท้ายว่าบุ๊คโกะร้อยล้านไหม เอาจริงๆ ไหม ทุกคนที่ทำธุรกิจต้องตั้งความหวังอยู่แล้วว่ามันจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นอะไรก็ไม่แน่ จากการคำนวณถ้าเราทำได้ดีแบบนี้ตลอดไปมันมาอยู่แล้วค่ะ แต่ขอค่อยๆ ก้าวไปแบบเสถียรดีกว่า เพราะถ้าอะไรที่กระโดดปั๊บๆๆ มันเร็วไป แต่ทุกอย่างมันไม่แน่ไม่นอน ถ้าโอกาสมันมาจริงๆ เราก็ต้องคว้าไว้เพราะตอนนี้มันมาจริงๆ ค่ะ”

บอกในส่วนของบริษัทเอเจนซี่พาไปศัลยกรรมที่เกาหลียังทำเหมือนเดิม รอดูปลายปีว่าจะพาลูกค้ากลับไปทำได้หรือไม่
“ในส่วนของ BOOKKO SURGERY(เป็นเอเจนซีพาไปศัลยกรรมที่เกาหลีใต้) ก็ยังทำอยู่นะคะ ยังรับให้คำปรึกษาปกติเลยค่ะ แต่แค่ยังบินไปไม่ได้ อาจจะได้บินไปประมาณสิ้นปี ก็ต้องบอกว่าธุรกิจตัวนี้ก็มีผลกระทบ แต่เราโชคดีที่เราได้คนในครอบครัวของเราเป็นคนร่วมบริหารด้วย และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดเลยคือลูกค้าบุ๊คโกะเข้าใจ ดังนั้นทุกอย่างก็จะสามารถยืดระยะเวลาออกไปได้เท่าที่พอจะไหว พนักงานของเราก็ยังอยู่ทุกคน แต่เราก็ปรับเปลี่ยน ก็เอามาช่วยแพ็กลูกชิ้น มาตอบลูกค้า มาทำเป็น vlog ถ่ายรายการออนไลน์ เราต้องปรับตัวค่ะ ยุคนี้ new normal ถ้าเราไม่ปรับตัวเราอยู่ไม่ได้อยู่แล้ว“

“ตอนนี้ทางเกาหลีเขาก็บอกเขาโอเค แต่ข่าวที่ว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกล่ะ เวลาไปก็ต้อง state quarantine อีก 14 วัน ค่าใช้จ่ายคนไทยต้องออกเอง เราก็เป็นห่วงลูกค้าเรา เราห่วงพนักงานเรา ดังนั้นอะไรที่ยังไม่ปลอดภัย เรายังไม่ปล่อยผ่านแน่นอน ทุกอย่างก็เลยต้องหยุดก่อน แต่ยังรับปรึกษา รับติดตามผลอยู่ แต่เรื่องการบินไปนี่บุ๊คโกะต้องขอดูอีกทีนึงว่าสิ้นปีนี้มันโอเคหรือเปล่า”

“รายได้ที่ต้องสูญเสียไปก็เยอะนะ เพราะลูกค้าบุ๊คโกะเป็นกลุ่มที่สูงวัยหน่อย ก็จะมีกำลังจ่าย และมีแต่ละคนก็ยังต้องติดตามผล บางเจ้าก็มีมัดจำมาแล้ว แต่บางเจ้าก็น่ารักคือเขาเข้าใจในสถานการณ์แบบนี้ แต่บางเจ้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จริงๆ เราก็อาจจะต้องมีการคืนเงินในบางส่วน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่กว่า 80% เข้าใจ เขาคิดว่าถ้าเอากลับมาใช้มันหมดแน่นอน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคุณแม่ เป็นเจ้าของธุรกิจ บางอย่างเขาก็โอเคพอที่จะแบ่งเอาไว้อยู่แล้ว”

เผยบ้านที่เชียงใหม่ที่โดนพายุถล่มซ่อมเสร็จแล้ว แม่เป็นคนสั่งทำใหม่หมด หมดไปหลายแสนบาท
“บ้านซ่อมเสร็จแล้วค่ะ ทั้งซ่อมแซม ทั้งต่อเติม ตอนนี้แม่อยู่เชียงใหม่ค่ะ แม่ก็ยังขออยู่ตรงนั้นก่อน เพราะแม่บอกว่ามีความสุขที่ได้ดูแลบ้านอยู่ที่นั่น เราก็ไม่ห้ามปราม แล้วช่วงนี้โควิดก็ไม่ได้บินด้วย แล้วแม่ก็ชอบปลูกต้นไม้ ชอบดูแลบ้าน เพราะบ้านที่เชียงใหม่ไม่มีคนอยู่ประจำ พอแม่กลับไปก็ไปดูแล ไปต่อเติม ซึ่งส่วนที่ต่อเติมก็ต้องเป็นบุ๊คโกะที่รับผิดชอบคนเดียวนะคะ คืออะไรที่ทำให้แม่มีความสุข เราก็มีความสุข”

“ที่แม่ต่อเติม กระเบื้องนี่เปลี่ยนใหม่หมดเลยค่ะ 200 – 300 แผ่น แล้วก็มีบุฝ้าเพดานใหม่หมดเลยที่มันเสียหาย เพราะฝ้าที่เป็นชานข้างนอกมันพังหมด ก็ต้องทำใหม่หมดเลย ทาสีใหม่อีก คือแค่ทาบ้านทั้งหลังก็เหยียบแสนแล้วนะ เราก็คิดในใจว่าแม่ ทาสีบ้านมันแพงขนาดนี้เลยเหรอ (หัวเราะ) แม่ก็บอกบางสีมันกันเชื้อราอะไรของเขาไม่รู้ ยังไม่รวมกระเบื้องอีก ไม่รวมต่อเติมทำหลังคาเพิ่มอีก คือแม่เขาจะมีโปรเจกต์ใหม่ๆ มาให้เราตลอด รวมๆ ก็หลายแสนแล้วค่ะ แต่ยังไม่ถึงล้านนะ ถ้าถึงนี่เป็นลมแล้ว (หัวเราะ)”

“แต่ในช่วงโควิดที่ผ่านมาหลักหลายแสนมันก็เหนื่อยนะ แต่เราโชคดีที่แม่ไม่มาขอตู้มทีเดียว ก็เบิกทีละ 2-3 หมื่น แต่พอมาคำนวณดูแล้วเนี่ย อื้อหือ แต่เขามีความสุขก็เลือกไปเถอะ เพราะช่วงโควิดไม่ใช่แค่ทำบ้านที่เชียงใหม่นะ แต่กลับไปอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ แถววัชรพลก็มีอารมณ์เหมือนญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) ไง ปลูกต้นไม้ ทำน้ำตกเพิ่ม บุ๊คโกะก็รีโนเวตบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วเหมือนบ้านที่เชียงใหม่จะน้อยใจ พอรู้ว่าบ้านที่กรุงเทพฯ รีโนเวตปุ๊บ โอ้โห พายุเข้าบ้านเราที่เขียงใหม่บ้านเดียวเลยค่ะ (หัวเราะ)”

“มีบ้านตั้งหลายหลังทำไมไม่เข้า มาเข้าบ้านฉันบ้านเดียว พายุมาโดยไม่มีอะไรกั้น สั่งให้หยุดมันก็ไม่หยุด แต่รอบนี้บุ๊คโกะค่อนข้างมั่นใจและชัวร์มาก คือเราคุยกับเจ้าที่ด้วยนะ บอกว่าให้พัดไปทางอื่นเถอะ มีปักหมุด คือทำทุกทุกอย่างให้มันดีกว่าเดิม ก็คิดว่าเราน่าจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หวังว่าพายุไม่ต้องมาอีกนะคะ ก็บอกให้แม่ปักธูปกลางบ้านเลย บอกเจ้าที่ด้วยว่าไม่ต้องมาแล้ว ไม่ไหว เหนื่อย พัดที่อื่นบ้าง”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000066410
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000066410