“เก้า” ท้า “เจนนี่” หากเรื่องไหนพูดไม่จริงก็ออกมาโต้ ลั่น ไม่อยากได้ส่วนแบ่ง อยากได้คำขอโทษ


ให้คะแนน


แชร์

ขอย้อนถามเรื่องของเรากับอีกฝ่ายว่ามันเกิดมาตั้งแต่ตอนไหน?

“ถ้าสังเกต จะเห็นว่าตั้งแต่แรกเลยครับ คือผมหายไปเลย หลังจากนั้นก็ไม่มีชื่อผมเลย มันเกิดจากที่คำพูด คำสัญญาสัญญา”

แล้วตอนนั้นเราพูดสัญญาใจกันยังไงทำไมมันถึงเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมาได้?

“ที่ผมต้องออกมาไลฟ์สดเมื่อวานนั้น เพราะพี่เขาเอาข้อมูลเท็จ เอาข้อมูลที่ไม่จริงไปโพสต์ โดยครอบครัวผมได้รับความเสียหาย ผมไม่พอใจมากที่เอาพ่อผมไปโพสต์ แล้วแฟนคลับของเขามาด่า และด่ายันโคตร ทำให้ผมไม่พอใจมาก จนผมต้องออกมาชี้แจงส่วนตรงนี้ว่ามันไม่จริงตามที่พี่เขาออกมาโพสต์ บางคนด่าเจ็บมาก แล้วไอ้ส่วน 30% ที่้ขาบอกว่าพ่อผมโทรไปขอก็คือพ่อผมไม่ได้ขอ เดี๋ยวผมจะบอกทีละประเด็นกันเลย”

ประเด็นแรกสัญญาใจของเราอย่างไรบ้าง?

“สัญญาใจต่างๆนะครับ เกิดจากพี่เค้าชวนผม ไปฟีเจอริ่งประมาณสองรอบ แต่ว่าผมก็ไม่ได้ไปเพราะว่ายังไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้น แต่พอมารอบที่สอง ได้ไปเจอกันที่รายการหนึ่งเลยได้รู้จักกันมากขึ้น ทีนี้พี่เขาเลยชวนผมมาฟีเจอริ่งกับน้องสาวเขา ผมก็มีโอกาสไปร่วมฟิตเจอริ่ง ซึ่งตอนนั้นผมมีกระแสอยู่กับเดอะวอยซ์คิดส์ และรายการซุปเปอร์เท็น ตอนนั้นผมกำลังเก็บประสบการณ์หลายอย่าง แล้วผมก็ได้ฟีเจอริ่งกับน้องสาวเขา แล้วเรากับเขาก็ได้สัญญากันก่อนที่จะทำเพลง”

“เดี๋ยวผมจะขอชี้แจงเงิน 10,000 ก่อนว่าเป็นเงินตอนที่ผมไปอัดเสียงร้อง คือพี่เค้าโทรมาบอกว่าอันนี้คือค่าขนมและค่าน้ำมันรถ และผมก็เข้าใจแบบนั้น ไม่ใช่แค่ตัว ผมก็คิดว่าพี่เค้าเป็นคนจริงนะ ให้มาตั้ง 10,000 โดยที่เรายังทำงานให้พี่เค้ายังไม่เสร็จ แล้วหลังจากนั้นก็ไปเจอกันที่หนึ่งที่จังหวัดพัทลุงโดยที่ผมอยู่ที่นั่นแล้วพี่เค้าออกมาคุยกับแม่ผมว่า พี่จะดูแลน้องทุกอย่างแบ่งค่า YouTube ให้น้อง 30 /70 % โดยที่พี่จะไม่เอาเปรียบน้อง เพราะพี่เคยโดนเอาเปรียบมาก่อนแม่ก็เลยบอกว่า 10,000 น่ะ มันก็เยอะไป พี่เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรแม่ เอาไว้จ่ายค่าบ้านค่ารถเถอะแล้วเดี๋ยวส่วนค่าเอ็มวีต่างๆเดี๋ยวพี่เค้าจะดูแลทั้งหมด อันนี้คือสัญญาใจกัน “

“แต่พอไปวันที่ถ่ายเอ็มวี เราได้เอาเงิน 10,000 นี้ไปซื้อเสื้อผ้าตามที่พี่เค้าสั่งว่าเอาชุดนี้นะเอามาแบบนี้นะตาม concept เค้าที่ต้องการในการถ่ายเอ็มวี ผมซื้อไปวันนั้น 6000 บาท และค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่พี่เค้าบอกว่าพี่เค้าจะดูแล วันนั้นผมดูแลตัวเองหมดเลย ขาดทุนไป 2000 บาท ตรงนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เราก็ทำงานเต็มที่ เพราะว่าก่อนหน้านั้นที่สัญญากันว่าเราจะได้ผลประโยชน์ตรงนี้ร่วมกัน เป็นสัญญาใจก็เลยทำเต็มที่ หลังจากนั้นเสร็จพี่เค้าก็ไม่ได้โอนอะไรมานะครับ “

“หลังจากที่เพลงลงได้หนึ่งวันแรกผลตอบรับดีมากๆ วันที่สองดีขึ้นไปอีกดีขึ้นไปอีกจนถึง 10 ล้านวิว ผมเลยโทรไปหาพี่เขาโหพี่เพลงไปสุดสุดเลยครับเพลงนี้ต้องไป 100ล้านวิวแน่นอน ซึ่งวันนั้นที่ผมได้ยินจากพี่เขา พี่เขาบอกว่า เพลงนี้ไม่ใช่เพลงน้อง เป็นเพลงของน้องสาวเขา ถ้าเกิดน้องอยากได้ส่วนตรงนี้น้องมาเซ็นสัญญากับพี่ และรับไป 70/ 30 ในเพลงหน้าโดยไม่ใช่เพลงนี้ ผมก็ตกใจมากตอนนั้น เพราะสิ่งที่พี่พูดมาครั้งก่อนกับตอนนี้มันคนละอย่างกัน แล้วตอนที่เราตกลงกันตอนนั้น พี่ยังไม่คิดจะทำค่ายเพลงหรืออะไรเลย และก่อนหน้านั้นผมก็บอกแล้วว่าผมมาอยู่กับพ่อติ๊กด้วยสัญญาใจเหมือนกัน แล้วก็อยู่กันแบบพ่อลูก “

“จากนั้น ก็คิดว่าไม่เป็นไร ผมเลยขออยากจะทำเพลงนี้เป็นเวอร์ชั่นผู้ชาย ผมก็โทรไปหาพี่เขาว่าผมขอทำเป็นเวอร์ชั่นผู้ชายนะ แต่พี่เค้าบอกว่าไม่ได้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะไปแย่งอะไรหรือเปล่า ผมก็เลยคิดว่าไม่เป็นไรในสิ่งที่ผมจะมาทำเป็นเวอร์ชั่นเวอร์ชั่นผู้ชาย เพราะว่ามันเป็นสิทธิ์ของพี่เขาอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นเพลงพี่เขา ผมก็เสียใจกับคำพูดตรงนั้น แล้วความสัมพันธ์ก็ลดลง เพราะเสียความรู้สึก แล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันประจำ พี่เขาก็ไม่ได้พูดถึงส่วนเรื่องตรงนี้เลย เรื่องของสัญญา แล้วก็หายกันไปเลย จนกระทั่งถึง 100 ล้าน วิว พี่เขาก็ยังไม่ได้ติดต่อมานะครับไม่ได้ติดต่อมาเลย พ่อเป็นคนโทรไป โทรไปจริงตามที่พี่เขาบอก แต่โทรไปตรงนี้ไม่ได้ไปขอ 30% โทรไปขอน้ำใจคนเรานะครับ แค่คำขอบคุณสักคำยังไม่มี แล้วสิ่งที่พี่เขาพูดมากับพ่อตอนนั้น เขาบอกว่าที่พ่อพูดมานี้พ่อต้องการเงินใช่ไหม ซึ่งตรงนี้ผมก็อึ้งไปอีก ซึ่งผมไม่รู้นะครับว่าพี่คิดยังไงว่าพ่อไปขอ 30% ตรงนี้ไม่ใช่เรื่องจริงนะครับ แล้วที่บอกว่าพ่อผมคุยไม่ดี ผมอยากทราบว่าพ่อคุยไม่ดีตรงไหน แค่บอดว่าแค่คำขอบคุณสักคำยังไม่มี “

“และหลังจากที่คุยกันเสร็จ พี่เขาก็ขอบคุณมาเลย ขอบคุณ 100ล้านวิวที่น้องได้ร่วมหิตเจอริ่งกับพี่ พี่จะโอนเพิ่มนะ 20,000 บาท ผมอยากทราบว่าถ้าผมไม่ได้โทรไปพี่เค้าจะขอบคุณ จะนึกถึงเราไหม และ 20,000 ตรงนี้เราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย ถ้าเราต้องการเงินจริงๆวันนั้นเราเอาแล้ว ผมก็ตัดสินใจโอนกลับไป 20,000 บาท โดยที่ไม่เอาซักบาท และขอย้ำย้อนไปตรงที่ 10,000 บาทนั้นไม่ใช่ค่าตัวนะครับต้องขอชี้แจงตรงนี้หน่อย”

แล้วเรื่องที่ทางนั้นเค้าบอกว่าเค้าไม่ทราบว่าน้องเก้าไปเอาเลขบัญชีมาจากไหนที่โอนเงินกลับไปตรงนี้ยังไงคะ?

“คือเลขบัญชีตรงนี้มันโอนกลับได้ครับ เพราะว่าเค้าโอนมาให้เรา เราก็โอนกลับไปให้เขาได้ (คือมันขึ้นเลขบัญชีตอนโอนมา?) ใช่ ใช่ครับ ผมก็เลยโอนกลับเลยครับ 20,000 บาท คือเหตุผลที่ผมโอนเพราะผมไม่ค่อยสบายใจที่รับเงิน 20,000 นั้นมาโดยที่ไม่รู้ว่ายังไงแต่ผมว่าผมต้องโอนกลับไป 20,000”

คือเรามั่นใจว่าเงิน1หมื่นไม่ใช่ค่าตัวเราแน่ แล้วเราได้ตกลงไหมว่าเราจะเอาค่าตัวเท่าไหร่?

“เราไม่ได้ตกลงครับ อันนี้คือสัญญาใจอย่างที่ผมบอก และ 10,000 นี่ก่อนที่จะสัญญา คือให้ค่าขนมค่ารถ และในวันที่มาสัญญาพี่เขาบอกว่าพี่เค้าจะแบ่งค่า YouTube 70 /30 % ในวันที่พี่เค้าไม่ได้คิดจะทำค่ายเลย จะให้ผมเซ็นสัญญา และพี่ก็จะให้ผมเซ็นสัญญาตอนเพลงนี้ดังแล้ว”

มันจะเป็นไปได้ไหมว่าทางนั้นอาจจะคิดว่า 1หมื่นบาท คือเงินค่าตัวของเรา แต่เราเองก็คิดว่า 1หมื่น ไม่ใช่ค่าตัว มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิดกันได้ไหม?

“ผมว่าไม่ใช่ ผมว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะว่า 10,000 มันโอนก่อนที่จะสัญญา เค้าโอน 10,000 มาตอนอัดเสียงร้องและเขาได้สัญญากับผมตอนอัดเสียงร้องเสร็จแล้ว และพี่เค้าได้สัญญาว่าจะแบ่งค่า YouTube 70 /30 % ตอนที่ผมอัดเสียงเสร็จแล้ว “

แล้วหลังจากวันที่เราทำงานเสร็จ เราได้มีการทวงถามถึงเรื่องเงินอีกครั้งไหม?

“หลังจากทำงานเสร็จเราไม่ได้ทวงนะครับเพราะว่ามันอยู่ที่คำพูดของคนอยู่แล้ว คนที่สัญญาไป แล้วตอนที่เพลงดังผมก็ได้ส่งเอกสารไปแล้วส่งไปเพื่อให้มาเคลียร์กันเรื่องนี้ ซึ่งพี่เขาก็ได้รับแล้วแต่ว่าพี่เค้าเมินเฉย “

บอกได้ไหมเขาว่ามันเป็นช่วงไหน?

“มันเป็นช่วงที่เพลงกำลังดังครับ ประมาณกลางปีที่แล้ว เค้าก็ไม่มีตอบกลับมาเลย และเราก็หยุดติดต่อกันไปเลย ผมก็ไม่ได้ทักถามอะไรซักอย่างเพราะเราส่งไปแล้วเค้าเมินเฉย”

สรุปแล้วว่าเราได้เงินใช้จากเขาคือแค่ 10,000 บาท ส่วน 20,000 บาทที่เค้าโอนมาภายหลังเราก็โอนคืนเขาไป?

“ใช่ครับ “

แล้วพี่เค้าบอกว่ามาชวนเราไปเซ็นสัญญาอยู่ในค่ายเหตุผลอะไรเราถึงไม่อยากไปอยู่กับเขา?

“ผมบอกพี่เขาตั้งแต่แรกแล้วว่าผมอยู่กับพ่อติ๊ก และก่อนหน้านั้น ตอนที่เพลงยิดวิว 6ล้าน ผมจำได้ ผมก็ไปร้องเพลงกับพ่อติ๊กที่หาดใหญ่ ผมยังบอกพ่อติ๊กว่าเรามีสัญญาใจกันก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่เราไปออกรายการเดอะวอยซ์คิดส์ “

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4612644
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4612644