เปิดใจพ่อน้องเก้า นาทีเจรจา‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ท้าเอาคลิปเสียงลับมาเปิด


ให้คะแนน


แชร์

เปิดใจพ่อน้องเก้า เกริกพล นาทีเจรจา‘เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น’ ยันไม่ได้พูดถึงปมเงิน 70:30 ท้าอีกฝ่ายเอาคลิปเสียงลับมาเปิดเลย

จากปมร้อนดราม่า เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น เมื่อโดน น้องเก้า เกริกพล ออกมาแฉยับไม่ได้ค่าตัวออกรายการแค่ 500 บาท ก่อนพ่อน้องเก้าจะโทร.ไปสอบถามถึงการแบ่งรายได้จากยูทูบเพลง เลิกคุยทั้งอำเภอฯ ที่น้องเก้าร่วมร้องด้วย เนื่องจากมีสัญญาใจในการแบ่งรายได้ที่ 70:30 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายพิภู เพชรรัตน์ อายุ 51 ปี พ่อของเก้า เกริกพล เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า ยอมรับได้โทร.ไปหาอีกฝ่ายจริง แต่ไม่ได้พูดถึงส่วนแบ่ง 70:30 ซึ่งเรื่องส่วนแบ่งตรงนั้นเป็นการพูดคุยกันระหว่างแม่น้องเก้าและอีกฝ่ายที่ตกลงกัน ที่มาที่ไปของการโทร.ไปหาอีกฝ่าย เกิดจากเพลงนี้ปล่อยไปเดือนเศษๆ ยอดวิว 100 กว่าล้าน แต่อีกฝ่ายไม่ติดต่อมา ซึ่งก่อนหน้านั้นหลังจากปล่อยเพลง ได้มีการไปออกหลายรายการ ซึ่งพอเสร็จจากตรงนั้นแล้ว อีกฝ่ายก็เงียบหายไปเลย ไม่ติดต่อมา เลยตัดสินใจโทรไปหา

นายพิภู เปิดเผยว่า วันนั้นโทรไปในระหว่างขับรถกลับจากที่น้องเก้าไปเล่นคอนเสิร์ตที่อ.ศรีชล จ.นครศรีธรรมราช ในบทสนทนาตนถามว่า “ยอดวิว 100 กว่าล้านแล้ว ไม่คิดถึงน้องเก้าบ้างหรอ ทรัพย์สินเงินทองมันไม่สำคัญเท่ากับน้ำใจ” บางทีจะให้ตนพูดเหมือนวันนั้นเลยก็จำไม่ได้ว่าพูดไปแบบไหน แต่ลักษณะประมาณนี้และก็ไม่ได้พูดในเชิงด่าหรือว่าหยาบคาย ตนพูดไปในเชิงแบบสอนในฐานะที่ตนก็เป็นเหมือนรุ่นพ่อ แล้วอีกฝ่ายเป็นรุ่นลูก จะเป็นประมาณพ่อพูดกับลูกมากกว่า ไม่มีคำพูดไม่เหมาะสม

นายพิภู เผยต่อว่า โดยวันนั้นอีกฝ่ายตอบมาว่า “จะเอาเท่าไหร่ พ่อจะเอาเท่าไหร่” แล้วก็มีเสียงแทรกอยู่ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่ามีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง แล้วตนก็กำลังขับรถอยู่ด้วยเลยบอกว่าแค่นี้ก่อนแล้ววางสายไป ซึ่งวันนั้นที่คุยกับอีกฝ่ายก็ไม่นาน คุยไม่ถึง 1 นาที ตนมองว่าเหตุที่อีกฝ่ายบอกว่าตนพูดจาไม่ดี อาจเป็นเพราะลักษณะสำเนียงที่ดูแข็งกระด้างในการสื่อสารเสียงจะออกห้าวๆ สำหรับเรื่องนี้หลังจากที่อีกฝ่ายโพสต์ถึงตนในทางเสียหาย ทำให้โดนถล่มจนนอนไม่หลับทั้งครอบครัว ยอมรับว่าตกใจมากที่โดนด่าทั้งโคตร เพราะจริงๆ เรื่องราวทั้งหมดนี้ตนก็เลือกจะเงียบมาตลอด แล้วก็คิดว่าเรื่องตรงนี้เป็นสายลมไปแล้ว

“ผมคิดว่าเขาน่าจะอัดคลิปเสียงที่คุยกันในวันนั้น และควรเอามาเปิดให้สาธารณชนได้รับรู้ ว่าผมได้พูดไม่ดีจริงหรือไม่ ทั้งที่การสนทนากัน ผมไม่ได้มีอารมณ์โมโหใดๆ และที่สำคัญไม่ได้พูดถึงส่วนแบ่ง 70:30 เลย แค่ทักว่ายอดวิวไปเท่าไหร่แล้ว ในส่วนที่เกิดเรื่องไปแล้ว และผมก็วิพากษ์วิจารณ์มาเยอะเลย ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่อยากจะฝากคนในโลกโซเชียลว่าควรจะรู้ข้อความให้ครบถ้วนก่อนวิพากษ์วิจารณ์กัน ควรใช้เหตุผลในการพูดคุย ไม่อยากให้ใช้คำที่หยาบคายกัน ส่วนเรื่องของทางโน้นและเรื่องส่วนแบ่ง 30 % อยากจะให้อีกฝ่ายได้ออกมาแถลงข่าวก่อน และแถลงในความเป็นจริงให้สาธารณชนได้รับรู้ หลังจากแถลงเสร็จแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมไม่อยากมีปัญหาอยู่แล้ว”พ่อเก้ากล่าวปิดท้าย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4619703
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4619703