“ตูมตาม” ไม่เวอร์ บำบัดตัวเองห่างจากมือถือ คิดถึงเมื่อก่อนได้ใช้สมองมากกว่านี้

“ตูมตาม” เผยลบรูปเกลี้ยงไอจีเพราะทำโซเชียลดีท็อกซ์ เอาตัวเองออกห่างจากโลกออนไลน์ ฟุ้งเคยไม่เล่นโซเชียลได้นานถึง 5 เดือน บอกเวลาที่ห่างมือถือจะหันใช้ชีวิตให้ความสำคัญกับสิ่งตรงหน้า ออกไปดูโลกด้วยตาตัวเอง ยันสิ่งที่ทำไม่เวอร์ 

ทำเอาหลายคนตกใจ เมื่อจู่ๆ “ตูมตาม ยุทธนา เปื้องกลาง” ก็ลบรูปเกลี้ยงไอจี หลายคนสงสัยพระเอกหนุ่มมีปัญหาชีวิตอะไรหรือเปล่า ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจกับรายการไนน์เอนเตอร์เทนถึงสาเหตุที่ลบรูปทิ้งเกลี้ยงเพราะอยากบำบัดตัวเองให้ห่างจากการโทรศัพท์มือถือ

“เป็นนิว นอร์มอลของผมครับ เราต้องอยู่ห่างกันบ้างโซเชียล ดิสแทนซิ่ง เป็นช่วงที่อยากอยู่ห่างโซเชียลซักแป๊บนึง ก็เลยเอารูปออก จริงๆ ผมทำแบบนี้บ่อยนะครับ บางครั้งผมก็ปิดแอคเคาท์ไว้ก่อนอาทิตย์นึง ขี้เกียจเล่นก็ปิดไว้ แต่เราไม่ลบนะ เดี๋ยวเราก็กลับมาเล่นอยู่แล้ว

ถามว่าเสียดายรูปไหม ไม่เสียดายครับ เรามีรูปเก็บไว้อยู่แล้ว จริงๆ รูปที่ลงในไอจีเป็นรูปที่เราลงอัปเดตในแต่ละวัน แต่รูปที่เป็นความทรงจำหรือมีคุณค่ากับเรา เราเก็บไว้อยู่แล้ว หลายคนก็ตกใจ เพื่อนๆ แฟนๆ ที่ติดตามกัน เขาก็ทัก มาทำไมรูปหาย ผมตอบได้ก็ตอบครับว่าไม่มีอะไร ผมไม่ได้เป็นอะไร ตอนนี้ผมแฮปปี้ดีมากครับ”

มีปัญหาชีวิตจะไม่เอาไปลงโซเชียล
“คือตอนนี้เวลาถ้าผมมีปัญหาหรืออะไรก็คงไม่เอาไปลงกับโซเชียลแล้ว มันก็เป็นสไตล์การเล่นไอจีธรรมดาๆ ของผมนี่แหละ ผมเคลียร์รูปเดี๋ยวผมก็ลงใหม่ อาจจะเปลี่ยนแนวการถ่ายรูป เปลี่ยนมูทแอนด์โทน อยากจะแนวพิงก์ๆ บ้าง(หัวเราะ) หวานขึ้นมาหน่อย ปกติรูปดาร์กมากเลย”

ลั่นเป็นการทำโซเชียลดีท็อกซ์ของตนที่จะเอาตัวเองออกห่างจากโทรศัพท์มือถือ แล้วหันมาใช้ชีวิตจริงที่อยู่ตรงหน้ามากขึ้น
“ก็ถือเป็นการทำโซเชียลดีท็อกซ์ เอาตัวเองออกห่างจากโซเชียลบ้าง ที่อยากจะห่างเพราะบางทีเราเสียเวลามากกับมัน เราติดมัน บางทีเราก็เลื่อนหน้าจออยู่นั่นแหละ ซึ่งจริงๆ ไม่มีอะไรทำหรอก จนมันถึงจุดที่เรารู้สึกอยากจะบำบัดตัวเองจากเรื่องนี้ อยากจะพาตัวเองไปทำอย่างอื่นบ้างที่มันไม่ต้องจับโทรศัพท์ตลอดเวลา พอห่างจากมันก็มีเวลาไปทำอย่างอื่นเยอะมาก เราได้ใช้ชีวิตจริงๆ ของเรา

ไปใช้ชีวิตกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าบ้าง คือที่ผ่านมาก็อาจจะถือมือถือตลอดเวลา มองมันอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้จะเล่นมือถือแค่เอาไว้คุยงาน ทำธุระที่มันจำเป็น ถ้าไม่เกรงใจผมอยากจะกลับมาใช้ 3310 มากเลยนะ เอาแค่โทร.เข้าโทร.ออกได้ไม่ต้องมีอินเตอร์เน็ต ยุคนั้นที่โทรศัพท์เราไม่มีแชต มีไลน์ เราขยันมากกว่านี้ เราได้ใช้สมองกันมากกว่านี้อย่างน้อยๆ ก็ต้องจำเบอร์โทรศัพท์คน เวลาใครคุยอะไรมาเราต้องจำให้ได้ว่าคุยกันเรื่องอะไร นัดอะไรกันไว้ต่างๆ นานา ผมว่ามันทำให้เราได้ใช้ศักยภาพของเราเต็มที่

แต่ตอนนี้เหมือนเราก็ไปอาศัยโทรศัพท์อยู่ตลอด จนวันนึงถ้ามันเกิดฉุกเฉินแบตหมดขึ้นมา เราจะกลายเป็นทำอะไรไม่ได้ lost เลยนะ ผมว่ามันไม่โอเค”

บอกหากใครมีธุระหรืออยากติดต่อเรื่องงานกับตนก็ติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัว เล่าเคยห่างจากโซเชียลได้นานที่สุด 5 เดือน
“ใครจะติดต่ออะไรมาก็ติดต่อมาทางผู้จัดการส่วนตัวที่คอยเคลียร์งาน คุยงานให้แล้วเขาค่อยมาอัปเดตกับเรา ผมเคยห่างจากโซเชียลนานสุดประมาณ 5 เดือน ช่วงนั้นลบทิ้งไปเลย จะบอกว่ามันดีมากเลยนะครับช่วงนั้น ตอนนั้นผมอาจจะคิดอะไรแบบเด็กๆ ด้วย ลบๆ มันไป แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าคนที่เขาจะมาตามเรา ฟอลโลเวอร์กว่าจะได้แสนนึงนี่มันยากมากครับ ผมเลยไม่ลบแล้ว

จริงๆ ไม่เกี่ยวหรอกครับ มันเป็นวิธีจัดการของแต่ละคน บางคนถ้าวางโทรศัทพ์ไว้เฉยๆ แล้วเราไม่สามารถหยุดตัวเองได้ ผมนี่แหละเป็น ถ้าผมยังมีแอปฯ อยู่ มีรูปอยู่ ผมก็คงเล่น ผมเลยลบทิ้ง”

บอกเวลาที่ห่างมือถือก็จะใช้ชีวิตที่อยู่ตรงหน้าที่เป็นเรื่องจริง ออกไปดูโลกด้วยตาตัวเอง
“ใช้ชีวิตตามระบบของเราจริงๆ ถ้าอยู่บ้าน ก็จะรดน้ำต้นไม้ อ่านหนังสือ ทำกับข้าว คุยกับเพื่อนแบบโทร.หากัน นัดเจอกัน ออกไปใช้ชีวิต ออกไปดูโลกให้เห็นกับตา มันเป็นเรื่องค่อนข้างซีเรียสนะครับ คนอาจจะมองว่ามันเวอร์ไปหรือเปล่า จริงๆ แล้วไม่ได้เวอร์นะครับ ลองวางมือถือไว้เลยสักวันนึง ไม่แตะมันเลย เราจะเอาสมาธิไปอยู่กับอย่างอื่นที่มันเป็นเรื่องจริง ชีวิตจริงมากขึ้น”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080343
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080343