รีวิวหวิวขั้นสุด “น้องแน๊ต” นุ่งผ้าถุง โชว์ทุเรียน – ปลาเค็ม ฟุ้งตีตลาดชาวบ้าน อยู่บ้านก็มีรายได้


5/5 - (1 vote)


แชร์


“แน๊ต เกศริน” ปิ๊งไอเดียตีตลาดชาวบ้าน ใส่ผ้าถุงอวดเอ็กซ์รีวิวทุเรียน ปลาเค็ม ทำกับข้าว แคปชั่นสองแง่สองง่าม ช่วงโควิดเลยไม่กระทบอะไร เผยปรับตัวให้เข้ากับโควิด ไม่เต้นลงติ๊กต่อกเพราะเต้นมาจนเบื่อแล้ว ฟุ้งเตะตา “อ.ยิ่งศักดิ์” ถึงขั้นทาบเป็นพิธีกร เผยเป็นเสาหลักช่วยครอบครัว ทำงานได้เงินเอาไปจุนเจือญาติทั้งหมด แทบไม่มีเงินเก็บ

ขณะที่คนอื่นได้รับผลกระทบจากโควิด-19 กันโครมๆ บางคนหาทางออกความเครียด ด้วยการเล่นแอปฯ ติ๊กต่อก ผุดคอนเทนต์ร้องเต้นกันรัวๆ แต่สำหรับ “แน๊ต เกศริน ชัยเฉลิมพล” กลับไม่ได้รับผลกระทบตรงนี้ โดยเจ้าตัวเผยระหว่างมาร่วมงาน เปิดตัวสินค้า “กาแฟ ส.มวยไทย” แฮปปี้ผุดคอนเทนต์แหวกตลาด นุ่งผ้าถุงรีวิวแบบชาวบ้าน ซึ่งเซอร์ไพรส์กับฟีดแบ็กที่ได้รับกลับมา

“ช่วงโควิด งานซบเซามันก็เป็นกันทุกคนอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วงโควิด-19 เราไม่ได้มายด์กับงานกลางคืนมาก หลายเจ้าก็มีมัดจำมา ให้กลับมาก่อนแล้วก็ค่อยว่ากัน ก็เซ็กซี่อยู่บ้านได้ค่ะ ช่วงนั้นเรื่องของงานกลางคืนต่างๆ ก็ต้องซอฟต์ไป แต่เราก็พยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ก็ใส่ผ้าถุง ทำกับข้าวอยู่บ้าน คนอื่นจะเล่น tiktok แต่เราจะเข้าครัวทำกับข้าว ตอนนี้งานก็ทยอยกลับมาแล้ว แต่เหมือนเราตอนนี้พยายามที่จะปั้นตัวเองเพื่อจะหาหนทาง ทำยังไง

ถามว่างานหายไปเยอะไหม งานกลางคืนสำหรับแน๊ตไม่ค่อยมีผลกระทบมาก อย่างที่บอกว่าเรามีงานอย่างอื่นเข้ามาทดแทน เข้ามาเสริม มันเลยทำให้เราไม่ขาด ตอนนี้งานก็กลับมาแล้ว 30 วันก็ค่อนข้างแน่น งานตอนนี้ที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นงานเปิดตัวธุรกิจ

อย่างที่บอกธุรกิจในช่วงโควิดมันถูกชะลอไปเยอะ ตอนนี้คนก็กำลังกลับมาฟื้นตัว ธุรกิจหลายเจ้ากำลังรอการเปิดตัว เขาก็เห็นเราในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำคอนเทนต์แปลกกว่าคนอื่น เราก็เหมือนเป็นจุดเด่นในกลุ่มอยู่บ้าง เขาก็เลยสนใจ สิ่งที่เราทำช่วงโควิด-19 มันเลยส่งเสริมงานของเราต่อยอดมา คนอื่นจะแต่งบิกินี ทำโน่นทำนี่ แตาเราฉีกแนวใส่ผ้าถุง คือเราก็คิดในมุมของเราว่า เผื่อมันไปเตะตาใครเข้าในรูปแบบของความเป็นชาวบ้าน ของความแปลกใหม่ทางการตลาดของดารา นักแสดง”

เผยไอเดียจุดประกาย รีวิวแบบบ้านๆ คิดแคปชั่นให้สองแง่สองง่าม
“ได้ไอเดียจากการที่เรารู้สึกว่าของเราเหลือที่บ้าน เสื้อผ้าเราเหลือ เราจะทำอะไร คนอื่นใส่ชุดหรู ชุดเซ็กซี่ เราก็ใส่จนปกติไปแล้ว แต่เรารู้สึกตอนนั้นว่ามันต้องเป็นอะไรที่เป็นชาวบ้าน เพราะตอนนี้กลุ่มชาวบ้านมันดังมากในเรื่องของโซเชียล ยูทิวบ์ แฟนเพจ สถานการณ์โควิด-19 อยู่บ้านแต่เราก็ต้องมีรายได้ มันก็เกิดจากการที่เราชอบทำอาหารกินเอง เพราะเราไม่มั่นใจเรื่องของการซื้ออาหารจากข้างนอกมาทาน

มันเลยเป็นการจุดประกายว่าพอฉันไปซื้ออาหารที่ซุปเปอร์ แล้วก็เอามาแต่งตัวใส่ผ้าถุง เอามารีวิว คิดแคปชั่นสองแง่สองง่ามให้มันจุดประกายคิดว่าเรารีวิวอะไรอยู่ รีวิวอาหารสิ คงจ้างแต่ไม่ใช่เลย เราใช้เงินเราซื้อ เราลงทุนไปก่อน เดี๋ยวผลกำไรจะตามมาเอง คิดแค่นั้น”

เซอร์ไพรส์ผลตอบรับ ตั้งแต่ทุเรียน ยันปลาเค็ม
มากๆ เลย ตั้งแต่ทุเรียน พอมาปลาเค็มมันทำให้ทุกคนจำภาพผู้หญิงใส่ผ้าถุง เรามองว่าเซ็กซี่แบบไม่ต้องเปิดก็ได้นะ จริงๆ แล้วผ้าถุงมันสามารถทำให้เซ็กซี่ก็ได้นะ มันขึ้นอยู่กับไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ของเรา ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งอาหารมาให้กินมากกว่า แน๊ตไม่ได้สินค้าจากการรีวิวเลยแต่เป็นสินค้าที่เขาวางตัวไว้เลยว่าหมดโควิด-19 จะเอาเรามาเป็นพรีเซนเตอร์ กลายเป็นทำตลาดให้แพงขึ้น”

ปัดอยู่ในวงการเซ็กซี่มานานเบื่อแล้ว เลยหันมาเซ็กซี่แบบเปิดน้อยๆ บอกมันเป็นงานจะเบื่อไม่ได้
“มันเป็นงาน ถ้าเรามองว่ามันเป็นงานมันจะเบื่อไม่ได้ ถ้าเราเบื่อเราก็จะไม่มีเงิน ถ้าก็หาแนวทางของเราไป ถ้าเรายังไปเซ็กซี่เหมือนคนอื่นๆ อยู่คิดว่าตอนนี้เราก็คงต้องอยู่บ้าน”

อยากเฟดตัวจากงานกลางคืน ได้จังหวะตรงนี้พอดี
“ใช่ค่ะ เราหว่านเมล็ดไปก่อน เราเชื่อว่าเดี๋ยวผลมันจะตามมา ซึ่งมันก็มาจริงๆ ในช่วงระหว่างที่ธุรกิจหลายๆ ตัวปิดตัวลง ก็มีธุรกิจอีกจำนวนหนึ่งที่เขารอช่วงหมดโควิด-19 เขาจะเอาเรา เราก็อยู่กับตัวเองให้มากขึ้น แน๊ตเชื่อว่าการวางแผนการตลาดให้ตัวเราเอง มันดีเพราะเรารู้จักตัวเองที่สุด”

ไม่เห่อเล่นติ๊กต่อก แหวกแนวใส่ผ้าถุง ทำอาหาร โวเตะยัน “อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์” ติดต่อตนไปเป็นพิธีกร
“มันมาจากตัวแน๊ตเองเลย ช่วงโควิด-19 จะเห็นเลยว่าคนไปเต้น tiktok กัน แต่แน๊ตไม่ได้ทำเลย แนทอยู่บ้าน ใส่ผ้าถุง ถ่ายรูปเล่น แต่งตัวเซ็กซี่บ้าง แล้วก็ทำอาหารบ้างมันก็คงไปเตะตาผู้ประกอบการหลายๆ ท่าน แม้แต่อาจารย์ยิ่งศักดิ์เองยังโทร.มาอยากจะทำคอนเทนต์กับเรา เอาเราไปเป็นพิธีกรด้วย”

โชว์ในผับเบื่อแล้ว ไม่อยากเต้น ฟุ้งยอดวิวสูงๆ เป็นตลาดชาวบ้าน
“ถามว่าตัดสินใจยากไหม เพราะคนหันไปทางติ๊กต่อก เอาตรงๆ ติ๊กต่อกมันเป็นทางสายเต้น เปิดโลกอีกโลกนึงให้คนที่เก็บกด ฉันอยากจะดี๊ด๊า แต่เราทำงานตรงนี้มาเยอะ ทำงานโชว์ในผับมาเยอะ เราเบื่อแล้ว ไม่อยากจะเต้นๆหน้ากล้อง คนเรามันเต้นตลอดเวลาไม่ได้ เราก็อยากจะพัก เราอยากทำในสิ่งที่เรายังไม่เคยทำ

ตอนนี้ฉันอยากทำกับข้าวแต่ทำยังไงให้มันขายได้ด้วยในแนวทางของเรา ตอนนี้ตลาดที่มาแรง ยอดวิวสูงๆ ก็เป็นตลาดชาวบ้าน แม้กระทั่งยอดเพลงในยูทิวบ์ มาจากกระแสผู้หญิงชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ต้องอะไรมากมาย ไม่ต้องไปตกแต่งอะไรเยอะ มันตอบโจทย์ตลาดทั่วไปอยู่แล้ว ตอนแรกคิดไม่เยอะ ชอบก็ทำเลย คิดง่ายๆ แล้วมาต่อยอดจากกระแสทีหลัง มันมาจากสิ่งที่เรารักเราชอบ งานที่เข้ามามันก็เป็นผลพลอยได้จากช่วงโควิด-19 คนก็มาจองๆๆๆคิวเราไว้”

รับเบื่อ อยากวางมืองานกลางคืนมานานแล้ว
“ถ้าให้พูดตามจริงเราอยากจะวางมานานแล้ว ถามว่าเบื่อไหมเบื่อแน่นอนอยู่แล้ว แต่ทุกงานมันคือรายได้ เราเบื่อไม่ได้ แล้วแน๊ตบางมุมชีวิตก็เป็นหัวหน้าครอบครัว ดูแลญาติพี่น้อง ใครเดือดร้อน ก็อาศัยรายได้จากงานกลางคืนมาช่วยเหลือพี่น้อง แต่ถ้าช่วงไหนไม่ต้องเป็นหัวหน้าครอบครัว เราดูแลแต่ตัวเองงานตรงนั้นบางทีมันก็ไม่ได้จำเป็นสำหรับเรา”

เป็นเสาหลักช่วยครอบครัว ทำงานได้เงินเอาไปจุนเจือญาติทั้งหมด แทบไม่มีเงินเก็บ
“เยอะมาก ช่วงก่อนหน้านี้ทางญาติๆ เขาต้องใช้เงิน สภาพคล่องเขาขาด เราก็ช่วยหลังบ้านให้เขา ตัวเราไม่มีเงินสดเลยนะ เราทำงานได้เราก็ให้ครอบครัวหมด เอาจริงๆ เราแทบไม่มีเงินเก็บเลยนะ เพราะเอาไปจุนเจือญาติหมด แต่เราจะเก็บเป็นสินทรัพย์แทน ถ้าเก็บเงินสดคงไม่เหลือ”

หมดโควิดจะไปตีตลาดพม่า – จีน
“ความเป็นชาวบ้านมันก็ทำให้เราจับธุรกิจไฮๆ ก็ได้นะ เพราะธุรกิจแต่ละตัวที่เราได้มันไม่ใช่แค่ในประเทศ มันมีต่างประเทศด้วย แม้แต่สินค้าที่เราได้พรีเซนเตอร์ก็จะมีการตีตลาดเอเชียด้วย ความเป็นไทยของเราสามารถนำเสนอสู่ต่างชาติได้ อย่าลืมว่าชาวต่างชาติเขาชอบเราที่ความเป็นไทย แต่ว่าคนไทยยังตอบโจทย์ ตีตลาดไม่ได้ ก็รอจบโควิด-19 ก็จะมีไปตีตลาด พม่า จีน

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080500
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080500