“โอบ” แฮปปี้รัก 4 ปี “มะปราง” โควิดทำให้ตระหนัก ควรเก็บเงินให้มากที่สุด


ให้คะแนน


แชร์


“โอบ นิธิ” แฮปปี้ฉลองวันเกิดกับ “มะปราง” และครอบครัว ไม่มีอะไรให้ตัวเอง แต่ฝ่ายหญิงมีให้ของขวัญ ยิ่งโตยิ่งตระหนักได้ ว่าควรเก็บเงินไว้มากกว่า หลังจากหยุดโควิดทำให้คิดได้ว่าเงินสำคัญที่สุด รัก 4 ปี ยังเรียนรู้กันอยู่เรื่อยๆ เรื่องแต่งงานยังไม่ถึงเวลา ขอทำบ้านให้แม่สำเร็จก่อน

เพิ่งจะผ่านวันเกิดมาได้ไม่นาน สำหรับนักแสดงหนุ่ม “โอบ นิธิ วิวรรธนวรางค์”ที่มีอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์ไปเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ที่ผ่านมา วันนี้ได้เจอหนุ่มโอบ ในงานเปิดกล้องซีรีส์เรื่องใหม่ “Blackout บาร์ลับไม่มีในโลก” จากค่ายนาดาวบางกอก เจ้าตัวก็ได้เผยถึงโมเมนต์สุดแฮปปี้ ที่ได้ร่วมฉลองวันเกิดพร้อมกับแฟนสาว “มะปราง อลิสา ขุนแขวง”และครอบครัว พร้อมอัปเดตความรักหลังเพิ่งครบรอบ 4 ปี ให้ฟังว่า

“วันเกิดที่ผ่านมา ก็โอเคครับ ปีนี้ก็ถือว่าเป็นปีที่แปลกไป เพราะมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นพร้อมกัน มันอาจจะมีโรคระบาดเข้ามา แต่เราก็ยังมีความสุขแล้วก็ใช้ชีวิตอยู่กับมันให้ได้ ต้องปรับตัวเข้ากับมันให้ได้”

ไม่ได้ซื้ออะไรให้ตัวเอง เพราะไม่มีตังค์ อยากเก็บเงินไว้ดีกว่า
“ไม่มีครับ ไม่มีตังค์ครับ (หัวเราะ) ผมรู้สึกว่ารอบนี้ไม่ได้ซื้ออะไรเลย ปกติก็จะซื้อตลอด อยากเก็บเงินไว้ดีกว่า ผมรู้สึกว่าอะไรมันก็ไม่แน่นอน”

โตขึ้นความคิดก็โตขึ้นด้วย ยิ่งในช่วงนี้ ยิ่งต้องตระหนักว่าต้องเก็บเงิน
“ใช่ ยิ่งในช่วงนี้ก็ทำให้ยิ่งตระหนักขึ้น ว่าต้องเก็บเงินมากขึ้น ทำโน้นทำนี่มากขึ้น

ช่วงโควิด-19 ทำให้คิดได้ว่าอาชีพเดียวไม่มั่นคงแล้ว ต้องไม่หยุดอยู่กับที่ เพราะยังมีพลังที่จะออกไปทำอะไรอยู่
“ช่วงโควิดทำให้ได้อยู่กับตัวเอง แล้วก็ได้คิดอะไรหลายอย่าง ปกติเราทำแบรนด์เสื้อผ้า มันก็กระทบไปหมดเลย เลยคิดว่าเราต้องไม่หยุดอยู่กับที่แล้ว อยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว เพราะเราก็ยังมีพลังที่จะออกไปทำอะไร แต่ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ต้องหาอะไรทำเพื่อเก็บเงิน ช่วงนี้ก็เซฟไว้ก่อน”

เผยหวานใจสาวมะปราง แอบเซอร์ไพรส์ให้ของขวัญวันเกิด แต่เป็นอะไรขออุบไว้ดีกว่า ให้ไปหากันเอาเอง
“ก็ให้เป็นของขวัญธรรมดาครับ แต่เป็นของขวัญที่เขาตั้งใจให้ บอกว่าอย่าบอกใครละกัน (หัวเราะ) คือเขาไปแอบซื้อมาโดยที่ไม่บอกผม หลอกผมไปลองด้วย แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะซื้อให้ คือเขาอยากได้อยู่แล้ว ก็ทำทีเป็นว่าเขาจะซื้อให้ตัวเอง หลอกผมไปลอง แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นอะไรครับ อยากรู้ไปหาเอาเอง แล้วก็ไปกินข้าวกันกับที่บ้านผม ก็เหมือนเป็นวันพิเศษวันหนึ่งครับ”

วันครบรอบ 4 ปีที่คบกัน ไม่ได้ให้ของขวัญกันเลย ทีเพียงแค่ลงรูป แต่แค่นี้มะปรางก็เขินแล้ว ขอบคุณพลพล เหมือนเป็นพ่อสื่อให้ได้เจอกัน
“ไม่มีนะครับ ก็แค่ลงเป็นการให้นึกถึงว่าวันนี้ครบรอบประมาณนี้ (เขาก็มาคอมเมนต์ว่าเขิน เป็นครั้งแรกที่เจอกัน?) ใช่ๆ เป็นครั้งแรกที่เจอกัน ต้องขอบคุณพี่พลพลที่เขาเป็นพ่อสื่อครับผม (หัวเราะ) ก็ประมาณนั้นแหละครับ

ผมก็รู้สึกว่าปัจจุบันเราได้เรียนรู้อะไรกันไปเรื่อยๆ นะครับ ผมรู้สึกว่าการเรียนรู้ของคนแต่ละคน ไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว อย่างปัจจุบันพ่อแม่ผมยังต้องมีเรื่องที่มันไม่เข้าใจกันอยู่เลย ก็ต้องปรับตัวกันไปให้คุยกันให้รู้เรื่อง”

เรื่องอนาคตยังไม่ได้คุยไปถึงเรื่องแต่งงาน เพราะยังรู้สึกว่ายังจักการอะไรไม่ค่อยได้ ทุกวันนี้ยังพึ่งแม่อยู่เลย การแต่งงานก็สำคัญ แต่อยากทำบ้านให้แม่ก่อน
“จริงๆ แล้วไม่ได้ถึงขนาดคุยเรื่องอนาคต ว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผมรู้สึกว่าตัวผมยังจัดการอะไรไม่ค่อยได้ คือผมรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่าง ตัวผมเองยังให้แม่ทำอยู่เลย แม่ช่วยทำโน่นนี่หน่อย แล้วผมก็มีแพลนที่อยากจะทำบ้านให้แม่ด้วย เลยรู้สึกว่าผมเป็นคนที่ทำอะไรสองอย่าง โฟกัสสองอย่างไม่ได้ คือผมรู้สึกว่า ถ้าเราโฟกัสอย่างเดียวไปเลย มันจะได้ผมที่ดีกว่า ถ้าถามว่าจริงจังไหม คือมันเป็นเรื่องที่จริงจังทั้งสองเรื่องนะครับ ผมรู้สึกว่าไม่อยากให้มองเป็นเรื่องเล่นๆ”

บอกอายุจะ 30 แล้ว ต้องรีบโต ทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้มากกว่านี้
“คือผมรู้สึกว่าบางอย่าง ผมแค่จัดการอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ พอเกิดเหตุการณ์อะไรแบบนี้ขึ้น ผมรู้สึกว่าวันหนึ่งผมจะต้องโตกว่านี้ ผมรู้สึกว่านี่เราก็อายุ 26 แล้วนะ อีก 4 ปีจะ 30 แล้วนะ ตอนนี้เราไม่ได้ 20 ต้นๆ แล้ว ค่อนไปทางปลายแล้ว ผมรู้สึกว่าผมอยากจะเริ่มเมเนทโน่นนี่นั่น ทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้มากกว่านี้”

หลังจากสร้างบ้านเสร็จ ค่อยมานั่งคุยกันอีกที ว่าความคิดเรื่องงานเป็นไปในทางเดียวกันหรือเปล่า
“ก็ต้องมานั่งคุยกันอีกทีหนึ่งครับ ไม่ถึงขนาดว่าสร้างบ้านเสร็จแล้วปุ๊บอย่างงี้เลย ผมรู้สึกว่าเราต้องมานั่งคุยกันอีก ว่ามันเป็นไปในทางเดียวกันไหม”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080591
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000080591