ถ้าหากจะย้อนถึงชีวิตของ โรเบิร์ต สายควัน หรือ หมั่ง ไพฑูรย์ พุ่มรัตน์ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า โรเบิร์ต นั้นเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ในอดีตเขาเคยทำเรื่องที่ไม่ดีกับตัวเองไว้มากมาย ติดยาเสพติดอย่างหนัก เสพมาเกือบทุกชนิดจนทำให้ต้องออกจากวงการบันเทิง เพื่อไปเลิกยา 

โรเบิร์ต เคยเล่าว่า เขาเคยติดผงขาวอย่างหนัก จนร่างกายไม่ไหว เลยตัดสินใจเลิกเด็ดขาด ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาเล่นตลกอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายสิบปี อยู่คณะดี๋ ดอกสะเดา จนกระทั่งติดยาก็ออกไป พอเลิกยาได้แล้วก็กลับเข้ามาทำงานคืนสู่วงการบันเทิง

โชคดีที่ บอล เชิญยิ้ม ชวนมาทำรายการ บริษัทฮาไม่จำกัด กับวงคอนเสิร์ต เลยทำให้ช่วงที่ผ่านมาก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าป่วย เขาได้ทำงานอย่างหนัก มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และทำงานทุกวัน ทำให้พักผ่อนน้อย แต่ด้วยที่อายุเยอะแล้ว ร่างกายมันรับไม่ไหว ก็ต้องงดรับงานบ้าง เพื่อเอาไปเวลาไปพักผ่อน 

สิ่งที่ทำให้ โรเบิร์ต กับ บอล เชิญยิ้ม สนิทกันมากๆ ก็คือ บอล เป็นคนชวนเข้ามาทำรายการด้วย และช่วยดูแลทุกอย่างให้หมด ทั้งคิวงานแสดง และเรื่องการเงิน จะเรียกว่า บอล เป็นคนช่วยชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ก็ได้ เพราะเป็นคนให้โอกาส ให้งาน และให้อะไรหลายๆ อย่าง 

โรเบิร์ต ต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับโอกาสนี้ กว่าคนดูจะเชื่อว่า เลิกยาจริง ทุกวันนี้หลายคนอาจจะแซวกันเยอะเรื่องติดยา โรเบิร์ต เองก็ไม่ได้โกรธ แต่มองเป็นเรื่องขำๆ มากกว่า 

โรเบิร์ต เคยเล่าให้ฟังช่วงที่เขาติดยาอย่างหนัก มันเกิดจากความสนใจในการที่อยากจะลองเสพยา พอมีอะไรเข้ามาก็ลองเสพหมด จนกระทั่งติดอย่างหนัก ติดยาเมื่อตอนอายุประมาณ 30 ปี ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เล่นตลกแล้ว อยู่กับ ดี๋ ดอกสะเดา เขาก็คอยห้ามคอยเตือน แต่ไม่เชื่อ บอกไม่ฟัง เขาก็เรียกตำรวจที่เป็นเพื่อนให้เอาไปขัง เผื่อคิดได้แล้วจะเลิก เลิกตอนอยู่ในคุก แต่ออกมาก็ติดใหม่ เงินที่เคยมีก็หมดตัว

จนถูกส่งไปบำบัดที่โรงพยาบาลทหารค่ายธนะรัชต์ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึงเลิกยาได้ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจเด็ดขาดเลิกยาได้ก็คือ ลูกสาว อยากทำอะไรเพื่อลูกสักครั้ง โรเบิร์ต เคยบอกไว้ว่า เขาไม่เคยอายที่จะกล้าบอกใครๆ ว่าเคยติดยา แต่กลับมองว่ามันดีด้วยซ้ำ ที่สามารถกลับตัวกลับใจได้ และสังคมก็ให้อภัย อีกทั้งจะได้เป็นอุทาหรณ์ถึงเด็กรุ่นหลังได้อีกด้วย 

หลังจากที่เลิกยาเสพติดได้ โรเบิร์ต ก็กลับมาทำงานในวงการบันเทิงอีกครั้ง และมีชื่อเสียงโด่งดังถึงทุกวันนี้ เขาเคยบอกว่า ชีวิตตอนนี้ดีขึ้นมากๆ สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ แม้จะไม่มากเหมือนคนอื่น แต่เท่านี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี.