“แก้ม เดอะสตาร์” โอดงานหายช่วงโควิดได้แต่ทำใจ ใครๆ ก็เป็น อิ่มใจร้องเพลงกล่อม “น้องเวทย์มน” ลูก “ใบเตย” เผยห่วงอาการมาม่าบลู อีกฝ่ายลั่นหลังจากนี้จะทำทุกอย่างเพื่อลูก 

โดนฤทธิ์ไวรัสโควิด-19 เล่นงาน จนคนในวงการซึ้งสัจธรรม ไม่มีงานไหนที่มั่นคง แม้แต่งานที่ดูจะมีรายได้ที่ดีอย่างงานในวงการบันเทิง ยิ่ง “แก้ม เดอะสตาร์” วิชญาณี เปียกลิ่น ได้รับผลกระทบเต็มๆ จากเหตุการณ์นี้ จากที่มีงานรออยู่อย่างมากมาย บางงานถูกยกเลิก บางงานถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด โดยเจ้าตัวเผยว่าได้แต่ทำใจ เพราะใครๆ ก็เป็นกัน

“ก็หลังจากโควิดมาก็ให้มีงานกันก่อน (หัวเราะ) ตอนนี้มีรายการเดี่ยวของตัวเองที่ทำออนไลน์ ชื่อรายการความแก้ม เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีโอกาสได้ทำรายการของตัวเอง ความแก้มคือเป็นแก้มเลยค่ะ ผลกระทบที่เกิดจากโควิดจริงๆ แก้มว่าทุกๆ ศิลปินเลยค่ะ ด้วยความที่เราร้องเพลงบนเวทีก็ต้องมีคนดู พอจัดงานไม่ได้ก็กระทบกันหมดค่ะ แก้มว่าไม่ใช่แค่ศิลปินแต่ทุกๆ คนเลยต้องเจอผลกระทบ

ถ้าถามถึงงานที่หายไป มันพูดได้ไหมคะ ด้วยความที่โควิดเกิดจากหลังจากที่แก้มไปร้องเพลงเอลซ่าที่ออสก้าร์ ก็เลยจะมีงานรออยู่ค่อนข้างที่จะเยอะ แต่ทีนี้ก็เลื่อนหมด เพราะฉะนั้นก็ค่อนข้างจะเยอะ แต่เราก็รู้สึกว่าไม่เป็นไร เราหยุดกันทุกคน เราอยากให้โรคมันหายไปก่อน ประเทศเราปลอดภัยก่อน แก้มถือว่าเป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน สังคมต้องช่วยกัน งานที่เลื่อนไปส่วนใหญ่ก็เป็นงานในประเทศนะคะ ต่างประเทศเรายังไม่รู้ค่ะ เพราะทุกประเทศต้องดูแลตัวเองหมดเลยค่ะ แต่ปีนี้มีงานให้ชมแน่นอนค่ะ จริงๆ อยากบอกมากแต่มีหลายโปรเจกต์ เราต้องรอเวลาก่อน เพราะด้วยความที่เราไม่รู้จังหวะว่าทุกอย่างมันจะดีเลยตอนไหน คอนเสิร์ตต่างๆ ก็ยังจัดไม่ได้ งานบางงานที่เราต้องไปก็ยังทำไม่ได้ด้วยค่ะ”

อิ่มใจร้องเพลงกล่อม “น้องเวทย์มน” ลูก “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน
“คือวันนั้นแก้มนัดกับพี่ใบเตยและลุกซ์ (น้องชายใบเตย) อยู่แล้ว แก้มบอกไว้ว่าเดี๋ยวแก้มจะไปเยี่ยมหลาน เพราะว่าเราบอกไว้ตั้งแต่ช่วงที่อุ้มน้อง เลยรู้สึกว่าวันนั้นมีโอกาสพอดีเลยไป ลุกซ์น้องพี่ใบเตยก็บอกว่าพี่แก้มร้องเพลงให้หลานหน่อยอะไรแบบนี้ ร้องหลายเพลงมากเลย ก็รู้สึกว่าดีใจเนอะที่ได้เห็นหลาน ได้เห็นลูกของพี่เตย เพราะเรารู้จักพี่เตยมาตั้งแต่เวทีประกวดร้องเพลงที่ภาคใต้ อาจจะไม่ได้สนิทกันมากตอนนั้น พี่เตยเขาจะสนิทกับน้องสาวแก้มมาก เลยรู้สึกว่าเราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก แล้วพี่ใบเตยเป็นแม่แล้ว ตั้งแต่วันแต่งงานแล้ว เราได้มาเห็นเขาเป็นแม่อีก เลยรู้สึกว่ามันดีใจกับเขา

โมเมนต์นั้นเราได้เห็นเด็กคนหนึ่งที่กำลังจะเติบโตต่อไป และเป็นหลานที่ดีของเรา แก้มเชื่อว่าแม่เขาจะรู้สึกขนาดไหน ขนาดเรายังรู้สึกประทับใจ แล้วเขาต้องอุ้มท้องมาตั้ง 9 เดือน แล้วเราเป็นน้า เราก็รู้สึกอิ่มใจค่ะ
คือต้องบอกก่อนว่าด้วยความที่แม่แก้มเป็นหัวหน้าแผนกห้องคลอดตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆ แก้มเลยค่อนข้างจะได้คลุกคลีกับเด็กๆ เยอะ และเราจะรู้วิธีในการอุ้ม เพราะคุณแม่เป็นพยาบาล ไม่ใช่อยู่ๆ แล้วไปอุ้มเลย เราก็ต้องไปฝึกก่อน เราก็รู้ว่าในช่วงเวลาที่เขาเพิ่งคลอด เขาต้องการอนุญาตจากคุณแม่ คุณพ่อ น้าเขาก่อน เราไม่ใช่อยู่ๆ จะไปอุ้ม เราก็รู้สึกว่าเราได้รับเกียรตินั้น เราก็ดีใจที่เราได้ไปอยู่ในช่วงเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้ต้อนรับหลานค่ะ เราก็มีส่งดอกไม้ไปให้ก่อนค่ะ

ถามว่าจะเดินสายกล่อมเด็กไหม โถ..ไม่ใช่แค่นั้น งานแต่งงานได้ด้วย ไม่มีอีเวนนต์นั้น มันเป็นโอกาสดีๆ โอกาสพิเศษค่ะ หลานก็มียิ้ม แต่เราไม่รู้ยิ้มรำคาญหรืออะไร พอร้องไปแป๊บหนึ่งเราก็คืนแม่เขาดีกว่า ร้องไปไม่เกิน 5 นาทีนะคะ เท่าที่จำได้นะคะ เพราะว่าขอกันเยอะเหลือเกินในห้องนั้น ลุกซ์ก็บอกว่าพี่แก้มขอแก้วหน้าม้า พี่แก้มขอเอลซ่า เลยบอกลุกซ์ลองร้องให้หลานดูสิ (หัวเราะ) ไม่หรอก เรารู้สึกว่ามันก็เป็นโมเมนต์ที่เป็นความอบอุ่นค่ะ ในฐานะที่เราเป็นคนที่เห็นว่าพี่เขาเองก็เป็นคนใต้เหมือนเรา เราก็เห็นว่าเขาเติบโตมาแล้วเป็นแม่แล้ว เรารู้สึกดีใจแทนเขา”

ห่วงใบเตยมาม่าบลู ทุกอย่างต่อไปนี้เพื่อลูก
“ก็ทราบบ้าง แต่ไม่ถึงกับรู้รายละเอียด เพราะว่าด้วยความที่เราไปเยี่ยมเขา เราส่งกำลังใจ เราไม่ได้ไปถาม แต่เป็นห่วง เราก็ไม่รู้ เราไม่เคยมีโอกาสแบบนี้ เราเลยรู้สึกเป็นห่วงมากกว่าและส่งกำลังใจให้พี่มากกว่า วันที่ไปเจอรู้สึกได้เลยว่าพี่ใบเตยเขาพูดกับเราว่า ทุกอย่างต่อไปนี้เพื่อลูกหมดเลย เราได้รู้ทุกอย่างตั้งแต่วันนี้ที่เห็นเขาออกมา ทุกอย่างต่อไปนี้เพื่อเขา และเขาได้เรียนรู้การเป็นแม่จริงๆ เหมือนตอนที่แม่เขาต้องอุ้มเขาเป็นยังไง ซึ่งวันนั้นไม่เจอพี่แมน (พัฒนพล กุญชร) ค่ะ”