ตู่ ปิยวดี จับมือ มาวิน พิสูจน์รัก 10 ปี เผยแต่งปุ๊บอยากมีลูกเลย


ให้คะแนน


แชร์

ผู้จัดละครคนดัง ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ เปิดใจหลังแฟนหนุ่ม มาวิน ทวีผล ขอแต่งงาน เข้าใจคนจับตาเรื่องสินสอด แต่ไม่กดดันฝ่ายชาย ลั่นแพลนมีลูกทันที

เรียกว่าเป็นอีกคู่รักที่คบกันมายาวนานถึง 10 ปี สำหรับผู้จัดละครคนสวย ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ กับนักแสดงหนุ่ม วิน มาวิน ทวีผล โดยระหว่างที่คบกันทั้งคู่ต้องเจอกับกระแสสบประมาทต่างๆ นานา แต่ในที่สุดก็ฝ่าฟันกันมาจนถึงวันที่ใกล้จะแต่งงาน

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดผู้สื่อข่าว “ข่าวสดออนไลน์” ต่อสายตรงถึง ตู่ ปิยวดี มาลีนนท์ ว่าที่เจ้าสาวคนสวย สอบถามการเตรียมงานแต่งงานว่าคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว

ตอนนี้งานแต่งไปถึงไหนแล้ว?

“ยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ ถือว่าเป็นคนที่ใจเย็นมาก ตอนแรกคนเห็นลงรูปก็คิดว่าได้ชุดแล้ว จริงๆ อันนั้นเขาถ่ายไปนานแล้ว รุ่นน้องเปิดร้านชุดแต่งงาน เขาก็ให้ไปถ่ายให้ เราก็ไปถ่ายให้เขา แต่ชุดของเรายังไม่ได้ถึงไหนเลย อันดับแรกได้แค่วันมาก็ไปดูสถานที่ก่อนเลย ว่าจะได้ที่ไหน เพราะว่าวันของเรามันค่อนข้างกระชั้นชิดมาก”

“ตอนแรกไปดูฤกษ์กับพระ ท่านก็ถามว่าจะเอาปีนี้ หรือว่าเอาปีหน้า เรารู้สึกว่าเราพร้อมมากแล้ว นั้นก็เอาฤกษ์ที่ได้ในดวงของเรา และเอาเร็วที่สุด พระอาจารย์ให้มาเดือนธันวาคม แล้วก็ฉลองปีหน้า คือจัดเป็นงานในครอบครัว น่าจะแขกประมาณสัก 200-250 คน ปีนี้เราก็ไม่กล้าจัดงานใหญ่มาก แต่พอดีญาติเยอะ เราก็จัดที่ รร.โพธาลัย เลเชอร์ ปาร์ค ส่วนฉลองจัดที่ รร.แกรนด์ไฮแอทเอราวัณ เพราะจำนวนแขกด้วย”

เรื่องชุดเราดูไว้ที่ไหน?

“ตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะใช้แบรนด์ไทย ด้วยว่าบอดี้เราไม่ได้เป็นฝรั่ง ถ้าไปเอาแบรนด์นอกมา คือเขาชุดเขามาแก้ แต่ถ้าให้เขาทำใหม่ราคาจะเป็นหลักล้านไปเลย ใช้แบรนด์ไทยดีกว่า แล้วฝีมือคนไทยก็สวยมากนะ เดี๋ยวต้องตระเวนดูแบรนด์ไทยไปเรื่อยๆ ว่าแบรนด์ไหนเป็นทางเรา”

“ตู่จะละเอียดเรื่องชุดนิดหนึ่ง เพราะว่ามันเป็นอะไรที่คนสนใจ อยากให้ชุดมันเป็นเฉพาะสำหรับเราด้วย เราก็ต้องคุยว่าแบรนด์ไหนเขาทำอะไรให้เราได้บ้าง วางไว้ประมาณ 5-6 ชุด”

พิธีภายในมีขบวนขันหมากด้วยไหม?

“มีหมดค่ะ ขบวนขันหมาก ยกน้ำชา ที่บ้าเป็นไทยจีน ยังไงยกน้ำชาก็ต้องมี เราไม่ได้จัดจีนจ้า เพราะว่าพิธีมันละเอียด และยาวนาน อีกอย่างของจะเยอะมากหลายอย่าง คุยกับที่บ้านว่าเราเอาแบบกึ่งไทยจีนแล้วกัน แล้วก็มีรดน้ำสังข์”

ตื่นเต้นหรือยัง?

“ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้นเลย จะตื่นเต้นตรงที่ละครที่ทำกำลังจะออนมากกว่า ตอนนี้ยังเข้าห้องตัดเป็นหลัก เพราะเดี๋ยวนี้ละครช่อง 3 จาก 9 เบรกเหลือ 5 เบรก จริงๆ เราตัดไว้แล้ว เราก็ต้องรื้อมาตัดใหม่ คือหลังจากเรื่อง บัลลังก์ดอกไม้ ก็ไม่มีละครออกมาประมาณ 3 ปีแล้ว พอมาเรื่องนี้เลยค่อนข้างซีเรียสนิดนึง อยากให้มันออกมาดี เลยยังไม่มีเวลาตื่นเต้นกับงานแต่ง ทุกคนพูดเหมือนกันหมดว่าใจเย็นมาก”

ธีมงานคิดไว้หรือยัง?

“ที่เลือกโพธาลัย เพราะว่าอยากให้มันโปร่งๆ ดูอบอุ่น เพราะว่างานแค่ญาติและเพื่อนสนิทจริงๆ เราอยากได้ความร่มรื่น คาดหวังว่าธันวาคมอากาศจะเย็นลงนิดนึงมั้ย(หัวเราะ)”

มาวินล่ะ เตรียมตัวไปถึงไหนแล้ว?

“คนนั้นเขาก็ใจเย็นเหมือนกัน ตู่ไม่มีความรู้เรื่องสูทผู้ชาย ให้เขาไปดูเอง แต่เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเหมือนกัน พอกัน เขาถ่ายละคร 2 เรื่อง 7 วัน แล้วมันมีรีวิวทำบล็อกเกอร์อาหารอีก เลยยังไม่ได้แบ่งสมองมาคิดตรงนี้”

ถามความรู้สึก?

“ตอนนี้ยังไม่ตื่นเต้น แต่ถ้าถึงวันนั้นคงตื่นเต้น ถามว่าดีใจมั้ยที่ได้แต่งงาน ดีใจนะ ตู่ว่าผู้หญิงทุกคนก็คงดีใจที่ได้แต่งงาน แล้วประเด็นของตู่และวิน เราอยากมีลูก ก่อนที่จะมีลูกมันต้องผ่านการแต่งงานก่อน เราคบกันมา 10 ปี เรียนรู้และปรับอะไรกันมาเยอะมาก ในปีที่สามและปีที่เจ็ดที่ปรับกันเยอะ ตอนนี้เราอยู่กันเหมือนเพื่อนแล้ว มันไม่ต้องฝืนตัวเอง เรารู้สิ่งที่เขาชอบ เขารู้สิ่งที่เราชอบและไม่ชอบแล้ว มันเป็นเวลาที่ลงตัวแล้ว”

ถ้าแต่งแบบภายในแล้ว ปล่อยมีน้องเลยไหม?

“ขอผ่านเดือน ก.พ. ก่อน เพราะเพื่อนพร้อมสนุกมาก เลยขอรอไว้หลัง ก.พ.ดีกว่า แต่หลังก.พ.น่าจะปล่อยเลย เพราะว่าอายุเยอะแล้ว เดี๋ยวนี้ดูมีลูกยาก แล้วตู่ก็อายุเยอะ หลายคนก็ถามว่าฝากไข่หรือยัง คือที่บ้านไม่ได้มีความเชื่อเรื่องของการฝากไข่ด้วย ทางบ้านตู่จะเชื่อเรื่องทางหมอจีนมากกว่า ตอนนี้ตู่เริ่มหาหมอจีน กินยาจีน เพื่อเตรียมร่างกายไว้ให้พร้อมเริ่มกินเดือนนี้เดือนแรก”

ย้อนไปถึงวันที่เขาขอแต่งงาน?

“เรามีการคุยกันมาก่อนหน้านี้ ว่าคงถึงเวลาแล้ว เพราะว่าเราอยากมีลูก และตู่รู้สึกว่าผู้หญิงถ้าเลย 45ปี มันก็ไม่ควรแล้ว มันไม่ดีกับเด็ก และไม่ดีกับตัวเราด้วย และปีนี้ตู่ 42 แล้ว มันก็ต้องแล้ว คือแต่งเสร็จก็ใช่ว่าจะมีเลย คุยกับเขาว่าถ้าจะแต่งงานก็ต้องแต่งแล้วล่ะ ถ้าอยากมีลูกก็ต้องแต่งแล้ว แต่ไม่ได้เจาะจงว่าต้องปีนี้ วันนั้นก็งง แว้บแรกที่เห็นแหวนก็รู้สึกว่าฉันจะได้แต่งงานแล้วเหรอ

แต่ดูมาวินก็ตื่นเต้นกว่า?

“เขาเป็นคนที่อยากมีลูกมาก มากกว่าเราเยอะ คิดแล้วว่าถ้ามีจะเลี้ยงยังไง จริงๆ วินเขาเมื่อก่อนเขาไม่มีเลย บ้านเขาล้มละลายด้วย เขาก็คิดอยู่ตลอดว่าเขาจะมีปัญญามาขอเรามั้ย ตอนที่คบกันใหม่ๆ คนก็ชอบพูดว่าหนูตกข้าวสารบ้างล่ะ เป็นแมงดามาเกาะเราบ้างล่ะ โน่นนี่นั่น แต่เราก็นะ ด้วยประวัติสมัยก่อนของเขา อาจจะโชกโชนไปนิดนึง(หัวเราะ) ทำให้คนมองเขาไปทางนั้นหรือเปล่า”

เราก็ต่อสู้กันมา 10 ปี มาจนถึงวันนี้ วันที่เราประกาศว่าเราจะแต่งงาน มีคนมาแสดงความยินดีเยอะมาก หรือว่าถ้ามีใครมาเกรียนปุ๊บ เราไม่ต้องทำอะไรแฟนเพจจะเข้ามาอธิบายให้คนที่เกรียนคนนั้นเข้าใจเอง เรารู้สึกว่าจากที่คบกันแรกๆ คนส่วนใหญ่มองว่าเดี๋ยวก็เลิกกัน ไปไม่รอดหรอก หรือว่าด่าตู่ว่าโง่ ปัญญาอ่อน ตาต่ำบ้างล่ะ ตู่โดนสารพัด วันนี้มันเปลี่ยนจากตอนนั้นเยอะมาก”

มันพิสูจน์ให้เห็นว่าเราพร้อมที่จะเดินไปด้วยกัน?

“จากที่เห็นมา 10 ปี สิ่งที่ตู่รักในวินเลยคือ เขาไม่นิ่งเฉยกับความรู้สึกเรา เวลาที่เรารู้สึกไม่ชอบสิ่งนี้ โกรธเรื่องนี้ ผู้ชายบางคนอาจจะหันหลังให้เราไปเลย หรือว่าเรางี่เง่า แต่บางทีเขาก็คงรู้สึกว่าเรางี่เง่า(หัวเราะ) แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ตรงนี้ พยายามที่จะปรับเปลี่ยน”

เรื่องสินสอดคนก็จะจับตามองมาก?

อันนี้ที่บ้านไม่ได้เรียกร้องอะไรเลย แล้วแต่ทางเขาเลยค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้ตู่ก็ไม่ได้คุย มันเป็นเรื่องของผู้ชาย เราก็ไม่อยากกดดันเขา ตู่เข้าใจว่ายังไงคนก็ต้องจับจ้องว่าสินสอดอะไรยังไง เขาไม่ได้แบบว่าเกิดมาแล้วพ่อแม่มีมาให้ ทุกอย่างที่จะเห็นในวันนั้น สินสอดในวันนั้น คือมาจากเขาเองคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวกับที่บ้านเลย

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4780724
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_4780724