“หมู คมกฤช” สู้ชีวิต!! เปลี่ยนลิ้นหัวใจ จนซีกขวาอ่อนแรง

“หมู  คมกฤช” สู้ชีวิต!! เปลี่ยนลิ้นหัวใจ จนซีกขวาอ่อนแรง

          “น้าหมู” หรือ “คมกฤช ยุตติยงค์” อดีตนักแสดงวัย79 ในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

       หลังจากที่ล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ และต้องผ่าตัดลิ้นหัวใจเมื่อปีก่อน กระทั่งมีนักแสดงหลายคนให้ความช่วยเหลือ ล่าสุด “น้าหมู” หรือ “คมกฤช ยุตติยงค์” อาการทรุด ซีกขวาอ่อนแรง เหตุเพราะเส้นเลือดในสมองตีบ

       ดาราเดลี่ได้เข้าเยี่ยมสอบถามอาการ รวมถึงเรื่องราวชีวิตของนักสู้คนหนึ่งที่เคยเป็นโลโก้ของนักแสดงช่อง 3 แม้วันนี้เขาจะไม่สามารถเดินไปไหนเองได้แต่ก็ยังมีแรงใจสู้

สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จัก“น้าหมู คมกฤช ยุตติยงค์”?

       ผมเริ่มชีวิตการแสดงตั้งแต่ปี 2505 ไปทำงานกับ “อมรา อัศวนนท์” โดยการส่งรูปไปที่บ้านเขา ผมได้เล่นละครเลย แต่ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะ ไปถึงบ้านเขาแรกๆไม่เข้าใจ สมัยก่อนก็เล่นสด ที่ห้องส่ง บ่ายก็ซ้อม สองทุ่มก็แสดง แรกๆ ไม่มีใครสอน เขาบอกว่าเล่นไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนตัว เราก็นึกถึงชีวิตจริง คือก็พยายามฝึกจากชีวิตจริง ตอนหลังก็ไปทำงานกับ “พิศาล อัครเศรณี”

ผลงานที่สร้างชื่อ?

       ช่อง 3 สมัยก่อนมีละครเรื่อง “พระเจ้าตาก” ผมเล่นแค่สี่ตอน เป็นสุกี้นายกอง ผลงานละครออนแล้วเสร็จ ครูอิงอรนักแต่งเพลงสมัยนั้นก็บอกผมว่าหนังสือพิมพ์สยามรัฐเขียนถึงผม ว่าสามารถเล่นประกบ อดุลย์ ดุลยรัตน์ ได้ดี แล้วก็เรื่อง “วังไวกูรย์” ละครช่อง 3 สมัยก่อน พอเปิดกล้องเราก็อ่านบทจนจำแม่น จนมีคนทักว่าผมจำบทแม่น โดยไม่ตัดอะไรเลย อีกเรื่องคือ “กามนิต – วาสิฏฐี” ที่ “ศรัณยู วงศ์กระจ่าง” แสดงนำ ผมเล่นเป็นองคุลีมาล เรื่องนี้ทำให้คนไทยรู้จักผมมากขึ้นจริงๆ ครั้งหนึ่ง “คุณสมรักษ์ ณรงค์วิชัย” ท่านเป็นผู้บริหารรายการสมัยนั้น มาพูดกับผมว่าแรกๆ ไม่ได้ให้ผมเล่นนะ ตอนหลังเขาเปลี่ยนให้ผมเล่นเพราะชอบเสียงและตาของผม

ทำไมถึงหายจากวงการไปหลายปี?

       ผมไปทำงานเบื้องหลังกับ “สุพรรณ บุรณะพิมพ์”

แล้วก็ได้มาร่วมงานกับกันตนาใช่ไหม?

       ใช่ครับ หลายเรื่อง เยอะมาก ส่วนมากเป็นละครผี เราก็มีรายได้จากการแสดงมาตลอด จริงๆ ผมทำงานการรถไฟด้วยนะ ผมจับปลาสองมือ ทำงานการรถไฟ เงินเดือนไม่ขึ้นเลย ตอนหลังก็ลาออกมา

จุดเริ่มต้นอาการป่วย ?

       แรกๆ ผมมีอาการของเส้นเลือดในสมองตีบ สิบกว่าปีแล้ว แต่ร่างกายก็ไม่เป็นไร ผมไปหาหมอ ที่ รพ วิภาวดี ตอนหลังก็ตามไปให้หมอคนเดิมรักษา โดยไปหาหมอท่านนั้นที่ รพ. ทหารผ่านศึก มีครั้งหนึ่ง หมอโรคหัวใจมาเจอผม ก็ทักว่าจะตรวจให้ผม เขาบอกว่าต้องบอลลูน พบว่ามีเส้นเลือดหัวใจตีบ การรักษาถ้าพลาดก็ตายได้ ก็รักษามา 4-5 ปี แล้ว

สองปีก่อน วิกฤติชีวิตช่วงผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ เป็นอย่างไร ?

       อาการคือมันหายใจไม่ออก น้ำท่วมปอด คือไม่ไหวต้องไปหาหมอ ต้องไปรักษาที่ รพ .ราชวิถี ผมต้องเช็คร่างกายหลายเดือน อาจารย์หมอ บอก ลิ้นหัวใจของผมไปหมดแล้ว ดูไม่ได้เลย ต้องบายพาสอย่างเดียว มันต้องเปลี่ยนลิ้นหัวใจ หมอบอกว่าหัวใจผมพร้อมที่จะวายทันที พอทำไปเส้นหนึ่ง ตอนนั้นเอ็กแซ็กท์จะเปิดละครอีก10 กว่าวัน ก็ไปผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ พอไปผ่าเสร็จ ไม่รู้ตัวไง เป็นผ่าตัดใหญ่ ช็อกไปหลายที รอดมาได้ถือว่าเป็นบุญของผมแล้ว

       ช่วงที่ไปผ่านี้น่าจะเมษายนปี 62 พอเสร็จ เดินไม่ได้เลย ฝืนเดินก็ไม่ไหว ช่วงนั้นหยุดละครไปเลย ที่เป็นข่าวว่า “ป๋อ ณัฐวุฒิ” มาช่วย ผมไม่รู้เรื่องเลย ภรรยาผมไปลงเฟสบุ๊ค ผมจะตายอยู่แล้ว อาการไม่ดี ผมนอน รพ.นานกว่า 5 เดือน นานมาก คือร่างกายพักฟื้นนาน แต่หมอบอกให้กลับนะ แต่ผมเดินไม่ได้ ต้องดูดเสมหะ ประจำ ตอนหลังต้องเจาะคอ พูดไม่ได้อีก ฟังรู้เรื่องแต่ตอบไม่ได้ ต้องเขียนหนังสือสื่อสารกัน

ชีวิตใน รพ. หนักขนาดไหน ?

       นอนบนเตียง 5 เดือน เวลาเรา ปัสสาวะ ต้องเรียกพยาบาล พอท้องผูก พยาบาลนี่เขาทั้งล้วงทั้งควัก นี่นึกในใจนะ ถ้าผมมีลูกจะไม่ให้ทำงานแบบนี้เด็ดขาด กว่าจะออก รพ .ได้ ลำบากมากๆ พยาบาลที่ รพ. ราชวิถี เก่งมากๆ ตอนนั้น ใช้บัตรทอง คือทำบอลลูนหัวใจ เปลี่ยนลิ้นหัวใจ แล้วก็มีอาการฉี่ไม่ออก ส่วนผ่าหัวใจยังมีรอยที่หน้าอก ผ่าซีกเลย มีรอยจนทุกวันนี้ แล้วยังมีน้ำท่วมปอดเข้ามาแทรกอีกด้วย

ไม่สามารถกลับมาเล่นละครอีก?

       ใช่ครับไม่ได้เล่นมาหลายปีแล้ว เราก็ยังอยากเล่น เราก็ต้องยอม อยู่บ้านไป มีละครติดต่อมาบ้าง ผมก็ไม่ได้โทรหาใครเลยเพราะเดินไม่ได้

ทราบข่าวว่า เดินไม่ได้?

       มันเหนื่อยครับ ผมเดินไปครึ่งซอยต้องหยุดเดิน เพราะ ซีกขวาอ่อนแรง พอเดินไปก็ต้องเดินกลับ พอไปถึงจุดก็ล้ม ไม่มีแรง เขาต้องเอาเก้าอี้มาให้นั่ง เราก็เอ๊ะ เป็นอะไร ผมก็ยังไม่ได้ไปหาหมอ ยังมีอีกนะ ตอนหายใจไม่ออก ก็ไปหาหมอฉุกเฉิน หมอมาดูก็อาการไม่มีอะไร หมอหัวใจก็ยังนัดอยู่ อาการของเราคือช้าลง เสื่อมไปตามวัย ก็เกือบอัมพฤกษ์

อยากฝากถึงคนที่ในวงการ ที่รู้จักกัน?

       ทางผู้จัดละครครับ ผมยังพักฟื้น ผมก็อยากเล่นละคร แต่ร่างกายไม่ไหว ผมไปเจอ “ป้าแจ๋ว ยุทธนา” เขาน่ารัก เคยไปร่วมงานกับเขาเรื่องหนึ่งที่ “เจมส์ จิ” เป็นดารานำ ป้าแจ๋วดี เจอผมก็บอกว่ามีอะไรจะให้เด็กโทรไปหา

อยากบอกถึงใครอย่างไรไหมที่เขาเคยช่วยเหลือ?

       ตอนที่ผมป่วย มีเพื่อนในวงการช่วยผมหลายคน มี “ชาคริต แย้มนาม” นึกไม่ถึงว่าเขาจะดีกับผมอย่างนี้ ผมเคยเล่นละครกับเขาเรื่องแรกๆ ตอนนั้นก็เห็นว่าเขามีแวว อีกคนก็คือ “ป๋อ ณัฐวุฒิ” แล้วก็ “ป้าแจ๋ว ยุทธนา” ก็ดีกับผมมากๆ อีกหลายคนที่อยากเอ่ยถึง “ตึ๋ง วีระปรวัติ”  “คุณบอย ถกลเกียรติ” “คุณป้อน นิพนธ์ ผิวเณร . มีบุญคุณกับผมมากๆ ผมไม่เคยลืม

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.daradaily.com/news/93334/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/93334/read