เพลย์บอยแค่อดีต "ชาคริต" ยอมรับตั้งแต่มี "ลูก" ไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตเปลี่ยนไป


ให้คะแนน


แชร์

“ใช่ๆ เรื่องนี้จะสอนให้เข้าใจคำว่าเพลย์บอยมากกว่า จริงๆเพลย์บอยไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ เอาเปรียบผู้หญิง มันจะมีบทสรุปตอนท้ายว่าความเป็นเพลย์บอยอย่างเป็นต่อคืออะไร มันกลับเข้าไปสู่เป็นต่อในทีวี ที่ผ่านมา 16 ปี คนเข้าใจแล้วว่าไม่ใช่ผู้ชายที่คิดอยากจะอยู่คนเดียวไปตลอดคือมันแค่อยากหาใครสักคนแต่ยังไม่เจอเท่านั้นเอง ทิพย์ (กิ๊ก มยุริญ) ก็ไม่ยอมกลับมาคืนดี”

ตอนนี้ร่วมงานกับเด็กใหม่ๆด้วย

“ดีครับ ทั้งน้องมาร์ช น้องนิ้ง น้องเฟย น่ารักมาก คือเค้าตั้งใจทำงานมาก ต้องจูนเข้าหากัน ทุกอย่างไม่ได้ยาก ง่าย ตอนนี้ถ่ายจบ ปิดกล้องเรียบร้อยทั้งหมด 8 ตอน ดูในไลน์ทีวีที่เดียวเลยเป็นออริจินอล แค่ 8 ตอนเท่านั้น”

ร่วมงานกับสาวๆแก๊งบันนี่ แอน ภรรยามีอาการหึงแอบหวงอะไรยังไงบ้างมั้ย

“ไม่ว่านะ เค้าอยากมาดู ก็มา 2 ครั้งและพาตัวเล็กมาวิ่งเล่นด้วย โอเค ไม่มีอะไร สบายใจเพราะเค้าก็รู้อยู่แล้วว่าเราทำงาน แอนเค้า อยากมาดูว่าบันนี่เป็นยังไง เซ็กซี่ขนาดไหน ผู้หญิงนี่ประหลาดนะชอบดูผู้หญิงเนอะ ใช่ปะ ผู้หญิงชอบดูผู้หญิงด้วยกัน”

ตอนแรกรู้สึกยังไงแอนขอตามมากองด้วย

“เราชวนมา เค้าเป็นคนไม่ค่อยไปยุ่งอะไรที่กองถ่าย เราชอบมาเค้าก็ดีใจ เค้าคิดถึงเรา ตัวเล็กคิดถึงเราด้วยแหละก็พาตัวเล็กมาวิ่งเล่นในกอง ชวนเค้ามา เค้าเห็นเราทำงาน ยิ่งคบกันปีนี้เข้าปีที่ 4 แล้ว ทุกอย่างไปได้ดี สบายใจ”

แอนได้ถ่ายรูปกับบันนี่มั้ย

“ไม่ๆแอนส่งตัวเล็กไปถ่ายรูปด้วย ให้โพธิ์ถ่ายกับสาวๆบันนี่ น้องโพธิ์เห็นสาวๆไม่ได้จะเขิน คนไหนสวยก็ชี้ๆไป สวยหมดๆ”

ไม่ค่อยพาน้องโพธิ์มากองถ่ายเพราะอะไร

“คนมันเยอะ วุ่นวายและช่วงนี้ด้วยเราก็ต้องโพรเทกต์ลูก ดีสุดเราอยู่กองล้างมือไม่รู้กี่ร้อยรอบ ต้องดูแล และเตรียมตัวเดี๋ยวเค้าจะต้องเข้าเรียนแล้วด้วย ให้เค้าพักผ่อนอยู่บ้านให้มากที่สุด ให้อยู่บ้าน อยู่กับสวน อยู่กับธรรมชาติ ก็พาไปข้างนอกตลอดอยู่แล้ว ไปในระยะเวลาสั้นๆ ไม่ได้ให้ไปคลุกคลีข้างนอกที่ไม่จำเป็นมากเกินไป อย่างสวนเด็กเล่นที่กระโดดเราอยากพาไปแต่ตอนนี้ไว้ก่อนแล้วกัน ยกเว้นพื้นที่ปิดที่จัดเป็นไพรเวทปาร์ตี้ได้ อย่างนั้นโอเค ถ้าเปิดตลอดทั้งวันรอดูอีกนิด เจอสถานการณ์แบบนี้คอยระมัดระวังเราจะประมาทไม่ได้”

กลายเป็นคนระวังไปเลยหรือเปล่า

“ช่วงที่ถ่ายเป็นต่อ ก่อนสถานการณ์โควิด เราไม่รู้ใครเป็นใครยังไม่สนิทกัน ร้อยพ่อพันแม่ ถ่ายอยู่ในสตูฯเป็นต่ออีกฟีลนึง แล้วเราไม่ได้ถ่ายอันนี้ อันเดียวถ่ายอันอื่นด้วย กลับไปบ้านมองหน้าลูก เราไม่รู้โรคนี้คืออะไรเพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ คนที่เสี่ยงที่สุดคือเราที่จะเอามันกลับมาที่บ้านได้ มันก็นอยด์ตั้งแต่ตอนนั้น ผมว่าทุกคนแหละ ทำความรู้จักเชื้อโรคไปเรื่อยๆ จนตอนนี้เข้าใจมันแต่ก็กลัว ยังไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ไว้วางใจได้ คุณหมอบ้านเราเก่งจริงๆ ช่วยได้เยอะ ทำให้เราฟื้นฟูกลับมาได้เร็ว เมื่อก่อนเป็นอะไรก็เป็นเพราะตัวคนเดียวแต่ตอนนี้ไม่ได้ มีเมีย มีลูก ไม่ได้ เมื่อก่อนไม่ค่อยนึกถึงตัวเองจะเป็นอะไรก็เป็น ใช้ชีวิตสบายๆ แต่ตอนนี้ไม่ได้ เปลี่ยนหมดเลย ถ้าเราเป็นอะไรไปเค้าอยู่ไม่ได้ เราไม่อยากให้ครอบครัวไม่ครบ”

เพราะมีน้องโพธิ์ทำให้คริตเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนการใช้ชีวิต

“ใช่ เปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิต และโตขึ้น เมื่อก่อนเราทำงานคนเดียว ได้คนเดียว ไม่ต้องแบ่งกับใคร เราใช้ชีวิตของเราไปไม่ได้เดือดร้อนใคร ตอนนี้ เรามองเรื่องความมั่นคงของครอบครัวนอกจากตรงนี้ต้องมีธุรกิจตัวอื่น จะต้องมีความมั่นคงที่วันนึงเราไม่มีแรงเล่นละคร หรือวันนึงเราไม่อยู่แล้ว คือเค้าต้องมีอย่างอื่นที่ไปต่อได้ พึ่งตรงนี้อย่างเดียวไม่ได้ แต่ตรงนี้เป็นงานที่ผมรักแต่ถ้าเกิดลูกไม่ชอบ ผมเป็นอะไรไป ลูกมาเล่นแทนผมไม่ได้ นึกออกมั้ย งานนี้เรียกว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตน มันต้องมองอย่างอื่นที่เราคิดเอาไว้ทำวันข้างหน้า เราไม่ได้คิดว่าจะมาทำวันนี้ สุดท้ายได้มาทำก็เป็นสิ่งที่ดีสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร สวน แบรนด์เขยจันท์ ธุรกิจส่งออกที่ทำอยู่ ที่ทำๆ เป็นสิ่งที่แม่สอนไว้ผมก็ทำหมด ตอนที่แม่อยู่รู้นะอะไรยังไงแต่ไม่ทำ ยังไม่จำเป็นเพราะแม่ยังอยู่ พอแม่ล้มป่วยก็เริ่มเห็นสัจธรรม สิ่งที่แม่พูดเป็นอุทาหรณ์ โชคดีที่แม่สอนไว้ วิชาที่ให้ไว้ก็ยังอยู่ ถึงแม้เราไม่ได้ทำแต่เราก็ฟังไม่สนใจ ซึ่งตัวเราเองก็เซอร์ไพรส์คิดว่าตัวเราไม่ได้สนใจ ขนาดเค้าป่วยยังสอนเราได้เลย แม่ทำให้เราโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น”

ไปๆมาๆกลายเป็นว่าทำงานหนักขึ้นนะเนี่ย

“ก็ทำแต่จริงๆผมเป็นมนุษย์โปรเจกต์มากกว่า ผมจะคิดขึ้นมากับแอน พอเริ่มเดินผมก็โยนให้แอนทำ แล้วผมก็กลับมาอยู่ตรงนี้ (งานวงการบันเทิง) ของผมเหมือนเดิม (หัวเราะ) ตัวผมไม่เอาอะไรอยู่แล้วนึกออกเปล่า เราทำให้เค้า ตัวเราก็อยู่ตรงนี้แล้วมีความสุขกับศิลปะตรงนี้ แอนก็สนุกกับตรงนั้นเพราะเป็นโปรเจกต์ที่เราคิดขึ้นมาร่วมขึ้นแบ่งพาร์ตกันไป ถึงบ้านเราก็มาประชุมกันทำยังไงต่อ ตื่นเช้ามาเค้ารู้แล้วว่าเค้าจะต้องไปปฏิบัติการอะไร ผมก็กลับมาเล่นละคร มาเป็นขุนช้างต่อ (หัวเราะ)”

แอนมีบ่นมั้ยกับความเจ้าโปรเจกต์ของเราเพราะแอนไหนจะต้องดูแลลูกด้วย

“อืม ไม่นะ เราพูดตลอดเราทำแค่นี้ก่อน เพราะพอเริ่มทำสวนอย่างจริงจังต้องมีเวลาเดินทางไปสวนด้วย ส่วนอื่นๆก็เดินของมันได้ดีอยู่ แล้วค่อยดูกันไป มีขึ้นลงบ้างเป็นเรื่องของธุรกิจตอนนี้เราอยากทำสวนเพราะวันนึงเราคิดไว้มันจะเป็นที่พัก เป็นรีสอร์ต แบบง่ายๆให้อยู่กับธรรมชาติให้มันสำเร็จก็ไปโฟกัสตรงนั้น อีกแค่ 4 ปีข้างหน้าก็จะกลายเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนแล้วแถมเป็นบ้านเป็นศูนย์รวมของญาติๆของเพื่อนฝูง เราแค่บำรุงต้นให้ดีที่สุด เรากลับสู่สามัญสบายใจ”

น้องโพธิ์เข้าโรงเรียนแล้วคริตรู้สึกยังไงบ้าง

“ใจหายอยู่ วันที่ไปทดลองเรียน เดินเข้าโรงเรียนก็ไม่สนใจพ่อแม่ ไม่มองกลับมาเลย (หัวเราะ) อยู่เป็นมาก และทุกวันนี้ก็บอกว่าหนูจะไปโรงเรียน เตรียมพร้อมมาก ก็ให้เรียนโรงเรียนอินเตอร์แต่เน้นให้สอนภาษาไทยอาทิตย์ละ 5 คาบ ไม่ให้ภาษาเค้าหาย อย่างน้อยดีกว่า เราเน้นให้อยู่กับญาติพี่น้องก็พูดภาษาไทยไป ผมพูดภาษาอังกฤษกับเค้าเค้าก็เข้าใจหมดแหละแต่พอไปโรงเรียนสักพักจะไม่พูดภาษาไทยแต่เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น พอคุยกับโรงเรียนนี้ดีนะให้เรียนภาษาไทย 5 คาบ/สัปดาห์ ซึ่งเป็นอินเตอร์แท้ๆ ไม่ใช่โรงเรียนสองภาษาเค้าใส่ใจเรื่องขนบธรรมเนียม”

เห็นว่าคริตอยากมีลูกคนที่สองแล้ว

“ใช่ๆ ตอนนี้ก็พยายามอยู่ก็ให้ แอนไปเช็กเรื่องมะเร็งปากมดลูก เช็กสุขภาพแข็งแรงมาก พร้อมมาก ก็อยู่ที่จังหวะว่าจะส่งมาให้เมื่อไหร่ แต่ถ้ายังไม่มาอีกค่อยไปพบคุณหมอ”

น้องโพธิ์มีพูดมั้ยอยากมีน้อง

“ก็ถามอยู่เหมือนกัน เค้าบอกว่าไม่เอาน้อง แต่พอไปเล่นกับลูกคนอื่นก็น้องๆๆๆ แต่พอถามจะเอาน้องมั้ยบอกไม่เอา แต่หลังๆถามจะเอาน้องผู้หญิงหรือผู้ชายเค้าก็จะบอกเอาน้องผู้หญิง”

ความหวานของสามีภรรยาล่ะเป็นยังไงบ้าง

“ผมว่าเป็นการเดินก้าวไปด้วยกันนะ สำหรับผมไม่มีใครนำใครเพราะว่าในหลายๆ ครั้งแอนเป็นคนเตือนสติ หลายๆอย่างแอนเป็นคนแนะนำสิ่งดีๆ หรือแนวทางดีๆ กับธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่ เปิดรับฟังดีกว่า ผมว่าเปิดรับฟังซึ่งกันและกัน ความเข้าใจก็จะเกิด แต่ถ้าเกิดเรามาให้เค้าเข้าใจเราฝ่ายเดียวจะไม่มีวันเข้าใจเค้าเพราะเราไม่เคยเปิดรับฟังเค้าเลย รับฟังเป็นเพื่อนคู่คิด อยู่ด้วยกันด้วยความสบายใจ ไปไหนไปกัน”

คิดว่าเค้าจะลุยขนาดนี้มั้ย

“ไม่คิดเค้าจะเป็นคนลุยขนาดนี้แต่ตัวจริงเป็นคนลุยสุดๆ ไปไหนไปด้วย กลับกันถ้าผมเป็นผู้หญิงก็คงได้ไม่เท่าเค้า บู๊ก็ได้ หวานก็ได้ เราเองเราบ้าพลังเป็นผู้ชายมีพละกำลัง แต่แอนทำได้ทุกอย่าง เซอร์ไพรส์ก็หลายอย่างจนเรา เอาแล้วปีนี้จะทำอะไรให้เค้าดีนะ เค้าไม่เคยรอให้เราทำแต่เค้าทำให้เราตลอด เราไม่เคยทำเซอร์ไพรส์เค้าเลย วันเกิดก็ไม่ทำงาน แต่วันเกิดเค้าเราก็จะมีของขวัญอะไรให้เล็กน้อย แต่ของเรา วันเกิดเค้าให้แพ็กเกจตรวจสุขภาพใหญ่ ไม่เคยมีให้ของขวัญวันเกิดแบบนี้ (หัวเราะ) รู้สึกดีมาก แปลกดี เป็นสิริมงคลดี ให้ดูแลสุขภาพ (ยิ้ม)”.

ทีมข่าวบันเทิง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1920021
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1920021