ป๊อก ร้องไห้โดนดูถูกมีดีแค่รวย ยอมรับเป็นแกะดำของตระกูลจิราธิวัฒน์ (คลิป)


ให้คะแนน


แชร์

เพราะเป็นทายาทของตระกูล จิราธิวัฒน์ จึงทำให้ ป๊อก ภัสสรกรณ์ จิราธิวัฒน์ หรือ ป๊อก เซ็นทรัล ทางยาทตระกูลมหาเศรษฐีแสนล้านอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่ต้องแบกรับความกดดันและคำดูถูกจากคนรอบข้างไม่น้อยว่ามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักได้เพราะความรวยของตระกูลไม่ใช่เพราะความสามารถ ซึ่งหนุ่มป๊อก ได้ออกมาเปิดใจใน Mindset Documentary EP.ZERO ถึงความรู้สึกที่คนภายนอกมองและมอบให้ว่า 

“ตั้งแต่เกิดมาก็น่าจะเข้าใจกันดี ผมเกิดมาในครอบครัวคนจีน คุณปู่มาเรือมาอยู่เมืองไทยก็สร้างรากฐานกับภรรยา ก็มีลูกๆ คุณปู่ มีพ่อผม มีคุณลุง คุณอา มาช่วยกันทำงานขึ้นมา

ตั้งแต่เกิดเราก็รู้อยู่แล้วว่าสุดท้ายเราก็ต้องทำงานกับพวกเขา ทำงานให้กับครอบครัว เราไม่น่าจะมีทางเลือกอื่นหรืออะไรเลย เพราะสุดท้ายก็ต้องทำงานให้กับที่บ้านอยู่ดี

พ่อน่าจะรู้แค่ว่าชอบฟังเพลง แต่ไม่รู้ว่าทำเพลง ด้วยความที่คุณพ่อเป็นคนที่ทำงานเยอะมาก และไม่ค่อยมีเวลาให้กับผมหรอก และคุณพ่อเองอาจจะไม่ได้รู้เรื่องลึกๆ ถึงสิ่งที่ผมชอบ หรือสิ่งที่ผมทำมากสักเท่าไร ผมไม่อยากเป็นคนลืมบุญคุณคนนะ ผมมีวันนี้ได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่และตระกูลของผม

แกะดำคนแรก คือผมเอง พอเริ่มอินกับดนตรี และศิลปินที่ชอบเขาทำ ก็รู้สึกว่าเท่มีรอยสัก หลังจากที่เริ่มสนใจเพลงก็เริ่มทำบีทด้วยกันกับเพื่อน เพื่อนก็มาแร็ป ทำไปทำมาจนรู้สึกว่าสนุก และเกิดความอยากจะแร็ปเอง”

คนมองว่าที่มีทุกอย่างในวันนี้เพราะเป็น ป๊อก เซ็นทรัล?
“ผมไม่ได้ว่านะที่คนอื่นจะคิดจะมองผมเป็นยังไง ไม่ผิดที่จะคิดในรูปแบบอื่นๆ แต่หลายๆ คนก็ไม่เคยเห็นหรือรู้หรอกว่าชีวิตผมต้องเจออะไรบ้าง มีปัญหายังไงบ้าง แต่ละคน แต่ละเส้นทาง มันมีปัญหาหมด

ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะอิจฉาชีวิตผมที่มีนั่นมีนี่ แต่ถ้ามองกลับกันผมก็อยากอิจฉาอยากจะมีชีวิตเหมือนพวกคุณบ้าง”

คุณพ่อสุรเกียรติ จิราธิวัฒน์ ก็ได้เปิดใจพูดถึงลูกชายคนเล็กของตัวเองว่า “ป๊อกก็เหมือนเด็กทั่วๆ ไป เหมือนลูกๆ ผมทั่วๆ ไป ถ้าเปรียบเทียบเขาก็เกเรมากกว่าคนอื่น ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ของคนอื่นประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ของป๊อกก็ประมาณ 70-75 เปอร์เซ็นต์

ผมเป็นคนที่แนะนำ ซื้อกีตาร์ให้เขาเล่น แต่ไม่หวังว่าเขาจะไปร้องเพลงจริงจังอย่างนี้ ผมวางแผนว่าเขาจะมาช่วยเรื่องโรงแรม หรือทำหนังสือพิมพ์แบรนด์บางกอกโพสต์ ก็คุยกับเขาทุกคืน

โดยหลักการของแฟมิลี่ทุกคนต้องมาช่วยแฟมิลี่ทำงาน จะทำงานโรงแรมก็ได้ ดีพาร์ตเมนต์สโตร์ก็ได้ แต่ต้องเป็นของแฟมิลี่ และป๊อกเป็นคนที่ชอบเก็บเรื่องไม่ได้เล่าบางอย่างให้พ่อฟัง”

ในขณะที่ป๊อกกำลังตามหาฝันของตัวเอง แต่ก็ทำลายความฝันของคนหนึ่งอยู่?
คุณพ่อสุรเกียรติ : “ขอให้ความฝันที่ป๊อกคิดไว้ ขอให้เป็นจริงดั่งที่เขาหวังไว้ แต่อย่างน้อยที่สุด พ่อก็หวังเหมือนกันว่า ป๊อกก็คงจะไม่ทิ้งคุณพ่อไป ก็เข้ามาช่วยงานของคุณพ่อด้วย อันนี้ไม่ได้หวังอย่างเดียวนะ ฝันด้วย หวังว่าความฝันของคุณพ่อจะเป็นจริงนะ เป็นจริงทั้งสองคน”

ป๊อก : “เราก็ไม่เคยนึกในมุมของเขาบ้างนะ ฟังแล้วก็สะอึกเหมือนกัน ผมรู้สึกดีมากนะที่ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้สนับสนุนมุมมองของผม ผลักดัน ส่งเสริม แต่อีกทางหนึ่งผมก็ดีใจมาก ที่พ่อผมไม่เคยขวางผมเลย ไม่ใช่ว่าผมไม่เห็น ผมเห็นและขอบคุณมาตลอด

ผมยังเคยคิดเลยว่า ถ้าเราไม่มีกันแล้วเราจะอยู่ยังไง ผมเคยคิดนะ เพราะชีวิตนี้ผมอยู่กับเขามาตลอด จนไปเมืองนอก ผมมีวันนี้ได้เพราะเขาจริงๆ ตอนนี้ผมก็ทำเต็มที่ในสิ่งที่เราเลือกที่จะทำ เราเลือกแล้ว มาไกลเกินกว่าจะหยุด

ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าจะมีวันนี้ จากทำเพลงในห้องนอน เปิดคอนเสิร์ตในห้องนอน มีคนดูคนเดียวคือพี่เลี้ยง จนวันนี้มีโอกาสร้องเพลงต่อหน้าคนเป็นหมื่นๆ ผมไม่เคยคิด แต่มันเป็นสิ่งที่ผมสุขสุดๆ เลย”

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1928067
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1928067