ที่มา “จักรวาลนครสวรรค์” กับช่อง 3

ย้อนกับไป 2552 “จุฬามณี” เจ้าของบทประพันธ์มือทองได้ทำให้ “ชิงชัง” เรื่องราวของ 4 สาวสวยแห่งท่าน้ำอ้อย อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เข้ามาอยู่ในใจของคอละคร หลังเอ็กแซ็กท์นำนิยายเรื่องนี้มาสร้างเป็นละคร และออนแอร์ทางช่อง 5

ความสำเร็จในตอนนั้นทำให้ผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ติดต่อมาทาง จุฬามณี อยากได้นิยายแนวเดียวกับชิงชัง นั่นจึงเป็นที่มาของ “สุดแค้นแสนรัก” เรื่องราวของ “แม่แย้ม” แห่ง หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์

จากโจทย์ที่ได้จากช่อง 3 จุฬามณี สกัดความสำเร็จของ ชิงชัง ที่เดินเรื่องด้วยพ่อ ตลบกลับมาเดินเรื่องด้วยความรักของแม่ จนในที่สุด 3 แม่ก็ถือกำเนิดความเปรี้ยงปร้างให้ช่อง 3!!

ทิ้งระยะ 4 ปี 2562 กรงกรรม เรื่องราวของ “แม่ย้อย” เถ้าแก่เนี้ย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ แม่ที่รักลูกชายทั้ง 4 คนจนยอมทำทุกอย่างแม้จะร้ายเพียงใด ถูกช่อง 3 จับมาสร้างเป็นละครถือเป็นเรื่องที่สองของจักรวาลนครสวรรค์ของวิกพระรามสี่ โดยได้ แอคอาร์ต ค่ายของผู้กำกับยอดฝีมือ “อ๊อฟ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง”

ทุกอย่างของ กรงกรรม ทั้งโปรดักชั่น บทละคร การกำกับ การแสดงของนักแสดงโดยเฉพาะ “ใหม่ เจริญปุระ” สร้างกระแสและเรตติ้ง อย่างไม่มีใครปฏิเสธได้ การันตีนอกจากกระแสและเรตต้ิง ยังได้ฟาดรางวัลจากทุกเวทีไปอย่างรัวๆ เป็นการพิสูจน์ว่าของจริง โดยเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องได้อยู่ที่ 6.24

ช่อง 3 ไม่รอช้าต้นปี 2563 ส่ง ทุ่งเสน่หา ออกมาต่อทันที ได้การแสดงของ หน่อย บุษกร ในบท แม่สำเภา แม่ผู้คิดว่าตัวเองวางแผนทุกอย่างมาอย่างดีที่สุดเพื่อลูกชายทั้งสอง กีดกันความรักของลูกชายคนเล็กจนเป็นเรื่องราวดราม่าสะเทือนใจ บ้านหนองน้ำผึ้ง อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์

แม้กระแสของ ทุ่งเสน่หา อาจจะไม่เท่าสองเรื่องแรกของจักรวาลนครสวรรค์ แต่ตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 5.709 ก็เป็นเรตต้ิงที่ดีที่สุดของละครใหม่ช่อง 3 ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 และสิ่งที่ต้องชื่นชมคือการแสดงของ หน่อย บุษกร ที่กลับคืนจออีกครั้ง รับบท แม่สำเภา ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งน้ำเสียงและลีลามันเรียลมันรู้สึกถึงความเป็นชาวบ้านได้อย่างยอดเยี่ยม

หากพิจารณาปัจจัยที่ทั้ง สุดแค้นแสนรัก กรงกรรม และทุ่งเสน่หา ประสบความสำเร็จ คงต้องบอกว่า 3 เรื่องของ จักรวาลนครสวรรค์ มันคือความเรียล ความจริงของชีวิตชาวบ้านที่เห็นได้อย่างทั่วไป เสน่ห์อีกอย่างคือการได้เห็นบรรยากาศเก่าๆ ของต่างจังหวัดที่คนไทยเติบโตกันมา และทุกตัวละครไม่ได้โลกสวย มีความเทา ดำเนินเรื่องโดยแก่นของ “แม่” ซึ่งทั้ง รัดเกล้า, ใหม่ เจริญปุระ และหน่อย บุษกร ตีแตกได้อย่างยอดเยี่ยม น่าประทับใจ

เปิดเรตติ้ง วาสนารัก เรตติ้งแผ่วน่าใจหาย

วาสนารัก คือ จักรวาลนครสวรรค์เรื่องที่ 3 ของช่อง 3 ซึ่งถูกจับตาว่าจะสร้างความประทับใจและเรตติ้งได้อีกครั้ง แต่ผ่านไป 8 ตอนกลับดูแผ่วเบาเหลือเกิน

เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนละครในโลกโซเชียลก็ดูจะไม่ประทับใจ โดยเฉพาะการปรับบทประพันธ์ให้น้ำเน่าเกินไป บทพรรณษาที่ในนิยายดูมีเหตุมีผลกว่านี้กลับกลายเป็นนางร้ายบทแบนๆ “วาสนารัก” ไม่มีตัวละครที่เป็นแก่นของเรื่องที่จะยืดโยงให้ผู้ชมอยากติดตามหรือเอาใจช่วย เหมือนที่คนทั้งรักทั้งเกลียด แย้ม ย้อย สำเภา

จนเกิดการตั้งคำถามว่าทำไมละครไม่ตีความตามบทประพันธ์? เกิดเสียงเสียดาย วาสนารัก กันมากมาย ทำไมจากนิยายที่เน้นความรักความผูกพันของตัวละคร กลับต้องมานั่งดูเด็ก ม.ต้น ชิงรักหักสวาทใส่กันอย่างไม่มีชั้นเชิง

กระแสที่ออกมาก็สอดคล้องกับเรตติ้ง โดย EP แรกได้เรตติ้งไป 2.1, EP.2=1.9, EP.3=2.0, EP.4=1.9, EP.5=1.7 (ขณะที่เขียน EP.6-EP.8 ยังไม่ออก) ซึ่งต้องบอกว่าเรตติ้งที่ออกมาน่าใจหาย กับละครที่มาจากจุดขายที่แข็งโป๊กของช่อง 3 อย่าง “จักรวาลนครสวรรค์” แต่ได้เรตต้ิงเฉลี่ยอยู่ที่ 1 กว่า ช่างเป็นอะไรที่น่าเสียดายแทนช่อง 3 เหลือเกิน

กางโผดูนิยายเรื่องต่อมาในจักรวาลนครสวรรค์ ทั้ง “ระบำบุญ” เรื่องราวของมาลาจากกรงกรรมและลูกสาว “บุษบาตาคลี” กับชีวิตของ ประณต ลูกชายคนเล็กของ เรณู กรงกรรม และยังมี “ฉันทนาท่าตะโก” ที่มีตัวละครจากกรงกรรมเข้ามามีส่วนเช่นกัน ทุกเรื่องล้วนน่าติดตามทั้งนั้น

แต่เมื่อถึงเวลานำมาสร้างเป็นละคร บทโทรทัศน์ก็ยังเป็นเรื่องสำคัญ อย่าประมาทว่าชื่อชั้นของประพันธ์จะแข็งโป๊ก มีฐานแฟนมากมาย เพราะหากบทโทรทัศน์เอาไม่อยู่ เรตติ้งที่ว่ามาแน่ๆ ก็อาจเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาที่ตกในได้เช่นกัน.

เขียน : ดินสอเขียนฟ้า

กราฟิก : Jutaphun Sooksamphun