หลังจากที่ “แม่ต่าย” แม่ของสาว “แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์” ไปออกรายการโหนกระแส แล้วยืนยันในรายการว่าจะชำระหนี้เป็นเวลา 3 เดือน และพร้อมทำเอกสารสัญญาผ่อนชำระ แต่เมื่อติดต่อไปยังเจ้าหนี้ “ป่าน” ถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ป่านเผยว่า นัดแม่ต่ายเคลียร์เงินก้อนแรกวันนี้ (14 ก.ย.) แต่สุดท้ายอีกฝ่ายไม่ติดต่อกลับมาเลย

“เบื้องต้นตอนนี้รอทางคุณแม่มาเคลียร์ รอแค่แม่มาเคลียร์เลย จากที่ออกรายการโหนกระแสไปเขาก็แจ้งกับทางเราว่า จะเคลียร์ให้หมดภายใน 3 เดือน แล้วเราก็แจ้งกับทางเขาว่า แม่เคลียร์มาให้หน่อยทยอยคืนมานะ จะทำสัญญาทำกันได้ เดี๋ยววันจันทร์ คือ วันนี้ (14 ก.ย.) แม่หาเงินก้อนนึงมาคืนให้หนู ทำสัญญากันแล้วก็จ่ายคืนกันไป เดือนที่ 2 เดือนที่ 3 แต่คือเขาหายไปเลย หายไปตั้งแต่เมื่อวานซืน”

“ที่คุยกันล่าสุดเขาบอกว่าเขาจะเอาของไปขายเอาเงินมาคืนให้ เราก็บอกว่าโอเคเดี๋ยวจะช่วยแม่ขายด้วย ก็คุยกับดีปกติ เราก็ยังให้โอกาสเขา แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อเข้ามาตามที่ตกลง”

เผย “แม่แนท” ติดหนี้ตนอยู่ 7.9 หมื่น ลั่นเชื่อเพราะบอกว่าเป็นการลงทุนทำงาน หากเป็นแชร์ ออมทองตนไม่ให้อยู่แล้ว
“ของป่านประมาณ 7.9 หมื่น เป็นเงินที่ลงทุนร่วมกัน ไม่ได้ให้เขายืมเงินนะคะ เราลงทุนกันตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เขาโทรศัพท์มาถามว่า เราทำงานอะไร เราก็บอกทำสินเชื่ออยู่ ก็รู้จักกับน้องเพราะเคยทำสินเชื่อกู้บ้านให้น้องแนทเลยรู้จักกัน เขาก็บอกว่าแม่มีงานตรงนี้แล้วเขาก็ถ่ายใบงานมาให้ป่านดู เขาก็ชวนไปลงทุนกับเขา ถ้าเขาบอกว่าเป็นการออมทอง เล่นแชร์เราก็ไม่ร่วมด้วยอยู่แล้ว แต่อันนี้เขาบอกเขาจะหารายได้มาให้นะ”

“เขาก็มีใบงาน มีชื่อดารามาเสนอเราตลอด แต่พอถึงกำหนดที่ต้องได้เงินเขาก็บ่ายเบี่ยง รอเช็คบ้าง รอๆ ประมาณเกือบ 2 เดือนก็ยังไม่ได้กันซักบาทเดียว ที่ผ่านยังไม่เคยได้รับเงินจากเขา เรากับเขาไป 2 งาน งานแรก 3.6 หมื่น อีกงาน 4.3 หมื่น”

ขีดเส้นตายวันนี้ (14 ก.ย.) หากอีกฝ่ายยังไม่ติดต่อมาจะรวมกันผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความในวันพุธที่จะถึงนี้
“เบื้องต้นคือรอเขาติดต่อมาในวันนี้ ถ้าเขาไม่ติดต่อมา วันพุธป่านนัดรวมตัวกับเพื่อนๆ ที่โดนเหมือนกัน หลายคนอยู่ค่ะ ที่สน. แถวถนนสาธร จะไปแจ้งความ จะไปแจ้งพร้อมกันทุกคน แต่ถ้าเขาติดต่อมาเราก็ยินดีคุย และให้โอกาสให้เขาได้ผ่อนผัน แต่ถ้าหมดวันนี้ก็ไม่เอาแล้ว เขาไม่ได้ทำกับเราคนเดียว เขาทำกันหลายๆ คน ป่านก็โทรจนเลิกโทรแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. ติดต่อเขาไม่ได้เลย จนเขามาออกรายการโหนกระแส เขาก็มาบอกว่าเขากินยาไป เขาเพลีย แต่เราก็ไม่ฟังแล้วเพราะเขาโกหกกับเรามาหลายรอบแล้ว”

ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายเอาเงินไปทำอะไร
“ไม่รู้เลยจริงๆ ถามเขาเขาก็ไม่ตอบ เขาก็บ่ายเบี่ยงว่ารอก่อนนะ พอเป็นเรื่องขึ้นมา ไปออกรายการโหนกระแส เขาก็บอกว่าพวกเราทำให้เขาหมดโอกาสในการหารายได้แล้ว เขาจะบอกว่าเขารอเงินเพื่อน เขาก็แคปหน้าจอมาให้ดูว่า เขารอเงินเพื่อนคนนี้อยู่นะ สุดท้ายเราก็เลยต้องโทรหาเพื่อนเขาว่าจะโอนเงินมาเมื่อไหร่ ก็เลยรู้กันว่า มันไม่ใช่เงินของเขา มันไม่ใช่เงินตรงนี้ เหมือนเขาเอาเงินคนนี้มาโปะคนนั้นวนเวียนกัน”