เจนนี่ ยอมจ่าย 1 ล้านเพื่อจบ แต่ เก้า ไม่เอา ชีวิตพังโดนแคนเซิลงานหมด


ให้คะแนน


แชร์

หลังจากที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนที่ผ่านมา นักร้องชื่อดัง เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น หรือ รัชนก สุวรรณเกตุ ก็เก็บตัวเงียบมาตลอดหลังจากที่ออกมาชี้แจงแล้วแต่ก็ยังถูกชาวเน็ตวิจารณ์อย่างหนัก

และล่าสุด เมื่อมรสุมชีวิตเริ่มเบาบางลง เจนนี่ และน้องสาว ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ก็ได้มานั่งเปิดใจในรายการ คุยแซ่บShow เป็นครั้งแรก โดยเจนนี่เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาว่า 

หลังจากที่กระแสข่าวถาโถม สภาพจิตใจเป็นยังไง? 
เจนนี่ : ตอนนี้ดีขึ้นมากๆ แล้ว พร้อมจะลุยทุกงานแล้วค่ะ ได้กำลังใจจากคนในครอบครัวและเอฟซี เลยทำให้เรามีแรงสู้ต่อ พร้อมจะมูฟออนสู้งานต่อไป

ลิลลี่ : หนูดีขึ้นแล้วค่ะ อะไรก็ได้ที่ทำให้พี่เจนกับแม่มีความสุข

กระแสข่าว 70-30 เป็นยังไง?
เจนนี่ : หลังจากที่น้องฟ้องก็ไม่ได้ข่าวอะไรอีก ตอนนี้ก็รอหมายศาลและเก็บรวบรวมหลักฐาน หนูไม่ค่อยรู้เรื่องกฎหมายเท่าไร จะชนะหรือแพ้ก็ดูกันที่หลักฐานมากกว่า ตอนเกิดเรื่อง 2-3 วันแรก ทักเฟซบุ๊กหาครอบครัวน้อง แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อมาจนเกิดเป็นข่าวใหญ่ หลังให้ผู้ใหญ่ติดต่อไปตามที่น้องให้ข่าวแต่ก็ไม่สำเร็จ

หนูพร้อมจ่ายค่ะ ตั้งแต่เป็นข่าว ก็ถามตัวเองว่าทำยังไงจะให้มันจบ ตอนนั้นก็คิดว่าจ่าย 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็น 3 ล้านไม่สมเหตุสมผล เพราะรายได้มันอยู่ที่ 4 ล้านนิดๆ ถ้าน้องได้ 3 ล้านไป ลิลลี่ล่ะ

ถ้าต้องเลือกระหว่างลบเอ็มวีกับจ่ายเงินเลือกอะไร?
เจนนี่ : จ่ายเงินดีกว่าค่ะ เสียดายมาก ก็คงทำทุกอย่างให้เพลงได้อยู่ เพื่อเป็นหลักฐานว่าเจนนี่ ลิลลี่ได้ 350 ล้าน

อยากบอกอะไรกับคู่กรณี หลังจากที่เกิดเรื่อง?
เจนนี่ : ก็อยากบอกเก้า วันแรกที่ร่วมงานกัน เราก็คุยกันสองคน พี่พร้อมเคลียร์เสมอ เป็นมิตรกันดีกว่า ยิ้มให้กัน เผื่อวันนึงเราได้รวมงานกันช่วยเหลือกัน พร้อมร่วมงาน พร้อมเคลียร์ พร้อมสู้

อยากให้จบอย่างที่ผู้ใหญ่ไปเคลียร์ จะจ่ายเก้า 1 ล้าน ลิลลี่ 1 ล้าน เจนนี่ 1 ล้าน แต่หนูไม่ทราบว่าผู้ใหญ่หนูคุยกับใคร แต่ทางหนูให้ผู้ใหญ่ในวงการที่หนูก็ไม่ได้รู้จักมากไปเคลียร์ แต่ไม่ได้รับความคืบหน้า ทางน้องเก้าเขาบอกว่าไม่ทันแล้ว เพราะจะฟ้องแล้ว แต่ก็ขอให้มากกว่านี้ได้มั้ย แต่หนูให้ไม่ได้

หนูเคยคิดจะไปคุยกับน้อง ทักแชตเฟซบุ๊กไป ก็เปล่าประโยชน์ ตอนเป็นข่าวแรกๆ ก็โกรธ แต่คิดไปคิดมาก็ต้องเป็นการแก้ไข เพราะตอนนั้นเรื่องทุกอย่างมันเกิดขึ้นในชีวิต

ลิลลี่ : ตอนนั้นตกใจที่มีข่าว ได้ไงเนี่ย พอไปถึงบ้านก็เจอแม่กับพี่นั่งคุยกัน แล้วเราก็นั่งร้องไห้ เพราะมันหนักมาก ก็อยู่ใกล้พี่เจนตลอด แต่ตอนนั้นเขาหนักมาก

เจนนี่ : แม่ก็ร้องไห้ เรากลัวแม่จะทรุดลง แม้มะเร็งจะไม่เจอแล้ว แต่ก็ยังต้องให้ยามาตลอด

เรื่องหนี้สินของแม่เป็นอย่างไรบ้าง?
เจนนี่ : เรื่องกับป้าแมวจบไปแล้ว แต่ยอดที่จ่ายไปก็จ่ายเกินกว่าเงินที่ยืม แต่หลังจากที่มีข่าวนี้ออกมาเจ้าหนี้เก่าก็ออกมาจะเอาส่วนที่เหลือ ก็มีเจ้าใหม่ออกมาอีก คือเขาสงสารหนูที่ต้องจ่ายหนี้ แต่เขาต้องมาเพราะสามีป่วย ต้องการจะใช้เงิน

ตอนหนูดังใหม่ๆ ก็เริ่มมีเจ้าหนี้มา รวมๆ แล้วมีหนี้หลักล้าน ตอนนี้น่าจะไม่มีแล้วนะคะ มีเจ้าหนี้เป็นร้อยเจ้า ถ้าหนักสุดคือภูเก็ตก็เกือบ 30 คนค่ะ แม่จะไปหยิบยืมหลักหมื่น หลักแสน พอร้อนเงินก็ไปทำสัญญายอมเก็บดอกแพง ตอนนี้เคลียร์หมดแล้ว เจ้าพัน สองพันก็มี ก็เคลียร์ทุกคน

น้อยใจมั้ย เวลาเกิดเรื่องมีแต่คนมาทับถม?
เจนนี่ : เดือนที่ผ่านมา ที่สุดในชีวิต หนูไม่เคยร้องไห้ติดกันขนาดนั้น หัวเสีย ผู้ใหญ่ก็จะเตือนว่าอย่าออกมาพูด ควรหยุด ควรเงียบ และสุดท้ายมันก็ดีขึ้น พอเสียใจกัน ไปดูแม่ ลิลลี่ เด็กในค่าย และสิ่งที่เราสร้างมา ก็รู้สึกคุ้มค่า

หนูพลาดเรื่องนี้ที่สัญญา เพราะเราทำด้วยสัญญาใจ จ้างแบบไม่มีเอกสารใดๆ เพราะหนูเคยไปฟีจกับคนอื่น ก็ทำแบบนี้ หนูก็เลยทำแบบนี้กับน้อง เพราะไม่คิดว่ามันจะมีประเด็นนี้ แต่หลังจากที่พี่มดดำแนะนำหนูก็ทำ เดินหลังบ้านตลอด ไม่ได้นิ่ง แต่ไม่ได้ออกมาพูด แต่ตอนนั้นเขาบอกว่าต้องการมากกว่านั้น 

ลิลลี่ : เห็นพี่ร้องไห้หนักมาก ถ้าหนูไปอยู่จุดนั้นหนูคงแย่ เพราะหนูไม่ชอบอะไรแบบนี้ ร้องไห้อยู่เป็นอาทิตย์ หนูก็พยายามเข้มแข็ง จะแอบไปร้องไห้ในห้อง

ช่วยสรุปเรื่องคุณพ่อหน่อย?
เจนนี่ : เรื่องคุณพ่อกับหนูเราอึดอัดกับข่าวที่เกิดขึ้น พอได้คุยกันก็เริ่มความเข้าใจกันใหม่ แล้วก็โอนเงินให้พ่อก้อนนึง และพ่อก็เอาเงินไปสร้างบ้าน พอรู้ว่าพ่อเอาไปสร้างบ้านเห็นว่ามันน้อยก็ไปขอแม่ แต่แม่ก็ใจแข็ง จนแม่ยอมใจอ่อน ก็เอาเงินไปให้พ่อสร้างบ้าน

แต่เรื่องที่พ่อขายกล้วยแขก คือพ่อเขาก็ทำหน้าที่ของเขา หนูบอกให้เขาหยุดไม่ได้ ตอนนี้บ้านพ่อก็ใกล้เสร็จแล้ว แม้จะไม่ได้หลังใหญ่แต่ก็อยู่ได้ พอมีเรื่อง พ่อก็ให้กำลังใจบอกไม่ต้องออกมาพูด หนูอยากจะบอกพ่อว่า ขอบคุณนะคะดีใจที่เรากลับมาสานสัมพันธ์กันได้ ถ้าข่าวไม่ดังก็คงไม่ได้เปิดใจและสนิทกัน พ่อก็ถามข่าวอยู่ตลอด

เรื่องเด็กๆ ในค่ายที่ออกจากค่ายไป?
เจนนี่ : วันที่เป็นข่าว 30-70 น้องเปาก็ออก แล้วเป็นข่าวดัง หนูก็เรียกประชุมว่าใครอยากออก ออกเลย ตอนนั้นเรามีศิลปิน 28 คน เราพูดกับเขาตรงๆ ไม่ต้องอดทนก็ได้นะ ผู้ปกครองบางคนเครียด แล้วก็ออกไปทั้งหมด 5 คน ที่เหลือก็นัดเซ็นสัญญา มีข้อตกลงชัดเจนทุกอย่าง ตอนแรกที่เป็นข่าวก็รู้สึกว่าทำไมเราถึงหาเรื่องใส่ตัว แต่ถ้าไม่กล้าเสี่ยงลงทุนก็จะไม่โต

แชตที่หลุดออกมาหลังมีข่าว แชตจริงมั้ย?
เจนนี่ : มีทั้งแชตจริงตั้งแต่วันที่เกิดเรื่อง ดูไลฟ์สดเสร็จหนูก็ร้องไห้ คุยไลน์กับน้องๆ ก็เลยด่าว่า ไอ้เด็กเ_ี้ย รู้เลยว่าคนปล่อย ก็น่าจะคาดเดากันได้ เขาออกจากค่ายไปแล้ว ไม่ได้ไปเคลียร์กับเขา

ต่อจากนี้อะไรจะเกิดก็เกิดได้เลยไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าเรื่องที่ผ่านมา เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เห็นความบกพร่องของตัวเองหมดเลย ทุกเรื่อง ก็บอกคนในค่ายว่ามีอะไรให้คุยกับเราได้ตรงๆ เลย และเจนนี่ก็จะปรับปรุงตัวเองเรื่องอารมณ์ คนที่เหลือตอนนี้เป็นหน้าที่ที่เจนนี่จะต้องทำให้ทุกคนได้เห็นว่าเราโกงจริงมั้ย เอาเปรียบคนอื่นจริงรึเปล่า

เรื่องเงินค่าตัวที่ไปออกรายการล่ะ?
เจนนี่ : เวลาไปออกรายการ ไม่เคยได้เงินที่เป็นกำไร มันเป็นการได้ชื่อเสียง โปรโมตตัวเอง ได้อย่างมากก็เป็นค่าเดินทาง และหนูก็ยินดีจ่ายให้ เพราะมันเป็นการได้ออกทีวี และตอนนี้หนูคุยกับน้องๆ ในค่ายทุกครั้งเรื่องนี้ว่าโอเคมั้ย

แต่ถ้าได้ 1 หมื่น จะไม่มีการให้ 500 แน่นอน จะได้ 2,500-3,000 บาท ยืนยันว่าถ้าได้ 1 หมื่น ไม่มีได้ 500 บาทแน่นอน เพราะชื่อรายการที่น้องพูดถึง บางรายการน้องยังไม่เคยไปด้วยซ้ำ มีบางรายการไม่ได้ แต่หนูก็ให้น้อง 500 เพราะรู้ว่าน้องต้องนั่งรถมา

ส่วนค่าขนมขึ้นร้องเพลงในคอนเสิร์ต เขายังเอาเจนนี่-ลิลลี่ หนูก็ให้น้องๆ ขึ้นไปร้อง คนละ 1 เพลง ก็ให้น้องคนละ 500 บาท คืออยากให้น้องหาประสบการณ์ จะบอกคนจ้างว่าขอเวลาเพิ่ม หนูร้องให้เหมือนเดิม แต่เวลาที่เพิ่มมา ขอให้น้องๆ ในค่ายได้ร้อง ตอนนี้ก็ขยับมาให้น้องๆ คนละ 800 บาท เป็นเงินค่าตัวของหนูให้กับน้องๆ ให้น้องมีกำลังใจ แต่ถ้าเขาต้องการเจนนี่-ลิลลี่ และบัตเตอร์ฟลาย อันนี้น้องๆ บัตเตอร์ฟลายก็จะได้ค่าตัวเต็มๆ นะคะ

เรื่องคอนเสิร์ตที่โดนแคนเซิลล่ะ?
เจนนี่ : เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่พังมาก รีวิว คอนเสิร์ต แคนเซิลหมดเลย แต่มีงานนึงที่ไม่แคนเซิล พอไปมีคนมาดูเยอะมากก็เลยต้องสู้ ตอนนี้เดือนตุลาก็กลับมาคิวเต็มแล้วค่ะ.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1935547
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1935547