กว่าจะเป็นนางเอกดัง "มิน พีชญา" ทิ้งความกลัวเปลี่ยนสาวขี้อายให้เป็นสาวมั่น


ให้คะแนน


แชร์

คำกล่าวที่ว่า “ทุกการเปลี่ยนแปลง มีสิ่งดีๆรออยู่” น่าจะจริง เพราะกว่าจะเป็นนางเอกดังที่มั่นใจ มิน พีชญา วัฒนามนตรี น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเธอเคยผ่านช่วงวัยรุ่นที่แสนจะเครียด เก็บกด และว้าวุ่น มิน ยอมเผยจุดเปลี่ยนที่ก้าวมาเป็นคนมั่นใจ ผ่านรายการ THE SOUND OF HAPPINESS ฟัง × เล่า = ความสุข วาไรตี้ทอล์คและพอดแคสต์เรื่องราวสุขภาพจิตที่สนุกและเข้าใจง่าย วันพฤหัสบดีที่ 24 กันยายน เวลา 19.30 น. ที่ JOOX เท่านั้น

“มิน พีชญา” เผยว่า “ตอนเด็กมินเป็นคนค่อนข้างขี้อาย ไม่กล้า เคยต้องออกไปพูดหน้าห้อง จำได้เลยว่าเสียงสั่นสุดๆ พูดอยู่แล้วเป็นลมไปเลย หลังจากวันนั้นโดนเพื่อนล้อตลอด บ่อยครั้งเข้าก็ทำให้เราเกิดความเครียด จนวันหนึ่งมานั่งตกตะกอนกับตัวเองว่า ฉันไม่อยากเป็นแบบนี้แล้วนะ ไม่อยากเป็นมินเวอร์ชันล้มเหลว จะเป็นคนใหม่ จะสู้แล้ว หลังจากวันนั้นเลยหัดพูดหน้ากระจกเป็นพันๆครั้ง จนการสอบพูดครั้งต่อไปเราพูดได้ ไม่เป็นลมแล้ว เพื่อนจึงเลิกล้อ

จุดเปลี่ยนอย่างหนึ่งในชีวิตคือ เป็นวันที่คุณพ่อคุณแม่พูดเรื่องให้ไปเรียนต่อต่างประเทศอีกครั้ง หลังจากเขาพูดเรื่องนี้กับเรามา 5-6 ปีแล้ว และเราร้องไห้ทุกครั้งเพราะไม่อยากไป วันนั้นก็ร้องไห้อีกเหมือนเดิม แต่ตัดสินใจว่า เอาล่ะลองดูสักตั้ง พอไปถึงอเมริกาวันแรก ตื่นมาร้องไห้เลย ไปโรงเรียนตอนนั้นยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ด้วย ทุกอย่างรอบตัวเปลี่ยนไปหมด ไม่เหมือนที่เราเคยเจอ 3 เดือนแรกทุกคืนจะฝึกภาษากับตัวเอง เปิดดิกชันนารีแทบทุกเล่มที่มี เพราะอยากเรียนให้ทันเพื่อน สุดท้ายก็ผ่านมาได้ เราเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอดและอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง

พอกลับมาเมืองไทยกลายเป็นคนใหม่เลย เป็นมินที่กล้าพูด กล้าถาม กล้าที่จะลงมือทำ ไม่กลัวอะไรง่ายๆอีกแล้ว เลยยิ่งชัดเจนในความคิดของเราว่า จากนี้ไปเราอย่าไปคิดว่าจะเจอกับอะไร แต่ให้คิดว่าเราจะสนุกกับอะไร เพราะธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนมีสกิลในการเอาตัวรอดอยู่แล้ว สู้เข้าไว้อะไรที่ยังไม่เก่งก็ทำไปก่อน แล้ววันหนึ่งเราจะแข็งแรงและเก่งเอง”

มิน พีชญา ยังทิ้งท้ายและฝากให้กำลังใจคนที่กำลังเจอกับปัญหาว่า “ในทุกๆวันเรามักจะมีโจทย์ใหม่ๆเข้ามาให้ตัดสินใจและเลือกทางเดินในชีวิต เราแค่ตัดสินใจให้ดีที่สุดบนพื้นฐานข้อมูลที่เรามี ลงมือทำ ทดลองอะไรใหม่ๆ เติบโตและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ไม่ว่าจะเรื่องอะไร อย่าลืมว่าเรามีคุณค่า ครอบครัวเรามีคุณค่า สังคมรอบตัวเรามีคุณค่า ไม่ว่าใครจะพูดอะไร สำคัญที่สุดคือเราไม่ลืมว่าเราเป็นใคร”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1935647
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1935647