กรี๊ด! “หมอเจี๊ยบ” สะบัดมงขึ้นชกมวย โอดเจ็บแขน เจ็บนม เจ็บทั้งตัว ไม่คุ้มค่าตัว


ให้คะแนน


แชร์


ฮือฮา “เจี๊ยบ ลลนา” สะบัดมงชก 10 Fight 10 ซีซั่น 2 โอดเจ็บแขน เจ็บนม เจ็บทั้งตัว ไม่คุ้มค่าตัว เงินสร้างเรือนหอ เอาไปรักษาตัวหมดแล้ว เซ็งเรือนหอเสร็จดีเลย์ งบบานปลายเหยียบ 30 ล้าน อยากแต่งแฟน แต่รอเงิน รอกฎหมาย รอให้ทุกอย่างเหมาะสม

ฮือฮาไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่ 10 Fight 10 ซีซั่น 2 เปิดตัวนักชกหญิงคู่แรก เป็น “เจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” เตรียมปะทะ “เชียร์ ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์” งานนี้เจี๊ยบ ลลนาเปิดใจว่าตนเป็นมวยรองเชียร์ แต่เต็มที่ พร้อมเผยเป็นความท้าทาย จะคว้าชัยชนะมาครองให้ได้ ก่อนโอดท้อ เจ็บไปหมดทั้งตัว แต่ได้กำลังใจที่ดีจากหวานใจ “เดียร์ บุศรา” 

สะบัดมงชก ถ้าอยากรู้ว่าจะใส่มงชกหรือเปล่าต้องรอดู 2 พ.ย.นี้ ว่าจะเลือกใส่มงชกหรือไม่ สงสารเพื่อน เอาแค่ชนะก็พอ ก็โดนแน่นอน เพราะช้ำกันมาแล้ว เจี๊ยบนี่แหละโดนแน่นอน เป็นเพื่อนกันค่ะ แต่บนเวทีเราคือนักกีฬา ทำตามกฎกติกาทุกอย่าง ไม่มีออมมือ”

รับเป็นมวยรองเชียร์ 3 ปีไม่ได้ออกกำลังกาย แค่เดินยังเหนื่อย แต่จะคว้าชัยชนะในฐานะนักมวย
“ใช่ เป็นนักกีฬาด้วย คือ เอาจริงๆ คนดูยังไงเจี๊ยบก็เป็นมวยรอง เพราะก่อนมาออกรายการนี้เจี๊ยบไม่ได้ออกกำลังกายมาแล้ว 3 ปี จริงๆ 3 ปี แค่เดินธรรมดาก็เหนื่อยแล้ว แล้วพอตอบรับรายการก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทำให้เจี๊ยบกลับมาดูแลสุขภาพ กลับมาดูแลร่างกายอีกทีนึง และเหมือนกับว่าได้พบกิจกรรมใหม่ที่เราชอบว่าต่อยมวยเนี่ย เจี๊ยบกลับมาอีกครั้ง คือขึ้นเวทีนั้นคือได้มงกุฏ อันนี้ก็จะมาคว้าแชมป์ เหมือนความท้าทายอีกครั้งนึง คือเจี๊ยบรู้สึกว่าความท้าทายครั้งแรกคือสอบหมอ ครั้งที่สองคือตอนประกวดนางงาม นี้ก็เป็นอีกอันนึงที่เจี๊ยบจะคว้าชัยชนะในฐานะนักมวยให้ได้ ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายให้ตัวเอง เหมือนมีไฟกลับมาอีกครั้ง”

เหนื่อยเหมือนจะตาย ทรมานมาก
“เหนื่อยมากเหมือนจะตาย คือทรมานจริงๆ แล้วก็มันไม่เหมือนตอนเราอ่านหนังสือสอบ คือเราอัดได้เวลาอ่านหนังสือ สมมติจะสอบ เราอ่านหนังสืออัดๆ ไม่นอนอย่างนี้ได้ แต่ต่อยมวยอัดปุ๊บเจ็บ เจ็บเข่า เจ็บอะไร แล้วพอเราเจ็บเราก็ซ้อมไม่ได้ มันเลยต้องบาลานซ์ วางแผนดีๆ ลำบากมาก ถ้าเห็นในไอจีสตอรี่ เจี๊ยบหาคุณหมอบ่อยมาก ตอนแรกเจ็บเข่าช่วงโควิด ตอนแรกก็คิด สักพักมันท้อนะ ท้อมากเลย ว่าเราทำอะไรอยู่นะ เจ็บเข่าเสร็จ พอช่วงโควิดไม่ได้ต่อยไม่ได้ซ้อมเพราะทำงานหนัก หายไปเลย พอกลับมาซ้อมอีกที เหนื่อย พอเจ็บเข่าเสร็จ เจ็บแขน เจ็บนม เจ็บอก เจ็บทั้งตัวแล้ว เชียร์มันยังล้ออยู่ทุกวันเลย ว่ามึงนี่ทำบุญบ้างเปล่า เจ็บไรนักหนา 
คือเหมือนเราเป็นผู้หญิงในทีม เวลาลงนวมต่อยกับผู้ชายตัวใหญ่ นี่โดนพี่ธันน์ ธนากร ต่อยนวมเข้ามาคิดว่าเจ็บ โอ้ย หายใจไม่ออก ที่ไหนได้คือเขาต่อยเบาแต่มันคือหนักสำหรับเรา พอโดนทีเดียวก็เจ็บ เราก็คิดว่าไม่เป็นไรแต่สำหรับเราคือเจ็บเรื่อยๆ หายใจไม่ได้ ไปทำงานโรงพยาบาลเขียนเอ็กซเรย์ให้ตัวเอง ซี่โครงหักเปล่า จริงๆ ไม่หัก แต่ว่าเป็นกล้ามเนื้อ มันเจ็บแล้วมันเจ็บนาน นี่ก็กลับมาเจ็บอีกรอบ รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ยาก ท้าทายมาก ยากกว่าหลายๆ อย่างที่เจี๊ยบทำมาเลย มันมีผลกับเราไง มันต้องวางแผนเลย ยิ่งจะใกล้ต่อยแล้วเราก็ไม่อยากหยุด พอเราไปซ้อมมันก็เจ็บหนักอีก เพราะเราก็กลัวว่าถ้าเราไปซ้อม เจ็บหนักจนเราต่อยไม่ได้จะทำยังไง”

ไม่คุ้มค่าตัว
ถ้าเรื่องค่าตัวไม่คุ้ม ไม่คุ้มอยู่แล้ว ยังไงก็ไม่คุ้ม แค่ค่ารักษาก็หมดแล้วมั้ง ถึงเป็นมวยรองแต่มันคือการท้าทายกับการพิสูจน์ตัวเอง ว่าจะพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหน เป็นใครก็ตาม อยากเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้องๆ ทุกคนว่า เราสามารถทำได้ อย่างเจี๊ยบเป็นหมอได้ เป็นนางสาวไทยได้ แล้ววันนี้เป็นนักมวยได้ ภายนอกแม่ยังบอกเชียร์อยู่ทางไหน แม่จะไปพนันด้านนั้น แม่หันทางเชียร์แล้ว คนอื่นไม่เชื่อมั่นไม่เป็นไรเราเชื่อมั่นในตนเองก็พอ”

เงินสร้างเรือนหอ เอาไปรักษาตัวหมดแล้ว
กะว่าจะเอาค่าต่อยมวยไปโปะเรือนหอ (หัวเราะ) หมดแล้ว รักษาตัวเองหมดแล้ว จริงๆ ต้องขอบคุณเขามาก เพราะว่าเราถอดใจไปหลังช่วงโควิดแล้ว เอาจริงๆ ถอดใจแล้วว่าแบบยอมแพ้แล้ว ไม่เอาแล้ว แบบไม่น่าจะไหวแล้ว เพราะว่าร่างกายเราไม่ได้ฟิตอยู่แล้ว แล้วเราพอหยุดไปมันก็กลับมาเหนื่อย เวลาก็ไม่มี ทำงาน ทำหลายอย่าง ถ่ายหนังอีก คือแทบจะไม่มีเวลา แทบจะยอมแพ้แล้ว

แต่มีเขานี่แหละที่ดูแลเราจนเราแบบว่า เฮ้ยเราต้องกลับมาสู้ เจ็บโน่นเจ็บนี่เขาก็ถึงขั้นไปซื้อหนังสือมานวดให้ ว่าจะดูตรงไหน นวดเท้าให้ ไปอยู่ห้องเช่าก็กวาดบ้าน ถูพื้น ซักเสื้อผ้าเอง คือมันลำบากจริงๆ เพราะว่าบ้านก็ยังไม่เสร็จ มันลำบากเดินทางไม่ถนัด แล้วมีช่วงนึงไปอยู่แถวค่ายพี่แมทธิว ดีน คือมันเดินทางไม่ได้ไง ไกลมากจากที่ทำงาน พอไปอยู่ก็ไม่ได้ซ้อมนะ แทนที่คิดว่าจะอยู่แล้วได้ซ้อม แต่ตอนนี้ย้ายออกมาแล้วได้ที่อยู่ใหม่แล้ว

โอดเรือนหอดีเลย์ น่าจะเสร็จเดือนพ.ย. ติดขัดเรื่องเงิน
“จริงๆ เรือนหอต้องเสร็จตั้งแต่เดือนสิงหาคม ตอนนี้มีดีเลย์ ดีเลย์นิดหน่อยก็น่าจะเสร็จสักประมาณพฤศจิกายน ช่วงต่อยเสร็จน่าจะได้อยู่ ถามว่าติดขัดอะไร เหลือเงินค่ะ ไม่เหลือเลย ขาดเงิน ดินทำสวน กำลังทำพวกบิวต์อิน แล้วก็สวน เพิ่งรู้ว่าดินก็แพงมาก ต้นไม้นี่แพงมากเลย ตอนนี้เอาหญ้าก่อนละกัน

เราก็ดูรายละเอียด ตอนแรกก็กะว่าจะไม่เอาสวนแต่พอเห็นสภาพแล้วมีแต่ดินที่มันเป็นโคลนแบบเดินเข้าไปแล้วเท้าจม มันไม่ได้ มันต้องมีต้นไม้สักหน่อยก็กำลังหาอยู่ค่ะตอนนี้ ตอนนี้บานปลายมากเลย บานจนไม่รู้จะบานยังไง ทะลุไปถึงไหนแล้วไม่รู้อย่าไปถามมันเลย”

เผยจากเดิมคิดสร้างบ้านไม่เกิน 8 ล้าน แต่ตอนนี้บานปลายเหยียบ 30 ล้านแล้ว
“เยอะ ค่าที่เราไม่คิดมันแพง แอร์อย่างนี้เราไม่ได้คิดว่ามันจะแพง ค่ากระจก ค่ากรอบกระจก ค่าดิน ดินตอนเด็กๆที่เอามาปั้นควายเล่นกัน ไม่คิดว่ามันจะแพง นึกออกไหม แต่พอเอามาถม โอ้โห แพงมาก ประมาณเป็น 10 ล้าน ไม่ถึง 30 ล้าน รวมทั้งหมดที่มันเกิน ตอนแรกคิดว่าสร้างบ้าน 7-8 ล้าน เท่าตัวเลย มันรวมบิวต์อิน รวมเฟอร์นิเจอร์ ทุกอย่าง รวมดินด้วย ดินแพงมาก ตกใจ ซึ่งก็เสียเรื่อยๆ นี่ก็เสียดินแล้วเดี๋ยวทรายอีก หินอีก

เอาจริงๆ เจี๊ยบว่ามันอยู่ที่เรามากกว่า ว่าเราอยากเลือกขนาดไหน แต่พอดีทุกคนพอสร้างบ้านก็จะเจออย่างนี้ ว่าเฮ้ย สร้างบ้านทั้งที คือเราไม่ได้สนของแพง แต่เราสนของที่อยู่ทน เราไม่ใช่ว่าอยากอยู่แป๊บเดียวแล้วหลังคารั่ว พื้นผุ เราก็เลือกของที่มันทนไปเลย”

อยากแต่ง รอเงิน รอกฎหมาย เอาให้เหมาะสม
ถ้ากฎหมายเสร็จ ก็แต่ง แต่ว่าต้องออกมาให้มันเหมาะสมด้วย ก็รอค่ะ เจี๊ยบเชื่อว่าทุกคนที่เป็นเพศอื่นก็รอเช่นกัน ทุกคนเลย รอหมดแหละ ก็รอเงินก่อน มีกฎหมาย บางทีอาจจะไม่มีเงินแต่งก็ได้ แต่ก็โอเค ตอนนี้ก็อยู่ๆ กันไป สู้ เอาต่อยมวยให้ชนะก่อน เอาเป็นเรื่องๆ หลายเรื่องมากตอนนี้”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000097976
ขอขอบคุณ : https://mgronline.com/entertainment/detail/9630000097976