รายการ ต้มยำอมรินทร์ ได้เปิดใจสัมภาษณ์ สมเจต พยัฆโส หรือที่รู้จักกันในนาม เฮียหมู นักแสดงตลกที่สร้างเสียงหัวเราะได้ทุกครั้ง กับเรื่องราวที่หลายคนไม่รู้ รวมถึงสาเหตุที่ตัดสินใจยอมตายดีกว่าผ่าตัดลิ้นหัวใจ โดย เฮียหมู เผยว่า ตอนนี้น้ำหนักเพียง 40 กิโลกรัม เมื่อถามว่า ปกติทานเยอะไหม ทำไมน้ำหนัก 40 ? เฮียหมู ตอบว่า ทานเยอะมาก เป็นกรรมพันธุ์ เพราะแม่ตัวเล็ก พ่อตัวใหญ่ แต่พวกพี่สาวจะตัวใหญ่

ถามว่า ทุกคนเขาเรียก เฮียหมู แต่จริงๆ เฮียหมู ชื่ออะไร ? “สมเจต เขาจะเรียกกันเวลาจะจ่ายเงินภาษี เขาก็จะเรียก นายสมเจต พยัคฆโส” เฮียหมู บอก

ถามว่า จริงๆ ไม่มีชื่อเล่น แต่ว่า เฮียหมู มาจากซิทคอม ทำไมไม่มีชื่อเล่น ? เฮียหมู ตอบว่า เกิดมาเป็นลูกคนสุดท้อง ลูกคนที่ 9 บ้านนอกก็เรียกไอ้เจตๆ เรียกกันอย่างนี้

ถามว่า เล่นลิเก แล้วอยู่ๆ เข้าสู่วงการตลกได้ยังไง ? เฮียหมู เล่าว่า พอดีเข้ามาในกรุงเทพฯ มาเล่นลิเกเปิดวิกแถวถนนตก ไปเล่นอยู่กับ คมขำลูกพ่อขุน เป็นน้องชายของ น้ากล้วย เชิญยิ้ม น้ากล้วยลูกพ่อขุนนี่แหละ น้ากล้วยก็เล่นตลกอยู่ในคมขำลูกพ่อขุน แล้วตอนหลังเขาก็มาเล่นตลก มาตั้งทีมเอง เราก็ไปเล่นตลกอยู่กับน้ากล้วยก่อน น้ากล้วยก็เห็นนั่นนี่ เขาก็ไปเล่นประจำซิทคอม เขาก็แนะนำ

ถามว่า ทำไมตอนนั้นถึงได้ฉายาว่า จิ้งจก เชิญยิ้ม ? เฮียหมู ตอบว่า รูปร่างแบบนี้จะให้ชื่ออะไร ณเดชน์ เหรอ พ่อณเดชน์ ฮาไหม ชื่อ จิ้งจก เชิญยิ้ม เขาเห็นผมผอม ตัวเล็กๆ เดินก๊องๆ แก๊งๆ เขาก็เรียก จิ้งจก เชิญยิ้ม

ถามว่า ซิทคอมตอนนั้นมันดังมาก ชีวิตเราเปลี่ยนไหม ? “เปลี่ยน ดัง มีงานรับเชิญไปอะไรไปเรื่อย สมัยก่อนเล่นตลกด้วย” ถามว่า เล่นตลกและละคร มีงานจ้าง มีอีเว้นท์เพียบใช่ไหม แล้วเราได้เก็บเงินเก็บทองไว้ไหม ?

ถามว่า ใช้ไม่ได้เก็บ ? “ไม่ได้เก็บ ได้มาก็ใช้วนไป” ถามว่า มีช่วงหนึ่งที่ป่วยหนักต้องผ่าตัดลิ้นหัวใจ ตอนนั้นเกิดวิกฤติในชีวิตขนาดไหน ?

เฮียหมู ตอบว่า โอ้โหคิดดู ถ้าเป็นดาราคนอื่นเขาก็มีเงินเก็บเยอะใช่ไหม แต่เราก็ได้มาก็ใช้ไป ช่วงที่มีถ่ายละครเวที หมดฉากตัวเองต้องมีเด็กถือถังออกซิเจนมาให้เลย หลังจากนั้นก็ได้ไปตรวจ จนพบว่าเป็นลิ้นหัวใจรั่วรูใหญ่มาก ตอนนั้นหมอเผยว่าถ้าอยู่ก็ไม่เกิน 4 เดือน จนมาคุยกับภรรยาตัดสินใจยอมตายดีกว่า เพื่อเก็บเงินทั้งหมดไว้ให้ลูกเรียน

อีกคำถาม ตอนนี้ช่วงซิทคอมซบเซาทำให้กลายเป็นคนตกงาน ว่างงาน ? เฮียหมู บอกว่า ช่วงนี้มีเด็กคนรุ่นใหม่แข่งขันกันสูง ยิ่งมาเจอเศรษฐกิจแบบนี้ด้วยทำให้งานละครลดลงไปเรื่อยๆ แต่ก็เข้าใจว่าตอนนี้ผู้ใหญ่ทางวงการก็ต้องเซฟตัวเองด้วย