เคน : วันที่จะเข้าไปคุย น้องบอกน้องไม่ไหว ถ้าจะให้พี่มาซัพพอร์ตพี่โอเคมั้ย แต่พี่เป็นคนในกอง เลยจะไปคุยกับผู้ใหญ่ ถ้าจะไปดูน้องและดูไม่น่าเกลียด แต่เราไม่ได้รับฟีตแบ็คอะไร

เฌอเอ : เอมมี่ปัญหาสุขภาพเล็กน้อย และเมื่อเราส่งตัวเองก็เลยไม่ไหว และเราไม่รู้จักใคร และพี่เคนเป็นคนที่มีศักยภาพและไปหาพี่ปุ้ยว่าคนนี้จะเป็นคนส่งเราต่อ ว่าผู้ใหญ่โอเคมั้ย ตอนนั้นเขาไม่พูดอะไร รับทราบและบอกว่าให้พักผ่อน เพราะเอมเพิ่งมาจากโรงพยาบาล แล้วค่อยไปเจอกัน

เขาไม่ได้บอกเหรอ?
เคน : ไม่มีครับ มาทราบอีกทีคือตอนโพสต์

เฌอเอม : เราพาไปปรึกษาถ้าไม่โอเค ก็ให้ทางกองช่วยหาคนซัพพอร์ต เขาไม่ได้ปฏิเสธ แต่บอกว่าให้ไปดูแลรักษาสุขภาพ

เรื่องสละสิทธิ์ใช่มั้ยค่ะ?
เฌอเอม : ตกใจนะคะ ถ้าไม่ไหวก็ไม่อยากจะล้มลงกลางกอง แต่อยากจะเดินไฟท์นอลกับเพื่อน (ร้องไห้) เอมเดินไปพร้อมกับมากมายจริงๆ เราพูดกับเขาเท่านี้ สละสิทธิ์หรือไม่มันง่ายมาก แต่เอมไๆม่ต้องการที่จะสละสิทธิ์ที่ชอบธรรมโดยไม่ได้ชี้แจง เอมก็อยากพูดเพราะมีการฟังความข้างเดียวมาตลอด ขอให้กองเป็นผู้พิจารณาการสละสิทธิ์ของกองดีกว่า

เอมขอแจ้งเรื่องนึงว่าปัญหาสุขภาพจากการใช้สายตาหนัก เอมพิมพ์เป็นจดหมายไปแล้ว เบื้องต้นของจดหมายและใบรับรองแพทย์ แต่หลังจากนั้นก็ขอแค่จดหมาย แต่ถ้าใบรับรองแพทย์ไม่ได้ถูกเปิดเผย เอมเลยไม่ได้แจ้งเรื่องสละสิทธิ์

เอมไม่ได้รับการติดต่อจากกอง เอมไม่ทราบว่าเพื่อนไปไหน สิ่งที่เขาติดต่อมีแค่เรื่องการสละสิทธิ์เท่านั้น เอมจะไม่ขอสละสิทธิ์ด้วยตัวเอง

กองบีบให้สละสิทธิ์มั้ย?
เฌอเอม : เป็นการเข้าใจผิด แต่วันนี้มันจะคลายลงจากการแถลงวันนี้ คำว่าสละสิทธิ์ สิทธิ์ครึ่งนึงอยู่กับเอม และอีกครึ่งหนึ่งอยู่กับเขา ให้ผู้ใหญ่ตัดสินค่ะ แต่สละสิทธิ์เองก็ได้ แต่ทางอื่นก็มี

ต้องแล้วแต่ทางกองจะกรุณา จะให้พื้นที่ เอมไม่ต้องการเป็นผู้ชนะตั้งแต่ต้น แต่การชนะคือการได้ทำอะไรเพื่อสังคม และทำเต็มที่ และถ้าได้เดินไฟท์นอลก็คือการชนะ

บางทีข้อมูลที่ผิดพลาดเล็กน้อย เบื้องหลังจากที่เอมกลับคืออะไรไม่ทราบ แต่โพสต์นั้นเสริมข้อมูลที่ไม่ได้จริงทั้งหมด ถ้าไม่เดินไปบอกเหตุการณ์ก็จะไม่เปิด เอมมีปัญหาและตัดสินใจไปปรึกษา

ต้องถามผู้โพสต์ เอมก็อยู่ตรงนั้นแต่ไม่ได้รับการพูดคุยแบบนั้นเลย ถ้าพี่ๆ สื่อที่เคยพบเอง จะรู้ว่าเอมให้สัมภาษณ์เต็มที่และเต็มใจ เอมเต็มที่กับทุกวันและตั้งใจ

หลังจากกลับจากหัวหินก็ไม่ได้เจอเพื่อนๆ แต่ยังพูดคุยกันอยู่ หลายคนก็เป็นห่วงที่เราหายไป ที่หายไปไม่ได้จะไม่ไปร่วมประกวด พอพบว่ามีปัญหาสุขภาพ เลยไปปรึกษากับผู้ใหญ่

เอมเคารพเวทนี้มาก เฌอเอมมีตัวตน และได้พูด ใครก็ตามที่ได้มง เพื่อนคนไหนก็ตาม เอมยินดีด้วยจริง มีหลายคนที่เอมเชียร์ ทุกคนมาตรงนี้มีอนาคตไม่ได้เล็งที่มงกุฎอย่างเดียว ปีหน้าก็ไม่รู้ เจอเหตุการณ์นี้เข้าไป ขอจบที่ปีนี้ เวทีนี้ เอมจะแบกความคาดหวังหรือรู้สึกอะไร ปีนี้เป็นปีแรก และอยากให้เป็นปีเดียว เพราะเราทุ่มไปหมดแล้วทุกอย่าง (ร้องไห้)

เฌอเอม : เอมอยากให้ถามเพื่อนๆ ของเอม มันไม่มีพยาน แต่เราทำดีกับใครเขาจำมิตรภาพนี้ได้ มีบ้างที่เหนื่ย ช้า เอมทำเท่าที่เอมไหว และจะทำจนไม่ไหว เอมต้องขอโทษทุกคนจากใจ แตเอมเชื่อว่าเพื่อนๆ ทุกคนของเอมตอบได้ว่าตลอดที่ผ่านมา เราดีกับเขาจริงๆ มั้ย

ทนาย : ไม่ได้คิดจะฟ้องทางกองประกวด น้องรู้สึกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และทุกคนได้เห็นศักยภาพและทัศนะคติของเขา ถ้าคิดจะปิดจะมาตกม้าตายด้วยเรื่องแค่นี้จริงๆ เหรอ และที่ไม่บอกว่าเพราะตอนนั้นไม่มีพี่เลี้ยงจริงๆ ก็อยากให้ความเป็นธรรมกับน้อง ถ้าอยากจะปิดบังอย่างนั้นจริงๆ

เคน : เป็นการประชุมแผนงานการขาย และเจอโควิด ผมเป็นเออีครับ เป็นเซลล์ขายสปอนเซอร์ชิปครับ ขายอะไรไปบ้าง สิ่งที่ประชุมมีแค่นั้น

แต่ทางนั้นบอกรู้กลยุทธ์?
เฌอเอม : แล้วทำไมวันนั้นหนูใส่ชุดสีแดงไปค่ะ เราไม่เอาคะแนนมาเสี่ยงเพื่อความเด่น

ทางกองและเคนพูดไม่ตรงกัน?
เคน : ไม่รู้กลยุทธ์ใดๆ ทั้งสิน หรือการเตรียมแผนงานแถลงข่าว เราก็ไม่ได้อยู่ และได้รับการติดต่อไปหลังแถลง 1 อาทิตย์ แล้วได้รับกาติดต่อสปอนเซอร์เกี่ยวกับผม ก็ไปหาแล้วก็ได้เข้าไป เข้าไปไม่ถึง 5 ครั้งเลยครับ ไลน์กรุ๊ปอยู่แค่ในกรุ๊ปสปอนเซอร์ แต่ไลน์กรุ๊ปใหญ่เราไม่ได้อยู่ในกรุ๊ปนั้นเลย

สรุปวันนั้นไปคนเดียวหรือไปกับเฌอเอม?
เคน : ไปกัน 2 คน แล้วพี่ 2 คนนั่งฝั่งตรงข้าม โดยวัฒนธรรมเราก็ต้องนั่งให้ต่ำกว่า

เฌอเอม : ไม่ได้ไปขอโทษ แต่ไปขอคำปรึกษา เอมคิดว่าไม่ใช่การกดดันจากทางกองประกวด ถ้ามีคนเข้าใจผิดเราก็มีสิทธิ์จะออกมาปกป้องตัวเอง ก็มีคนที่รักรอฟังเอม มากกว่าการกลับไปแข่ง คือการเคลียร์ตัวเองให้โปร่งใส

ทำไมต้องเปลี่ยนการแถลง?
ทนาย : ถ้าพูดไปก็กระทบหลายฝ่าย เป็นเรื่องเซนซิทีฟ แต่ไม่ใช่ความประสงค์ของเรา แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเลื่อน

เฌอเอม : เอมเป็นแค่นางงามที่ไม่รู้ว่าจะได้แข่งตัวมั้ย ไม่มีอำนาจอะไรตรงนั้น เบื้องต้นก็ไม่ได้อยู่ในไลน์ของผู้เข้าประกวดแล้ว ถ้าเขาให้โอกาสกลับไปก็พร้อมจะทำเต็มที่ แต่ถ้าเขาเลือกจะให้ยุติ เราก็น้อมรับ และไม่มีอะไรจะแย้ง (ในกรุ๊ปไลน์โดนดีดออก) ค่ะ

พี่ปุ้ยโพสต์ก่อนแถลง?
ทนาย : ขอตอบแทนก่อนละกัน จริงๆ ไม่ได้อยากมานั่งอยู่ตรงนี้ แต่สถานการณ์มันพาไป การนิ่งเงียบก็ยอมรับว่าสิ่งที่ออกมาเป็นเรื่องจริง ซึ่งมีความจริงอยู่บ้าง และไม่จริงอยู่บ้างในโลกโซเชียล เราถูกทำร้ายจกโซเชียลมากไป เราต้องออกมาพูดเพื่อปกป้องตัวเอง เราก็ระมัดระวังที่จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับใคร หากมันจะกระทบอยู่บ้าง แต่นี่คือการปกป้องชื่อเสียง ก็จำเป็นต้องทำ และทำให้ดีที่สุด แต่จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากแถลง เราก็ต้องยอมรับ

จะเคลียร์กันยังไง?
เฌอเอม : ก็ต้องพูดคุยกัน แล้วถ้ามีเรื่องที่ให้อภัยกันได้ แม้เอมจะเป็นเด็ก แต่ก็เป็นฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน และไม่ถือสาหาความและขอโทษกองจากความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น ต้องยอมรับว่าตอนนี้มีหลายคนที่คอมเมนต์ด่าทอ และคำพูดกระทบคนรอบข้างเอม อยากให้ลงกับเอม ไม่ใช่ไปลงกับคนรอบตัวที่เอมรัก เอมไม่ได้คุยกับที่บ้าน เอมเป็นลูกหลง ทำงานตรงนี้ ดูแลตัวเองมาตลอด ถ้าเป็นไปได้ ขอความเมตตาให้กับเอมคนรอบข้าง

สำหรับคนที่เชียร์ ขอบคุณที่อยู่กับหนูมาตลอด (ร้องไห้) อยากให้จดจำเอมในฐานะคนธรรมที่ได้มีโอกาสสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน ไม่ใช่ว่าเราไม่พิจารณากับสิ่งที่เกิดขึ้น และทำสิ่งที่ดีต่อไปเรื่อยๆ และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นเสมอ

และขอบคุณที่กองให้โอกาสแถลงข่าวกับเอม เมื่อได้รับการยืนยันก็ถือว่าให้โอกาสและความเป็นธรรมกับเอม