14 ปีบนเส้นทางซิงเกิ้ลมัมสุดสตรองของ “ษา วรรณษา”


ให้คะแนน


แชร์

14 ปีบนเส้นทางซิงเกิ้ลมัมสุดสตรองของ “ษา วรรณษา”

       สำหรับแม่คนหนึ่งนั้นความเป็นซิงเกิ้ลมัมหรือแม่เลี่ยงเดี่ยวถือว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสไม่น้อย แต่ที่กว่าเดิมคือการต้องเลี้ยงลูกออทิสติก เพราะต้องแบกทั้งรักและทุกข์ถาโถมโดยลำพัง และแน่นอนว่า “ษา วรรณษา ทองวิเศษ” เธอคือแม่คนนั้นที่ดูแลเลี้ยงและรักษาบำบัดลูกชายสุดรักอย่าง “น้องเซเดย์” จนวันนี้อาการหายปกติสามารถเรียนถึง ม.3 และนี่คือเรื่องราวของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ไม่เคยฟ้องศาลให้พ่อของเด็กส่งเสีย หากแต่สู้ชีวิตและทำทุกอย่างเพื่อลูกอย่างแท้จริง

ษา วรรณษา

Q : ทราบว่าลูกไม่ปกติตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

A : ตั้งแต่ตอนเล็กๆ เลยเพราะเราเรียกลูก แต่ลูกก็ไม่สบตา ยืนก็เท้าไม่ติดพื้น สังเกตุว่าดูเรื่องอายส์คอนแท็ค ปกติเด็กจะมองตรงๆ แต่ลูกเรามองขึ้นมองลง ไม่มองตาเราเลย จนมาถึงเรื่องเดินเขย่งเท้า เด็กปกติเดินเขย่งเท้าบ้างแต่น้องเป็นตลอด พอ 3-4 ขวบ พัฒนาการของเด็กคือต้องพูดแล้ว แต่น้องไม่พูด พูดมาก็ภาษามนุษย์ต่างดาว

Q : ลูกคือแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิต ?

A : มันแค่จี๊ดมาในใจแป๊ปเดียวว่าลูกฉันไม่ปัญญาอ่อนแน่นอน ลูกฉันทำอะไรเร็วไปหมดเลย ตีว่าเป็นไฮเปอร์ แต่ไม่ได้ไปพบหมอนะ ษาใช้วิธีหาความรู้เองจากในเน็ต ตอนนั้นษาเชื่อว่าคนที่จะรู้เรื่องลูกมากที่สุดคือตัวเรา เราต้องหาความรู้เรื่องไฮเปอร์เยอะ หาวิธีแก้เอง ปริ้นท์เองเป็นปึกๆ เหมือนเรียนจิตวิทยาเอง ลูกต้องทำอย่างไร รักษาอย่างไร ต้องวาดภาพ ต้องกายภาพ เพิ่งจะได้มาเริ่มพบหมอก็ตอน 5 ขวบแล้ว

ษา วรรณษา

Q : บำบัดเยียวยาลูกอย่างไร ?

A : มันอธิบายไม่ถูกค่ะ คือเราต้องอยู่กับเขา สังเกตลูก ยกตัวอย่างเช่นจะพูดคำว่าสีแดง ก็ใช้วิธีการคือเอาปากกาสีแดงเขียนในกระดาษ ระบายสีบอกว่านี่คือสีแดงให้เขาเห็นภาพ เพราะเซเดย์จำได้จากภาพ เขาไม่จำจากการสัมผัส เราแก้แบบนี้ตามข้อมูลในเน็ต คือหามาเช็คทีละข้อเลยว่าลูกเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ใช่ก็หาวิธีอื่น ปัญหาหลักๆ จะเป็นเรื่องการสื่อสารและอารมณ์ ถ้าอะไรไม่ได้ดั่งใจก็จะโกรธ กรี๊ดๆ โยนข้าวของ เขาจะหยิก จิก คือเราต้องมั่นคงมากๆ อารมณ์เราก็ต้องบำบัดไปด้วย ตอนเซเดย์เข้าเรียนเนอสเซอรี่ เข้าไปแล้วนะ เราก็เอาออกมาเพราะลูกโดนปล่อยให้ยุงกัด เหมือนโดนทิ้งอยู่หลังห้อง ก็เอาออกมาดูแลที่บ้านจนประมาณ 3 ขวบกว่า ก็ต้องเข้าเรียนตามเกณฑ์ พอเข้าโรงเรียนปรากฏว่าลูกเรียนแล้วเขียนตัวหนังสือกลับด้าน เราเลยต้องมาแก้ใหม่อีก ใช้เวลาแก้กันอยู่พักใหญ่เลย แต่ถ้าลูกเครียดก็ให้เขาผ่อนคลายไปทำอย่างอื่นบ้าง

ษา วรรณษา

Q : ตัดสินใจให้ลูกพบแพทย์เมื่อไหร่ ?

A : เริ่มพบหมอตอน 5 ขวบ เพราะต้องเริ่มเข้าโรงเรียน คือษาอยู่กับลูกไม่ได้ตลอดเวลา เขาต้องเริ่มเข้าสังคม  ลูกต้องเริ่มนั่งกับที่ ลองเข้าโรงเรียนไปก่อน แต่พอเข้าไปก็ ไปกัดเพื่อนบ้าง ไปตีเพื่อนบ้าง บางทีวิ่งกลับบ้าน รปภ. ต้องไล่จับเขา คือเขาจะวิ่งกลับเพียงแค่จะกลับไปกินข้าวไข่ดาวของคุณยายแค่นั้นเอง เราก็ต้องปรับ พอดีไปพบหมอ หมอตีมาว่าลูกไม่ได้เป็นไฮเปอร์แต่ลูกเป็นออทิสติก เราก็ตกใจมากนะคะ ตกใจไปสองสามอาทิตย์เลย ก็คิดว่าแล้วที่เราบำบัดมาใช้ไม่ได้เหรอ ผิดเหรอ หมอบอกไม่ผิด หมอบอกว่าที่เรารักษามามันใช้ได้ แต่อาการมันแตกต่างกัน ณ ตอนนั้นษาคิดว่าออทิสติกคือดาวน์ซินโดรม แต่ลูกไม่ได้เป็นดาวน์ซินโดรม คือออทิสติกนี่มีหลายขั้น แต่ดาวน์ซินโดรมนี่พ่อแม่จะรู้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

ษา วรรณษา

Q : อาการเขาดีขึ้นไหม?

A : อาการเขาดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ไปหาหมอ แล้วเขาชอบครู เขาชอบนักบำบัด เขาชอบเรียนรู้ ถ้าเจอครูดีหรือนักบำบัดที่ดีก็โอเค เขาโชคดีนะ คือษาเป็นนักแสดงเราก็เปิดเผยนะ เราบอกว่าลูกเป็นอะไรแก่โรงเรียน ที่เพิ่มเติมคือษาและคุณยายจะเดินไปในโรงเรียนเพื่อเข้าไปหาครู ไปหาเพื่อนเขาในวันปฐมนิเทศน์ เล่าให้เพื่อนเขาฟังว่าตักเตือนเขาได้ ไม่ใช่ว่าดุด่าไม่ได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร พอถามครูเขาก็โอเค เพื่อนๆ เขาก็โอเค ตอนนี้ก็ ม.3 แล้ว

ษา วรรณษา

Q : ไม่ขอพ่อเขาช่วยส่งเสีย ?

A : ไม่ได้ขอพ่อเขาเลยนะ ทุกคนบูลลี่เรื่องนี้ ทำไมพ่อเขาไม่มารับผิดชอบ เราแค่เอาเขาสะดวก อนาคตจะจ่ายให้ลูกไหมก็แล้วแต่คุณ ไม่ใช่เดือนหนึ่งเขาต้องจ่ายแค่นี้ให้ลูก คือเราเคยทำแล้ว เขาทำให้เราไม่ได้ตามที่ขอ เราก็เลยแบบว่าไม่เอาดีกว่า แล้วเรากังวลก็ทะเลาะกับเขาอีก ตอนนี้เราทำงานหาเงินเองได้ จับอะไรก็ขาย ทำอะไรก็ตั้งใจ คิดแบบนั้นมาตลอด ตอนนี้ก็มีแต่เงินน้อย ไม่ได้ไปขอเงินพ่อเขา เราก็ทำงานของเราไป

Q : ชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยวสุดสตรอง ?

A : ค่าเทอมคือษาบำบัดลูกอยากให้ลูกเป็นอัจฉริยะ อะไรที่ลูกเรียนมีความสุขเขาก็เรียนได้ดี เราส่งเสริมลูกตรงนี้ พอลูกไปสอบที่ไหนเราก็ไม่ได้เสียเงิน เขาสอบได้เลย ไปสอบที่โรงเรียนไหนก็สอบได้ ตอนนี้อยู่ ม.3 ก็เก็บเกรดมาเรื่อยๆ เชื่อว่าพอ ม.4 เขาน่าจะได้ทุนใดทุนหนึ่งที่เราไม่ได้ควักเงินเอง เขาก็เรียนอะไรไปเขาก็ได้ใบประกาศของเขามา ในอนาคตตรงนี้ก็จะดีกับเขา เคยบอกเขาว่าแม่จะสบายแล้วเพราะเซเดย์มีทุนแล้ว

ษา วรรณษา

Q : “อาท รณชัย” กับ “เซเดย์” ปรับตัวเข้าหากันอย่างไร ?

A : จริงๆ ษาอยากขอบคุณอาทที่เขาพยายามพูดคุยกับลูก ส่วนเซเดย์น้องไม่อะไรกับใครนะ ใครมาพูดกับใครก็โอเค ถ้าไม่อยากพูดอะไรก็ไม่พูดคุย แต่นี่ก็พูดคุย เล่นกัน แหย่กัน สองคนนี้เขาเจอกันมา 4 ปีแล้ว ตั้งแต่น้องประมาณ 9 ขวบ พอเขามาก็เป็นสปีชี่ส์เดียวกันเลยปรับตัวหากันได้ดี ก็มีความสุขดี

Q : นิยามของซิงเกิ้ลมัม แบบ “ษา” ?

A : อยู่ที่เราจัดการมากกว่าชีวิตจะไปตรงไหน ถ้าอยู่พอดีก็อยู่แค่นี้ กินอิ่ม นอนหลับ เวลาดำเนินชีวิตใช้ชีวิต เราต้องมีอะไร ต้องกินข้าว ต้องหาเงินค่ารถเมล์ เติมน้ำมัน ฉะนั้นเราต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูตัวเองแลพครอบครัวแค่นั้นพอค่ะ

ษา วรรณษา

ษา วรรณษา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.daradaily.com/news/93929/read
ขอขอบคุณ : https://www.daradaily.com/news/93929/read