“บิวกิ้น-พีพี” เปิดใจรับบทแสดงนำซีรีย์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” แย้มฉากเลิฟซีน

“บิวกิ้น-พีพี” เปิดใจรับบทแสดงนำซีรีย์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ”

ถือเป็นการโคจรมาร่วมงานกันอีกครั้งของ บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล และ พีพี กฤษฏ์ อำนวยเดชกร กับ ซีรีย์เต็มตัวเรื่องแรก “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” หลังเคยร่วมสร้างซีนจิ้นมาแล้วกับบท หมอเต่า-ทิวเขา ในซีรีย์เรื่อง รักฉุดใจนายฉุกเฉิน ซึ่งกำกับโดย บอส นฤเบศ กูโน ทั้ง 2 เรื่อง แต่ครั้งนี้ทั้งคู่ ก้าวจากนักแสดงสมทบมาเป็นนักแสดงนำ

ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค ในงานเปิดตัว LINE TV Originals ซีรีย์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” ณ โซน EDEN 1 ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ 2 นักแสดง บิวกิ้น-พีพี ได้มาร่วมงานท่ามกลางแฟนคลับมาให้กำลังใจกันหนาแน่น หลังจบงานทั้งคู่ได้เปิดใจถึงการทำงานของซีรีย์เรื่องนี้ พร้อมทั้งเคลียร์ประเด็นที่มีหลายคนจับโมเมนต์ที่ดูเหมือนว่าจะเกินคำว่าเพื่อน

ซีรีย์เต็มเรื่องแรกของเราทั้งคู่เป็นอย่างไรบ้าง?
บิวกิ้น: “อย่างที่บอก พอมันก้าวมาจากการเป็นนักแสดงสมทบ ขึ้นมาเป็นนักแสดงนำ ส่วนการรับผิดชอบ ความยากมันไม่ได้คูณ 2 คูณ 3 แต่มันคูณ 10 ก็ตื่นเต้นแล้วก็ดีใจมากๆ”

บิวกิ้น – พีพี

พีพีล่ะกดดันไหม?
พีพี: “กดดันครับ กดดัน พอมาเป็นนักแสดงนำเรื่องแรกวันหนึ่งเราต้องเล่นทุกซีนเลย บทก็เยอะมาก แล้วมีเวลาพักน้อยมาก มันก็กดดัน มันต้องทำการบ้านให้ดี”

ด้วยความที่หมอเต่ากับทิวเขาใน ซีรีย์เรื่อง รักฉุดใจนายฉุกเฉิน คนเฮฮามาก เรื่องนี้ยิ่งต้องฝึกฝนเพิ่มขึ้นไหมกับการเป็นซีรีย์เต็ม?
พีพี : “ก็ด้วยครับ จริงๆ ก่อนจะไปถ่ายว่ามีการเวิร์กช็อป มีการเรียนภาษาจีน ทางนาดาวก็ส่งเรียนทุกอย่างให้มันพร้อมที่จะไปถ่ายเลยอ่ะครับ จะได้แบบออกมาให้ดีที่สุด”

เวิร์กช็อปกันนานไหม?
บิ้วกิ้น: “2 เดือนได้ อาทิตย์หนึ่งก็ประมาณ 3-4 วัน แต่มันก็จะมีภาษาจีนที่จะต้องใช้เวลาก่อนประมาณ 5-6 เดือน จะมีพวกสกิลและแอคติ้ง”

เห็นว่าน้ำหนักลงทั้งคู่เลย ใครลงเยอะกว่ากัน?
บิวกิ้น: “พีลงเยอะกว่า”
พีพี: “พีลงประมาณ 11 โล” (กี่เดือน?) 2 เดือนครับ

อันนี้เป็นคำสั่งของทางผู้ใหญ่?
พีพี: “ก็ด้วยครับ แต่เค้าก็ไม่ได้ให้ลงเยอะขนาดนี้ แต่ว่าว่างๆ อยู่ช่วงโควิดก็เลยลงไปเรื่อยๆ”

ใช้วิธีไหนในการลดน้ำหนัก?
พีพี: “ใช้คุมอาหาร”

ด้วยความที่เราสนิทกันอยู่แล้วตั้งแต่สมัยเรียน มันทำให้ง่ายขึ้นไหมในการทำงาน?
บิวกิ้น: “จริงๆ ช่วยเยอะครับ ด้วยความที่มันเป็นซีรีย์เล่าถึงความสัมพันธ์ของเด็กผู้ชาย 2 คน พอเราสนิทกันอยู่แล้ว และมีแบ็กกราวน์ที่รู้จักกันอยู่แล้ว พอต่างคนต่างเข้าคาแร็กเตอร์ มันเหมือนทำให้เราซิงค์กันมาขึ้น”

มีหลายซีนในซีรีย์ที่มันเหมือนในชีวิตจริงเราบ้างไหม?
พีพี: “เรียนพิเศษด้วยกัน”
บิวกิ้น: “กลับไปใส่ชุดนักเรียนด้วยกัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของผมเหมือนกันนะ เพราะว่านานแล้ว”

แล้วเจอกันครั้งแรกที่ไม่ถูกกันเป็นเรื่องจริงไหม?
บิวกิ้น: “ก็อาจจะไม่ถูกกัน แต่ไม่เท่าในซีรีย์ ในซีรีย์ไม่ถูกกันรุนแรง”

คาแร็กเตอร์เราเหมือนตัวจริงไหม?
พีพี: “บางอย่างก็คล้าย บางอย่างก็ไม่เหมือน”
บิวกิ้น: “ก็มีความคล้ายมากเหมือนกัน เพราะว่าเป็นตัวละครที่พัฒนามาจากพวกเราด้วย มีหลายอย่างที่ถูกปรับให้เข้ากับสิ่งที่เป็นเรา แล้วก็มีหลายๆ อย่างที่เราปรับเข้าไปหาตัวละคร เหมือนสร้างมาร่วมกัน”

ความฟิน ความจิ้น คนดูจะได้เห็นมากน้อยแค่ไหน?
บิวกิ้น: “พวกเลิฟซีนถ้าบอกก่อนมันก็จะรู้ก่อน จริงๆ อยากบอกแต่ไม่อยากสปอยล์ แต่ว่าน่าจะมีพอประมาณ”

มีฉากไหนขอเพิ่มเองไหม?
บิวกิ้น: “มีทั้งบรีฟ ทั้งอิมโพรไวส์ (สดๆ) และก็เล่นไปตามฟีลบ้าง”

ใครอิมโพรไวส์มากกว่ากัน?
บิวกิ้น: “พอๆ กัน”

พีพีเราโดนถูกกระทำตลอดเลยเขินไหม?
พีพี: “ไม่เขินก็สนิทกันอยู่แล้ว”

แต่นอกจอไม่เป็นแบบนั้น?
พีพี: “ไม่เป็นแบบนั้นครับ”

มีขายเลิฟซีนฟินๆ ให้พี่บอสไหม?
บิวกิ้น: “จริงๆ แก่นมันก็มาจากพี่บอส แต่พอเราเล่นๆ ไปแล้วมันเกิดเป็นสิ่งนั้นที่ไม่ได้คิดไว้ก็ขายเพิ่มไปให้”

หลายคนมองว่าเหมือนแฟนกันจริงๆ?
บิวกิ้น: “แสดงว่าเค้าอินไง ก็เหมือนกับว่าเค้าอินไปกับซีรีย์เนอะ เค้าดูหนังเค้าคงคิดว่า 2 คนนี้เล่นคู่กันดีจัง แสดงดีๆ (หัวเราะ)”

พบคนเขินนะคะ?
พีพี: “ไม่เขิน ขำพี่นั่นแหละ”

อย่างเรื่องนี้เค้าบอกว่าเป็นเรื่องที่เด็กผู้ชายไม่รู้ใจตัวเอง ในชีวิตจริงไม่รู้ใจตัวเองแบบนี้ไหม?
บิวกิ้น: “ผมไม่รู้ไง อันไหนที่ผมไม่รู้ใจตัวเองก็แปลว่าผมไม่รู้ไง”(หัวเราะ)

แล้วพีพีล่ะ?
พีพี: “รู้ว่าชอบนอน” (ยิ้ม)

ถามถึงประเด็นที่หลายคนมองว่าเราสองคนมีโมเมนต์ต่างๆ ที่มันดูเหมือนเป็นแฟนกัน มีอะไรจะชี้แจงเพิ่มเติมไหม หลังจากเคยชี้แจงไปแล้ว?
บิวกิ้น: “จริงๆ ก็เหมือนเดิม ก็ยังดีใจที่เวลาคนพยายามจับมาให้คู่กัน ก็รู้สึกว่าเค้าก็อินกับซีรีย์ที่เราเล่นกับสิ่งที่กำลังจะมาหรือกับโปรเจ็กต์ที่ผ่านมาแล้ว”

มีคนถึงขั้นเอาคลิปมาต่อกัน ที่พีพียืมโทรศัพท์บิวกิ้นมาแล้วสแกนนิ้วตัวเองเข้าไปได้
บิวกิ้น: “แล้วมันเข้าได้ไหม (ไม่รู้คลิปจบยังไง) ก็มันเข้าไม่ได้ไง”
พีพี: “เข้าได้ๆ มันเข้าได้”
บิวกิ้น: “อ่อ อันนั้นไอแพด”
พีพี: “อันนั้นเครื่องเก่า”

แล้วมันยังไง โทรศัพท์เรามีนิ้วของกันและกัน?
บิวกิ้น: “ผมไม่มีของเค้า ผมไม่มี”

แล้วพีพีมี?
บิวกิ้น: “เค้าก็ชอบมาเล่น แบบกดอะไรแบบเนี้ยครับ”

สรุปว่าเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันนะ
พีพี: (พยักหน้า)
บิวกิ้น: “ครับ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5078432
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5078432