ไมค์ ภิรมย์พร เผยชีวิตจากกรรมกรสู่นักร้องดัง ใช้ชีวิตทำเกษตรเรียบง่าย


ให้คะแนน


แชร์

ยาใจคนจนชุดที่เท่าไหร่?
ไมค์ : 5 ครับ

ก่อนหน้านี้มีเพลงมาก่อนแล้ว?
ไมค์ : ครับ ก็มีเพลงพวกลูกทุ่งอีสาน สไตล์หมอลำบ้าง ลองผิด ลองถูก แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะคนดูแลไม่เคยทำลูกทุ่ง ก็คลำทางกันมา

พอมายาใจคนจน ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลยไหม?
ไมค์ : ก็เปลี่ยน เพราะว่าช่วงที่ทำชุด 1-2-3-4 ก็ล้มลุกคลุกคลานเหมือนเดิม พี่ที่ดูแลบอกว่าทำมา 4 ชุดแล้ว ชุดที่ 5 ถือเป็นชุดสุดท้ายแล้วนะ เขาบอกว่าถ้าไม่ได้ชุดนี้จะไม่ทำลูกทุ่งอีกแล้ว

ช่วงที่เพลงดังมากๆ จำได้ไหมว่าออกคอนเสิร์ตปีนึงเป็นยังไงบ้าง?
ไมค์ : เป็นช่วงเทศกาลดีกว่า วันนึงวิ่ง 6 ที่

แสดงว่าชีวิตเมื่อก่อนพี่แทบจะไม่เห็นแสงแดดเลย?
ไมค์ : ก็แทบจะว่าได้

ใช้ชีวิตอย่างนี้นานไหม?
ไมค์ : ก็ตั้งแต่ชุดที่ 5 มา เราก็มีอัลบั้มออกมาต่อเนื่องตลอด เราก็มีงานตลอด

อยู่แกรมมี่มา 25 ปี ถือเป็นนักร้องเบอร์หนึ่งเลยก็ว่าได้ในด้านเพลงลูกทุ่ง ภูมิใจไหมที่เป็นพี่ดูแลน้องๆ?
ไมค์ : จริงๆ แล้วภูมิใจมาก ภูมิใจกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้ความอบอุ่นกับบ้านหลังนี้ บางครั้งอยู่มานานจนแบบเราก็อายุมากแล้ว พอเห็นศิลปินใหม่ๆ เข้ามาบริษัทก็ต้องดูแลเด็กๆ ด้วย ผู้ใหญ่แล้วเราก็จัดสรร แบ่งเวลา ก็ต้องเข้าใจในเรื่องขององค์กรใหญ่

เราถือว่าเป็นคนปูทางให้ พี่ไผ่ พี่ตั๊กแตน พี่ต่าย อะไรอย่างนี้?
ไมค์ : จริงๆ แล้วบริษัทแกรมมี่ดีกว่าเป็นคนที่ปูทางเริ่มต้น แต่ว่าพี่ไมค์เข้ามาเส้นทางไม่ได้ง่ายเหมือนตอนนี้

แต่สิ่งนึงที่ให้น้อง คือสอนน้องให้คงเส้นคงวา ทำไมต้องยึดหลักนี้?
ไมค์ : คือเรามองตัวเราก่อน เราออกจากบ้านมา เรามีฝัน มีความตั้งใจ ในเมื่อตัวตนเรารออยู่ที่บ้านยังไง แล้วเรามาอยู่อีกจุดนึงของสังคม สังคมให้โอกาสแล้ว เราก็อย่าลืมจุดแรกที่เราก้าวมา อย่างที่บอกทุกอย่างมันได้มาเพราะความเป็นตัวตนของเรา

บทเพลงของพี่ไมค์ได้ฉายาเป็นขวัญใจคนใช้แรงงาน คำนี้มีความหมายกับพี่ยังไง?
ไมค์ : จริงๆ แล้วทางสื่อมวลชนทางผู้หลักผู้ใหญ่ บอกว่าเพลงที่เราร้องส่วนใหญ่ให้กำลังใจผู้ที่ใช้แรงงาน ก็เลยเป็นที่มาของขวัญใจผู้ใช้แรงงาน ก็เป็นความภาคภูมิใจมาก

ก่อนจะเห็นสบายแบบนี้ สมัยก่อนลำบาก ทำมาทุกอาชีพแล้ว รปภ.ก็เป็นมาแล้ว?
ไมค์ : เริ่มต้นตามฝันก็คือเข้ามาในกรุงเทพฯ มาทำงานก่อสร้าง เป็นเด็กเสิร์ฟ เด็กรับรถก็เป็น เด็กนวดห้องน้ำก็เป็น แต่เรามีฝันพยายามเสาะหา สมัยก่อนประจำอยู่คลองตัน มีดิสโก้เทค ใหญ่มาก แล้วไปอยู่ที่นั่น พอรู้จักนักดนตรีที่เขาไปเล่น ก็แทรกตัวไปรู้จัก ไปฝากเนื้อฝากตัว พอรู้จักก็ให้เขาฝากงานให้ เป็นเด็กเสิร์ฟข้างใน

แล้วพี่มาเป็นนักร้องได้ยังไง?
ไมค์ : ก็พอไปรู้จักนักดนตรี ก็ติดสอยห้อยตามเป็นเด็กขนเครื่องให้กับ คุณใหม่ เจริญปุระ เสร็จแล้วพี่ๆ แนะนำ ให้รู้จักครูเพลงให้ไปเทสต์เสียง ติดสอยห้อยตามไปอยู่บ้านครูเพลง ไปทำงานบ้าน ล้างถ้วย ล้างชาม ล้างแก้ว เช็ดถูบ้านล้างรถ รดน้ำต้นไม้ทุกอย่าง หลังจากนั้นครูเพลงทำเดโม่ไว้ ตอนนั้นอาชีพมันเปลี่ยนไปแล้ว ขายลาบ ส้มตำ เป็นรถเข็น พอรู้ข่าวว่าแกรมมี่เขาเปิดตัวรับนักร้องลูกทุ่ง แล้วเดโม่ที่ครูทำให้เลยไปฝากให้ เผื่อวันข้างหน้าเขาได้สกรีน

ตอนนั้นเราคาดหวังไหมว่าเราจะได้ไปเป็นศิลปินที่แกรมมี่?
ไมค์ : ไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นความหวังส่วนนึงที่เราได้ฝากเสียงเราไว้

คิดไหมว่าจะมาไกลขนาดนี้?
ไมค์ : เราไม่ได้คิดว่าเราจะมาไกล เพียงแต่ว่าได้เข้าไปเป็นนักร้องที่แกรมมี่ถือว่าโชคดีแล้ว เพราะว่าเราได้เดินตามฝันของเราสำเร็จแล้ว ตอนนั้นที่เป็นนักร้องชุดที่ 1 เราก็รู้ว่ามันไม่ได้สำเร็จง่ายๆ กว่าจะมาถึงชุดที่ 5 แต่เราก็ให้กำลังใจตัวเองตลอดว่าไม่เป็นไร วันนี้มันไม่สำเร็จ วันหน้าเรายังมี เรายังมีความหวัง คิดในแง่บวกตลอดว่าเราต้องให้กำลังใจ แล้วจริงๆ ที่พี่มาเป็นศิลปินแกรมมี่ เพราะความบังเอิญ จากเป็นนักร้องคั่นเวลาให้กับเขา

คือจริงๆ อยากจะใช้ชีวิตแบบอู้ฟู่ แต่พี่ไม่เลือก พี่ตัดสินใจไปซื้อที่แล้วก็ทำเกษตรที่อุดรฯ?
ไมค์ : ครับ พื้นเพเราคือลูกชาวนา ตั้งแต่ลืมตามาพ่อก็ลำบาก พอช่วงนึงพ่อกับแม่ ที่นาก็ไม่มีต้องไปเช่าเขา พอเราโตมา เราก็อยากมีที่นาของตัวเอง พอถึงจุดนี้พี่ก็อยากได้ที่นาเป็นของตัวเอง อยากพัฒนาเกษตร ทุกสิ่งทุกอย่างมันเรียนรู้ได้เร็ว ซึ่งตั้งแต่พี่ซื้อที่มาส่วนนึงพี่ก็ไปปลูกอ้อย แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จกับการทำไร่อ้อย เพราะมันทำเยอะเกิน แล้วอีกอย่างเราไม่มีเวลาด้วย เพราะอ้อยมันต้องใช้หลายๆ อย่าง แล้วสารเคมีก็เยอะ ก็เลยตัดสินใจไม่ทำ ที่นาที่มีอยู่ก็มาพัฒนาตั้งแต่ซื้อใหม่ๆ แล้ว เขาเรียกว่าเป็นเกษตรผสมผสาน ปลูกมะนาว ปลูกไผ่ ปลูกมะม่วง

แล้วขายเหรอ?
ไมค์ : ไม่ได้ขายครับ คือปลูกเพื่อให้รู้ว่าการทำเกษตร ถ้าเราทำเพื่อเป็นต้นแบบให้ชุมชนได้เห็นว่า ขนาดผมเป็นนักร้องผมยังมีเวลามาทำเกษตรได้ แล้วถ้าทำได้ มันออกดอก ออกผลมา มันก็สร้างรายได้ให้กับครอบครัวด้วย

แสดงว่าเกษตรที่เราลงไปทำเนี่ย มันแค่ความสบายใจของเรา?
ไมค์ : ความสุขและความอยากทำ ตั้งแต่ทำมายังไม่ได้ขาย เลี้ยงปลาด้วย มันก็ได้อยู่ ได้กินในนั้น ทุกอย่างเป็นอินทรีย์หมดเราไม่มีสารเคมีเลย (ชมคลิป คลิกที่นี่).

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1949704
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1949704