แอนนา ชวนชื่น เผยวีรกรรมความเจ้าชู้ เมียสุดทน ยื่นคำขาดห้ามเลี้ยงดู ให้เงินเที่ยวแทน


ให้คะแนน


แชร์

แอนนา ชวนชื่น ควงภรรยา เปิดใจชีวิตคู่ 20 กว่าปี สุดทรหด กับวีรกรรมความเจ้าชู้พาสาวขึ้นห้อง จับได้คาหนังคาเขา เมียยื่นคำขาดห้ามเลี้ยงดู ให้เงินเที่ยวอาบอบนวดแทน

แอนนา ชวนชื่น ตลกคนดัง ควงคู่ เก๋ ภรรยาสุดสวย เปิดชีวิตรัก 20 กว่าปี สุดทรหดเคยนอนกอดกันร้องไห้เพราะไร้บ้านอยู่ เผยวีรกรรมเจ้าชู้สุดชอกช้ำเคยจับได้คาหนังคาเขา พาสาวขึ้นห้องมาแล้ว ในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร เผยเมียใจกว้างให้เงินเที่ยวอาบอบนวดจริงหรือไม่

ทั้งคู่คบกันมา 23 ปีแล้ว เล่าให้ฟังหน่อยเจอกันยังไง ?

แอนนา : “เขาเป็นนักร้องคาเฟ่ เราเป็นตลก นิสัยตลกก็หว่านไปทั่ว แต่เขาไม่เหมือนนักร้องทั่วไป คบกับนักร้องทั่วไปมีแต่เดือดร้อนมีแต่เรื่องใช้เงิน แต่มาคบกับเขาไม่เคยพูดเรื่องเงินเลย นัดกันไปกินข้าวเขาก็แย่งเราออก เราก็บอกว่าเราเป็นผู้ชายขอออกเอง ก็เลยตกลงกันว่าต่อไปนี้ก็ 50 50 แล้วกัน เขาแตกต่างจากนักร้องคนอื่นที่เราเคยคบ คนอื่นมีแต่จะมาขอ ญาติป่วย แม่เจ็บ ค่าแฟลต ค่าคอนโด จิปาถะเยอะแยะไปหมด สร้างแต่ความปวดหัวแต่คนนี้ไม่ เราก็มาคิดว่าคนนี้น่าจะเป็นเนื้อคู่เรา เขาไม่เคยหวังอะไรจากเราเลย ไม่เคยพูดเรื่องเงินเลย”

ตอนนั้นเขามาจีบเราลังเลไหม?

เก๋ : “ก็ลังเล ตลกคาเฟ่เขาจีบไปทั่ว”

แต่สุดท้ายเราก็ปล่อยเขามาอยู่ในชีวิตเรา ?

เก๋ : “เขาเป็นตลกก็จริงแต่เขาชอบค้าขาย เราก็ชอบค้าขาย”

ทำไมพี่เก๋ถึงแตกต่างจากคนอื่นไม่มาเอาของเขา แต่มาประคับประคองเขา ?

เก๋ : “บอกไม่ถูก”

แล้วอะไรที่ทำให้ป๋าชนะใจพี่เก๋ ?

เก๋ : “ต้องถามเขา”

แอนนา : “เป็นสายบุญ เขาชอบทำบุญ เราก็ชอบทำบุญ”

ตอนเดตแรกๆเห็นว่าไปทำบุญกันเลย ?

แอนนา : “สมัยก่อนคาเฟ่จะปิดตี 3-ตี4 เราก็จะนัดกันไปซื้อโลงศพที่วัดหัวลำโพง ไปไหว้เสด็จพ่อ ร.5 ที่ลานพระรูป ไปจบที่วัดเชิงหวาย ใส่บาตร 9 องค์ แล้วก็ถวายสังฆทาน กลับบ้านนอน แล้วก็แยกกัน พอถึงเวลามาทำงานก็มาเจอกัน เดือนนึงจะไปทำบุญด้วยกัน 5-6 ครั้ง”

ก่อนที่น้าแอนจะมาเจอพี่เก๋เขาก็มีครอบครัวมาอยู่ก่อนแล้ว ตรงนี้เรารู้อยู่ก่อนไหม ?

เก๋ : “ตอนแรกครอบครัวที่เขามีลูกด้วยกัน ไม่รู้ค่ะ หลังจากเลิกกับแม่ของลูก เขาก็จะมีอีกคนนึง คือรู้แต่คนนั้น แต่รู้ว่าเลิกแล้ว ตอนนั้นเขาโสด”

ก่อนจะโสด ก่อนมาเจอพี่เก๋ ณ ตอนนั้นมีผ่านมาแล้วกี่ครอบครัว ?

แอนนา : “ประมาณ 3-4 คน แต่ก่อนจะมาเจอเขา เลิกก่อน ไม่เคยคบซ้อน”

มีจดทะเบียนกันไหม ?

แอนนา : “คนแรกที่มีลูกด้วยกันจดทะเบียน แล้วก็หย่าร้างกันไป”

พี่เก๋รู้เมื่อไหร่ว่าเขามีลูกสองแล้ว ?

เก๋ : “หลังจากที่คบกันได้ประมาณปีนึง รู้ครั้งแรกก็ไม่ได้ช็อคอะไร ก็ปกติเพราะเขาก็อายุเยอะแล้ว ตอนนั้นเขาก็ 40 กว่าแล้ว”

แอนนา : “เขา 20 กว่า”

อะไรที่ทำให้มองข้ามสิ่งเหล่านี้ได้ ?

เก๋ : “ตอนที่ตัดสินใจว่าคนนี้เป็นคู่ชีวิต จริงๆคนเราก็มีความเสี่ยงกับการที่จะเลือกใครซักคน”

กลัวเขาจะมาหลอกไหม ?

เก๋ :ตอนแรกก็กลัวค่ะ กลัวว่าจะไปได้ไกลมั้ย นานมั้ย แต่อย่างที่บอกมันก็คือการเสี่ยงอย่างนึง”

อะไรทำให้เราข้ามความกลัวได้ ?

เก๋ : “เขาเป็นคนขยันเก็บเงิน เขาไม่เล่นการพนัน เขาทำงานได้ก็จะมาให้เราเก็บ”

เรื่องเจ้าชู้ไม่มีผลกับเรา ?

เก๋ : “เมื่อก่อนเราไม่ทราบเลยว่าเขาเจ้าชู้”

แล้วตอนคบกับเราสัมผัสได้ไหมว่าเขาเจ้าชู้ ?

เก๋ : “เขาเคยมีนะคะ เขาแอบเลี้ยงไว้ คือตอนนั้นเราไม่รู้หรอก จนความลับแตกว่าแอบไปเลี้ยงเด็กไว้ เราเลยไปย้อนคิดว่าช่วงเวลานั้นทำไมแปลกๆ อะไรนิดอะไรหน่อยก็โมโห”

แอนนา : “หาเรื่องออกนอกบ้าน”

ไม่ได้จับได้เลยอันนี้มารู้ทีหลังตอนเขาเลิกไปแล้วหรือว่าจับได้คาหนังคาเขา ?

เก๋ : อันที่จับได้ไม่ใช่เลี้ยงดู แต่อันที่จับไม่ได้คือรู้สึกได้แต่ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร เรามาคิดย้อนหลังว่ามิน่าตอนนั้นทำไมถึงเป็นแบบนี้ เวลาคุยโทรศัพท์ก็จะแกล้งเดินออกไปไกลๆ”

แล้วตอนนั้นตัดสินใจหยุดเมื่อไหร่ ?

แอนนนา : “หยุดตอนที่เขาจับได้ คือเรามีเขาแล้วเราไปมีอีกคนนึง แต่เราบอกกับอีกคนนึงว่าเรามีเมียแล้วนะ รับได้มั้ย ถ้ารับได้ก็โอเค ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ว่ากัน เขาบอกเขารับได้ แต่เราก็รับผิดชอบแค่ค่าอพาร์ทเม้นท์นิดๆหน่อยๆ ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย เรื่องราวมาแตกตอนไปถ่ายละคร คือเราเอามือถือเราฝากไว้กับเขา อีบ้านั่นดันไลน์มาว่าไม่จำเป็นต้องมาหาก็ได้ ต่างคนต่างอยู่ เขาอ่านแล้วรู้เลย แต่เขาไม่อยากเล่าให้เราฟัง เขากลัวเราเสียสมาธิ พอถ่ายเลิกกองขับรถออกมาๆได้สักแป๊ป เขาก็ถามเลยว่าไปทำอะไรมา เราก็ยังไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องแล้ว เราก็บอกว่าทำงานมาเหนื่อยๆอย่าเอาเรื่องปวดหัวมาให้ เขาก็บอกว่าให้รับมาเลยรู้หมดแล้ว สักพักเขาเอาข้อความให้ดูแล้วถามหายเหนื่อยหรือยัง ตอนนั้นหน้าซีดมันห่อเหี่ยว หน้าร้อนวูบวาบ”

แล้วตอบเขาว่าไง ?

แอนนา : พี่ผิดไปแล้ว พี่ขอโทษ”

เก๋ : “วีรกรรมตอนนี้เล่าแล้วขำแต่ตอนนั้นไม่ตลกเลย วีรกรรมที่พาเด็กเข้าห้อง”

ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ?

เก๋ : “ตอนนั้นเราบอกว่าจะกลับต่างจังหวัดสักอาทิตย์นึง ทีนี้ไม่รู้เป็นยังไงไปแค่ 3 วันแล้วกลับมา เราก็ไปเคาะห้องทำไมไม่เปิด พอไม่เปิดเราก็ไขกุญแจ เราเห็นแสงไฟอยู่ข้างในแต่ทำไมไม่เปิด เราก็เลยไขกุญแจประตูมันก็มีโซ่คล้องอยู่ มองเข้าไปวิ่งสวนสนามกันใหญ่เลย เพราะหาทางหลบไม่ได้ เราเห็นผู้หญิงกำลังกระโจมอกแล้ววิ่งข้างใน เขาก็ยังไม่เปิดประตูให้เรานะ เขาถามว่ามาทำไม เลยตอบกลับไปว่าห้องของกูทำไมกูจะมาไม่ได้”

ตอนนั้นที่โดนจับได้รู้สึกยังไง ?

แอนนา : รู้สึกผิดแบบมหันต์เลย เขาอุตส่าห์เปิดไฟเขียวให้ไปเที่ยวหมอนวดได้ แต่ห้ามเลี้ยงดู ด้วยความเสียดายเงินไง พาเด็กไปเที่ยวโรงแรมก็เสียดายตังค์ต้องเสียค่าโรงแรม จังหวะเมียไม่อยู่ 7 วัน พาไปที่ห้องก็ได้ แต่ไม่คิดว่าจะกลับมาก่อนกำหนด”

แล้วเรื่องจบยังไง ?

เก๋ : “เขาให้ผู้หญิงเข้าไปหลบในห้องน้ำแล้วให้ออกไปก่อน เขาก็บอกว่าออกไปก่อนได้มั้ย แล้วทำไมกูต้องออก มันต้องออก ถ้าหนูไม่ออกไปก่อนเขาจะไม่กล้าออกมาเพราะตอนนี้เขาอยู่ในห้องน้ำ เราก็รู้ว่าเด็กคงไม่ได้รู้เรื่องอะไร”

แอนนา : “เด็กก็ตัวสั่น อยู่ชั้น 4 จะโดดก็โดดไม่ได้ พอเด็กออกไปแล้วเขาเข้ามาเข้าก็ใส่เราชุดใหญ่เลยว่าเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามพาใครมา เตียงนี้สำหรับหนูกับพี่เท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์มานอนบนเตียง เราก็แถอีกว่าพี่ไม่ได้นอนบนเตียงพี่เอาผ้านวมปูข้างล่าง (หัวเราะ)”

เก๋ : “ตอนนั้นหนีไปประมาณเดือนนึงเลย คิดว่าเลิกเพราะว่ามันเกินไป นี่มันบ้านเรา แล้วเอาใครก็ไม่รู้มานอน”

หายไปเดือนนึงอะไรทำให้กลับมา ?

เก๋ : “คือน้องสะใภ้เขาโทรหา เราก็คิดว่าสงสารเขา เขาก็อายุเยอะแล้วคงไม่มีใครมาเริ่มต้นใหม่กับเขา ถ้าเข้ามาในชีวิตเขา ถ้าไม่มีตังค์คงไม่มีใครช่วยเขาทำมาหากิน”

ตอนนั้นง้อยังไง ?

แอนนา : ทำใจแล้ว 20 กว่าวันโทรไปเขาก็ไม่ติดต่อกลับมา สงสัยเขาไปจากชีวิตเราแน่ ก็ให้น้องสะใภ้โทรไปบิวท์ว่าเราไม่เป็นอันกินอันนอน จนจะครบเดือนนึงเราก็กลับบ้านปกติ เราก็ถอดเขี้ยวเล็บแล้วต่อไปไม่ทำแล้ว ถ้าสิ้นจากคนนี้คงไม่มีเมียแล้ว คงหมอนวดอย่างเดียวแล้วชีวิตกู คิดถึงความดีเขามาก เขาเป็นคนสู้ชีวิต เขาไม่เคยปริปากเลยว่าเหนื่อยกับเรา”

นอกจากเลี้ยงดูแล้วยังขอเงินไปอาบอบนวดอีกหรอ ?

แอนนา : “ถูกต้อง คือพี่สัญญาใจกันว่าคือพี่จะไม่เลี้ยงดูอีกแล้ว จะหมอนวดอย่างเดียว ถ้าหนูให้ไปพี่ก็ไป ถ้าหนูไม่ให้ไปพี่ก็ไม่ไป เขาก็พูดว่าถึงหนูไม่ให้ไป พี่แอบไปหนูก็ไม่รู้หรอก แต่ให้ไปหนูจะได้รู้เลยว่ายังไงพี่ก็ต้องไป แต่เขาคงคิดว่าแก่ๆอย่างเราคงไม่มีใครเอาหรอก ไม่มีตังค์ก็หมาตัวนึง”

ให้ตังค์ไปด้วย ?

แอนนา : “ให้ตังค์ไปด้วย ทีนึงก็ 4-5 พัน ปีนึงเราขอเขา 10 กว่าครั้ง เดือนละครั้ง สองครั้ง บางเดือนรายได้ดีหน่อยก็ขอเขาเดือนละ 2 ครั้ง ถ้ารายได้ไม่ได้ก็ขอเดือนละครั้ง แต่ที่ขอทุกครั้งก็ใช่ว่าจะไปเที่ยวทุกครั้ง ก็เริ่มเสียดายตังค์ ก็แอบเอาเงินเก็บ”

ตัดสินใจยังไงถึงให้เงินสามีไปเที่ยว ?

เก๋ : ถึงไม่ให้ไปเขาก็แอบไป ผู้ชาย 99% ต้องเที่ยว แล้วนิสัยเขาเรารู้อยู่แล้ว จริงๆก็ทำใจไม่ได้ แต่มันต้องทำ ก็รู้ซะเลยดีกว่าดีกว่าเขาแอบไป”

เห็นบอกว่าสามารถแอบเก็บเงินที่ไปเที่ยวหมอนวดบ้าง ขโมยบ้าง ซ่อนเมียบ้าง เก็บเงินได้เท่าไหร่ ?

แอนนา : “เป็นล้าน เขายังงงเลยว่าไปเก็บตอนไหน เป็นล้าน เงินที่เก็บได้ก็ไม่ได้เอาไปทำอะไรก็เก็บไว้ก๊อกสอง วันไหนที่ขอแล้วไม่ให้ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเอาไปนอกลู่นอกทาง ก็เก็บไว้เพื่อเขานี่แหละ อยากจะเซอร์ไพร์สเขา”

มีช่วงที่ตกต่ำบ้านก็ไม่มีเลย ?

แอนนา : “อันนั้นก่อนมีชื่อเสียง คือเราอยากมีบ้าน เช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่มาตลอดชีวิต เลยตัดสินใจซื้อบ้านในหมู่บ้านนึง ทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว ผ่อนไปได้ไม่กี่เดือนเกิดเศรษฐกิจฟองสบู่ รายได้ก็หดหายไป ก็มานั่งคิดกันว่าถ้ายังฝืนผ่อนต่อไปมันจะไม่ไหว จะหมดมากกว่านั้น เลยให้เขายึดไปบอกเขาว่าเราผ่อนไม่ไหว แล้วก็มีอยู่วันนึงเขาก็ร้องไห้เสียใจไม่มีบ้าน เราก็บีบมือบอกเขาว่าอะไรที่ไม่ใช่ของเรามันก็ไม่ใช่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป เดี๋ยวเรามาซื้อใหม่ก็ได้ เขาก็บ่นในลำคอว่าเสียดาย หลังจากนั้นก็ไปซื้อบ้าน ซื้อตอนที่เป็นแอนนาแล้ว”

ลำบากที่สุดในชีวิตคู่คือตอนไหน ?

แอนนา : “ตอนเปิดท้าย”

เก๋ : “ตอนนั้นตลกไม่มีคาเฟ่ให้เล่นแล้ว คาเฟ่ยุบหมดเลย ไม่มีงานทำ ก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ไปเปิดท้ายขายของตามหน้าห้าง แต่เราไม่มีเงินเก็บเลย ค่าเช่าวันนึงต่อล็อค 2×2 300 มั่ง 600 มั่ง 800 มั่ง บางวันขายไม่ได้ก็ต้องไปทุกวันเพราะมันเป็นอาชีพ มีอยู่วันนึงได้ค่าเช่าถูก 200 แล้วก็เหลืออยู่ 20 บาทติดตัวกัน 2 คน ยังไม่ได้กินข้าว ทำยังไงดี ก็จนกว่าจะขายเสื้อผ้าได้แล้วก็เอาเงินนั้นไปซื้อข้าว วันนั้นก็ขายได้แล้วก็ซื้อข้าวมาถุงนึงแล้วมาแบ่งกันกิน”

วันนี้มีทุกอย่างแล้ว อยากจะบอกอะไรกับเขา ?

แอนนา : “เรามองหน้ากันเราก็เข้าใจกันแล้ว ว่าเรามีความจริงใจให้เขา เราหมดเขี้ยวเล็บแล้ว”

เก๋ : “ถึงเขาจะไม่หยุด มันก็ต้องอยู่ด้วยกัน คงเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน ถ้าเราไม่อยู่กับเขาเราก็อาจจะดีกว่านี้นะ แต่เราก็นึกไปถ้าปล่อยเขาไปเขาก็จะลำบากนะ มันจะไม่มีใครมาดูแลเขาได้เหมือนเรา”

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง แอนนา ชวนชื่นและภรรยา

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5157451
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5157451