บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ร่ำไห้ลาออกจากร่วมกตัญญู ถามกลับผิดอะไรปกป้องสถาบัน


ให้คะแนน


แชร์

หลังจากที่มีกระแสดราม่าของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กับ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ ที่มีการพูดถึงประเด็นที่คนจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมกับย้ำว่าเยาวชนไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดการวิจารณ์ขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมีคนแปลสารที่ บิณฑ์ พูดถึงผิดไปจนเกิดการเข้าใจผิดว่า ตนเองจะไปตบเด็กที่ชูสามนิ้ว 

จากเรื่องนี้เอง บิณฑ์ ก็ได้ออกมาไลฟ์สดชี้แจงเรื่องที่ถูกต้องให้ได้รับทราบ พร้อมกับประกาศลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญูทันที เนื่องจากกลัวว่าทางมูลนิธิจะไม่สบายใจ จะโดนคนเข้ามาต่อว่าได้ ทั้งนี้ บิณฑ์ ได้บอกอีกว่า เคสไหนที่ตนเองรับปากจะช่วย ก็ยังคงช่วยเหลืออยู่ ในชื่อของ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เอง ไม่ขอเกี่ยวกับทางมูลนิธิใดๆ ทั้งสิ้น โดยได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดังนี้

มีคนหาว่าตนเองจะไปตบเด็กที่ชูสามนิ้ว ตนเองไม่มีความคิดอย่างนั้น ที่บอกว่าถ้าเจอต่อหน้าใครที่ยกนิ้วกลางให้ขบวนเสด็จฯ นั้น ตนจะตบให้จริงๆ ถ้าเป็นรถพ่อคุณแม่คุณขับมามีคนยกนิ้วกลางให้คุณจะทำยังไง ตนเห็นภาพนั้นแล้วโมโห เรื่องของเด็กก็ไม่เกี่ยวกับตนเอง อยากจะชูสามนิ้วกี่นิ้วก็เรื่องของเค้า เค้ามาเรียกร้องประชาธิปไตย มาเรียกร้องอนาคตของเค้า นั่นเรื่องของเค้า

ตนไม่เคยไปชุมนุมกับม็อบ ไม่เคยไปยุ่ง ไม่เคยขึ้นเวที มีเวทีเดียวคือเวทีสถาบันกษัตริย์ เพราะฉะนั้นอย่ามายุ่งกับตน ใครที่โยงว่าตนจะตบเด็กเกี่ยวกับเรื่องชูสามนิ้ว ให้เอาความจริงที่ข่าวเค้าเขียนกัน บอกว่าถ้าตนอยู่ในเหตุการณ์ที่ใครชูนิ้วเดียววันนั้นที่ขบวนเสด็จฯ ตนจะตบ ยอมติดคุก นี่คือเรื่องจริง

และอีกอย่างที่ไม่สบายใจ ณ ตอนนี้มากๆ องค์กรมูลนิธิร่วมกตัญญูโทรมามากมายเหลือเกิน ว่าไม่ต้องเข้าไปยุ่ง บอกตรงๆ ตนรัก เทิดทูนสถาบัน ถ้าไม่ให้ไปยุ่ง ไม่ให้ไปขัดขวางสิ่งชั่วร้ายที่จะทำลายสถาบัน ตนทำงานมูลนิธิมาทั้งชีวิต 34 ปีแล้ว ต้องขอโทษทางมูลนิธิ และเพื่อนร่วมงาน อาสาสมัครทุกคนที่เคยร่วมงานกันมาหลายปี เพื่อความสบายใจ ขอลาออกจากมูลนิธิตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะได้ไม่ต้องมากังวลเกี่ยวกับสถาบัน และทำให้คนมาต่อว่ามูลนิธิ

และตนจะใช้แค่ชื่อของ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ช่วยเหลือเคสทุกเคสต่อไป จะยังสู้ด้วยตัวของตัวเองเอง ทั้งนี้ บิณฑ์ ก็ได้ฝากถามกลับว่า ตนทำผิดอะไร

ซึ่งคนที่ได้ดูไลฟ์สดนี้ต่างเข้ามาให้กำลังใจ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เป็นจำนวนมาก.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1961975
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1961975