เหตุการณ์วันนั้นคือเรานัดกันไปเที่ยวที่เสม็ด ตอนแรกต่างคนต่างไป คิดว่าน่าจะไปกัน 10 กว่าคน พอไปถึงจุดพักรถ เราอยู่ในรถแล้วเพื่อนเปิดประตูมา ฉันไปคือมาเป็นรถทัวร์(หัวเราะ) ยิ่งใหญ่มากเพื่อน 30 กว่าคนอยู่ตรงนั้น เราก็เลยเซอร์ไพรส์สุดๆ เหมือนสมัยมหาวิทยาลัยที่เรานั่งรถทัวร์ไปเที่ยวกัน เป็นฟีลแบบนั้น

ส่วนโมเมนต์กลางคืนก็เยอะค่ะ ยังไม่มีเวลาลงรูปเลย พอไปถึงเพื่อนๆ เตรียมเสื้อทีมกันไว้ แล้วเสื้อเป็นหน้าเรา มีการจัดดินเนอร์ไว้ให้ เหมือนเพื่อนๆ ไปเตี๊ยมกันไว้กับทางรีสอร์ตว่าจะปิด เพื่อที่จะได้มีแค่พวกเรา และเสียงดังได้เต็มที่”

เราไม่รู้นะเรื่องที่เพื่อนๆ ทำเซอร์ไพรส์?

“ไม่รู้ว่าจะทำอะไรบ้าง เข้าใจว่าไปเที่ยวกันไม่กี่คน แต่เพื่อนบอกว่าเธอไม่ต้องทำอะไร มาสวยๆ พอ ด้วยนิสัยก้อย ถ้ารู้ว่าคนเยอะก็จะต้องเหมือนช่วยจัดงาน เพราะรีสอร์ตนั้นพี่ชายมีหุ้นส่วนด้วย เราก็จะมีความจัดแจงช่วยเหลืออะไรอย่างนี้

ปรากฏว่าเพื่อนก็บอกว่าไม่ต้องทำอะไรฉันติดต่อไปแล้ว พี่ชายเราก็ดูแลความเรียบร้อยให้เต็มที่ เพื่อนๆ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เราก็กลัวเพราะไม่ได้เที่ยวกันกลุ่มใหญ่ๆ แบบนี้ เพราะเดี๋ยวเราจะดูแลทุกคนได้ไม่ทั่วถึง ปรากฏว่าทริปนี้เพื่อนน่ารักมาก”

เพื่อนอยากให้เรามีความทรงจำที่ดีที่สุด?

“ใช่ คือ เพื่อนพูดแบบนี้ ขอบคุณนะ เพื่อนบอกว่าครั้งเดียวในชีวิต แต่งงานครั้งเดียวก็อยากให้เรามีความทรงจำที่ดีที่สุด พอแก่ตัวไปก็จะได้กลับไปบอกลูกหลานเราได้ว่าแม่มาปาร์ตี้สละโสดกับเพื่อนที่นี่นะ แต่ตอนนี้คือเพื่อนติดใจมากอยากนัดปาร์ตี้อีกรอบ อาจจะมีหลังงานแต่งและเลี้ยงขอบคุณเพื่อนๆ อีกครั้ง”

พี่ตูนเห็นคลิปแล้วว่ายังไงบ้าง

“ตัวเขายังไม่มีปาร์ตี้สละโสด เขาก็อยากมีนะ แต่ว่าด้วยความที่เป็นเพื่อนผู้ชาย เขาก็แบบผู้ช้ายผู้ชาย ไม่ค่อยมีฟีลโมเมนต์ซึ้งๆ เหมือนสาวๆ สักเท่าไหร่”

การเตรียมงานเป็นอย่างไรบ้าง?

“วันนี้ก็ถือว่าเป็นหนึ่งเดือนพอดี ส่วนตัวคิดว่าน่าจะโอเค โดยหากตีเป็นเปอร์เซ็นต์ก็คงอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์”

ส่วนตัวมีความกังวลในจุดไหนบ้าง เพราะชุดเองก็พร้อมแล้ว ?

“ยังไม่เห็นของจริง คือชุดออกแบบเสร็จหมดแล้ว เหลือแค่การฟิตติ้ง เชื่อว่าภายในเดือนนี้คงชุลมุนพอสมควร ในเรื่องของการเตรียมการทุกอย่าง คือเดือนที่ผ่านมาเป็นในเรื่องของการออกแบบ การเซ็ตติ้ง แต่เดือนนี้ต้องเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าเดิม ส่วนเรื่องการ์ดเชิญ ก็คงจะเดินสายเตรียมเรียนเชิญผู้ใหญ่มาร่วมงาน”

ในส่วนของ พี่ตูน มีความตื่นเต้นหรือเตรียมการอย่างไรบ้าง ?

“ค่ะ เขาน่าจะตื่นเต้นพอๆ กับเรา ตอนเเรกก็จะชิลๆ หน่อย พอใกล้มาจริงๆ ก็อาจจะเกิดความกังวลลึกๆ ว่าตรงนั้นตรงนี้จะออกมายังไง จะดีหรือเปล่า ทั้งนี้เราเองก็น้องปล่อยวางในบางส่วน ให้พี่ๆ ในทีมได้เข้ามาช่วย เพราะเขามาช่วยด้วยใจเราเห็นแล้วปลาบปลื้มมาก และมีประสบการณ์”

แอบมีทะเลาะหรือความเห็นไม่ตรงกันบ้างหรือไม่?

“ยังไม่มีค่ะ เพราะพี่ตูนให้เกียรติก้อยในการตัดสินใจ ถ้าเกิดมีอะไรที่ต้องเลือกเขาก็จะให้เราเลือก แม้ว่าใจลึกๆ เราเองก็อยากให้เขาเลือกนะ หรือบางทีอาจต้องมานั่ง อย่างก้อยกับพี่ตูนไม่มีพรีเวดดิ้ง ก็จะใช้เหมือนรูปในระยะเวลาตลอด 10 ปีที่ผ่านมาๆ ก็ต้องมีการเลือกรูป เราก็แบบเลือกๆ อยู่ แล้วมันเยอะ พี่ตูนเลยให้เราตัดสินใจเอง”

พี่ตูน เขามีบอกไหมว่าอยากได้อะไร?

“เอ่อ สิ่งที่เขาอยากได้นั้นคือตัวธีมนี้แหละค่ะ เพราะไอเดียทั้งหมดคือพี่ตูน เราเป็นคนเก็บรายละเอียด สิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในงานมาจากไอเดียของเขา เราจะดูในส่วนของดีเทล เป็นอะไรที่ค่อนข้างมีรายละเอียดเยอะพอสมควร

ในส่วนของธีมสวนสนุกโดยจะมีเกม หรือกิจกรรมให้เล่นเยอะภายในงาน อาจะไม่ถึงขั้นมีชิงช้าสวรรค์ แต่อาจจะมีการตกแต่งคล้ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของชำร่วยมีถึง 5 อย่าง”

ของชำร่วย 5 อย่างนี้มีอะไรบ้าง?

“ขออุบไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง การที่จะได้ของชำร่วยคล้ายๆ กับต้องเล่นเกมหรือฉลาก อะไรประมาณนี้”

มีเข้าคอร์สอะไรกันบ้างไหมช่วงนี้?

“ช่วงนี้ก็จะมีคอร์สในส่วนของการประชุม เตรียมงาน และก็แจกการ์ด โดยแขกทั้งนี้นหมดที่วางไว้ประมาณ 1,000 กว่าคน แต่ว่าไม่ทราบว่าวันจริงจะปริมาณมากน้อยแค่ไหน”

เรียกว่าเป็นงานยักษ์แห่งปี?

“สำหรับก้อยก็มองว่ามันใหญ่ที่สุดในชีวิต เพราะมันคือครั้งเดียวในชีวิตของก้อย โดยที่ทุกอย่างดูเหมือนจัดเต็มเพราะธีมงานตามที่พี่ตูนอยากได้ ตลอดจนธีมงานสวนสนุก เลยอยากให้ทุกคนที่มางานได้สนุกและได้รับบรรยากาศฟิลลิ่งเหมือนมาสวนสนุกจริงๆ “

งานดูอลังการ?

“อุ๊ย ต้องไปดูวันงานค่ะ เพราะก้อยเองก็ยังไม่เห็นว่าทั้งหมดจะออกมาเป็นยังไง ส่วนเรื่องงบประมาณต้องถามเขา(หัวเราะ) เพราะในส่วนนั้นก้อยเองไม่ได้เป็นคนดู ก้อยจะอยู่ในฝ่ายการจัดการ”

เรียกว่าก้อยเป็นคนเลือกพี่ตูนเป็นคนจ่าย?

“อันนั้นก้อยว่าอยู่ขั้นตอนสุดท้ายเลย แต่เราก็ช่วยกันเลือกว่าจะเอาอะไร ก้อยก็ดูในเรื่องที่อะไรไม่จำเป็นหรือมากเกินไป ก็จะช่วยดู (เรียกว่าเขาซัพพอร์ตเรื่องเงิน) ก้อยมองว่ามันเป็นงานของคนทุกคน เหมือนจะดูว่าเป็นงานของเราสองคน

แต่สุดท้ายมันเป็นงานขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่คอยสนับสนุน และรักเรา ทำให้พี่น้องครอบครัวของเราทั้งคู่ได้มาอยู่รวมกัน สุดท้ายแล้วมันไม่ใช่แค่ก้อยกับพี่ตูน แต่มันเพื่อทุกคนจริงๆ”

ย้อนถามถึงโมเมนต์ที่ทาง พี่ตูน ได้เต้นเพลงปูหนีบในระหว่างที่ได้ออกรายการรายการหนึ่ง?

“จริงๆ ต้องบอกว่าวันนั้นก้อยเองก็ต้องไปอัดรายการด้วย แต่ด้วยความที่ก้อยเองกำลังประชุมงานแต่งอยู่ พี่ตูนเลยเจอแจ็กพอต โดนเต้นปูหนีบไป มองตลกดี และเป็นเรื่องที่ดีที่เขาได้ปลดปล่อยบ้าง”

เขาเคยเต้นให้ดูไหม?

“ก็อยู่กันสองคน ก็มีโมเมนต์หลุดๆ บ้าง แต่เขาไม่เคยออกสื่อเต้นเเบบนี้ ซึ่งพอเห็นสเตปแล้วพูดได้คำเดียวไม่ผ่าน เอวต้องมามากกว่านี้”

มีส่งข้อความส่วนตัวไปแซวไหม?

“ไม่ค่ะ เพราะตอนท้ายเราก็มาเจอกันที่สตู แค่มีถามว่าเจออะไรบ้างวันนี้ แค่นั้น”.