โฟกัสสิ่งที่ถูกต้อง นุชี่ เรียกร้องให้สมาคมผู้กำกับหนัง มีจริยธรรม จรรยาบรรณ


ให้คะแนน


แชร์

วงการหนังไทยไม่ได้พัก มีเรื่องให้ปวดร้าวฤดีแสนสาหัสไปแล้ว ผู้กำกับหนังสุดเฉียบยิ่ง มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล และ นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ ผู้กำกับสุดปัง จากหนังเรื่อง อนธการ The Blue Hour, มะลิลา Malila The Farewell Flower

ทั้งสองผู้กำกับดัง ได้ประท้วงแรงผ่านโซเชียล ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวลาออกแล้ว จากการเป็นกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย Thai Film Director Association เหตุผลหลักๆ มาจากที่ กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ผู้กำกับหนังดัง ถูกให้พ้นสมาชิกภาพจากการเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในคดีถือหุ้นสื่อ

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปคุยลึกๆ ถึงเหตุผลต้องลาออก จากกรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ของผู้กำกับหนังดัง นุชี่ อนุชา บุญยวรรธนะ

ลาออกแล้วจาก กรรมการสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย? “ใช่ค่ะ แต่ยังเป็นสมาชิกของสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทยอยู่ ไม่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิก” คณะกรรมการตอนนี้มีอยู่กี่คน? “ประมาณ 9 คนค่ะ คือเรามีความเห็นไม่ตรงกัน คณะกรรมการบางท่านก็เห็นด้วย บางท่านก็ไม่เห็นด้วย” แล้วตอนนี้ สมาชิกของสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย มีอยู่กี่คน? “กว่าร้อยคนได้ค่ะ”

นุชี่ได้คุยกับกอล์ฟ ธัญญ์วาริน แล้วหรือยัง? “ยังไม่ได้คุยกับพี่กอล์ฟ คิดว่า เขาขอเวลาทำใจสักพัก ที่ผ่านมาเขาตั้งใจจริงในการทำหน้าที่ ส.ส. เพื่อเข้าไปพัฒนาวงการบันเทิง เพื่อไปเรียกร้องสิทธิของชาว LGBTQ (กลุ่มเพศทางเลือก)”

“เนื่องจากกฎหมายของสื่อตอนนี้ มีทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ ฯลฯ แต่ว่าไม่มีพระราชบัญญัตินิยามสื่อตรงนี้ ซึ่งยังไม่ทันสมัย การนิยามไม่ชัดเจน จะเป็นช่องว่างให้ตีความ เป็นเครื่องมือที่โจมตีอีกฝ่ายหนึ่งหรือเปล่า เอื้อประโยชน์ให้อีกฝ่ายหนึ่งหรือเปล่า เราคนทำสื่อ แบ่งการทำงานได้หลายขั้นตอน เรารับจ้างทำงาน ไม่ใช่เป็นเจ้าของเผยแพร่สื่อ เราไม่ได้เป็นผู้ผลิตสื่อ เราเรียกร้องให้มีการนิยามสื่อที่เท่าทันต่อยุคนี้ด้วย เราต้องการเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาบ้านเมือง กฎหมายควรรให้มีความเป็นธรรมตรงนี้ด้วย” 

“ปัจจุบันไม่ได้แบ่งแยกที่ละเอียดมากพอ ทำให้ตีความว่าอันนี้อันนั้นก็เป็นสื่อ มีผลต่อผู้คน เรารับจ้างผลิต คนจ้างเรา เราไม่ใช่เจ้าของบริษัทสื่อ เรารับจ้างผลิต เราทำหนังทำละคร ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง เราทำงานด้านศิลปวัฒนธรรม การสร้างสรรค์เท่านั้นเอง มันน่าเสียดายมาก ที่คนในแวดวงเรา ไม่ได้เข้าไปพัฒนาวงการเมือง ควรเปิดโอกาสให้คนในวงการหนัง ได้เข้าไปทำงานการเมืองด้วย”

เหตุผลจริงๆ ที่นุชี่ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการ สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย? “เราทำงานมา 2 ปีแล้ว ทำงานด้วยหลายอย่าง เช่น ต่อรองกับรัฐช่วงโควิด เรื่องการของกองถ่าย งานเสวนา มีความรู้สึกต่อกัน ลาออก ต้องการประท้วง บางกรณีที่ ยืนหยัดหลักการ อิสระ ที่รัฐบาลมาคุกคามการทำหนังของเรา เช่น การเซนเซอร์ ฯลฯ ทางสมาคมฯ ทางผู้ใหญ่ไม่อยากให้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง จริงๆ เรา take action ได้ มันไม่ใช่การเมือง 100% อยากให้ยืนยันหลักการที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้

“อยากให้ทางสมาคมฯ คิดถึงจรรยาบรรณ จริยธรรม อย่างมีเคสที่ประชาชนโดนหลอกว่าจะได้เล่นหนัง สุดท้ายก็ไม่มีการสร้างหนังจริง เราก็เคยเข้าไปช่วยเหลืออยู่ ในหลายๆ เรื่อง เราควรอธิบายชี้ให้กับสังคม เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหากับทางสมาคมฯ

“สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ต้องมีความกล้าหาญ ยืนหยัดในหลักการที่ถูกต้อง แต่ส่ิงที่เราเสนอไป ไม่ได้รับการตอบสนอง เรื่องเหล่านี้สังคมควรได้รับรู้ เผื่อจะทางสมาคม และประชาชนจะได้คิดและรับรู้ต่อไป” 

หลังจากนี้นุชี่ จะออกไปตั้งสมาคมใหม่? “(รีบพูด) ไม่ค่ะ ที่เราออกมาเราไม่ได้มุ่งหมายไม่ได้ตั้งใจโจมตีองค์กรนะ ไม่ใช่ค่ะ ต่อไปเราอาจจะไปช่วยงานที่ฟรีไทยซิเนม่ามูฟเมนท์ Free Thai Cinema Movement ซึ่งมีมานานแล้ว ที่โฟกัสมาตลอดเกี่ยวกับเรื่องการแบนหนัง”

ตอนนี้ใครเป็นนายกสมาคม ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย? “พี่ปื๊ด (ธนิตย์ จิตต์นุกูล) เป็นนายก มา 2 ปี กำลังจะหมดวาระ 2 ปี ทางสมาคมฯ กำลังจะเลือกนายกคนใหม่อยู่ค่ะ ซึ่งคนที่จะมาเป็นนายกสมาคมฯ ควรจะชี้นำสังคมในสิ่งที่ถูกที่ควร โฟกัสที่หลักการ การกระทำ เราต้องตัดสินใจ ไม่งั้นเราก็จะไม่ไปไหนสักที” มีคนแนะนำให้นุชี่ไปสมัครชิงนายกสมาคม ผู้กำกับภาพยนตร์ไทย หรือไม่อย่างไร? “ก็มีคนมาแนะนำให้เป็นนายกสมาคมฯ เหมือนกัน แต่ขอปรึกษาหลายๆ คนก่อนค่ะ” 

ยังมีหลายองค์กร หลายๆ บริษัทมีความคิดที่ว่า อย่าไปยุ่งเลยการเมือง? “เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ การเมืองมีส่วนได้ส่วนเสียกับทุกคน จะเข้ามาหาเราทุกคนไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง

ตอนนี้ยังมีหลายคนยังโดนจับยัดเข้าคุก เช่น รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก, ทนายอานนท์ นำภา ฯลฯ เพราะพูดตรงคิดต่าง คิดอย่างไรบ้าง? “จริงๆ ฟรีดอมออฟสปีช freedom of speech เสรีภาพด้านการพูด ไม่ควรจะจับใครเข้าคุก ที่แสดงความคิดการเมือง ควรรับฟังกันมากกว่า ยิ่งจับยิ่งกด ความคิดก็ไม่ได้หายไป ไม่ใช่การแก้ปัญหา ควรรับฟัง มีเวทีสื่อเป็นหลักในการพูดคุย สังคมเลิกยึดมั่นถือมั่นในความคิดเดิมๆ เด็กเยาวชนจะมาแทนที่พวกเราเนอะ พวกเรายิ่งต้องรับฟังเป็นอย่างยิ่ง”

ต่อไปนุชี่ อยากจะไปทำงานการเมือง ลงสมัคร ส.ส. ด้วย? “อ๋อ ไม่ ไม่ค่ะ ส่ิงที่เราคิดว่าทำได้ดีในตอนนี้ ก็ทำงานภาพยนตร์มากกว่า อนาคตไม่แน่ ถ้าเรามีโอกาสจังหวะเหมาะ อาจจะเข้าไป ส.ส. ก็เป็นไปได้”.

อ่านเพิ่มเติม…

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1964980
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1964980