ไม่มีช่อง 3 ไม่มี “กาละแมร์” พิธีกรดังแจงปมโดนปลดจากช่อง เข้าใจที่ช่องตัดสินใจแบบนี้


ให้คะแนน


แชร์

ไม่มีช่อง 3 ไม่มี “กาละแมร์” พิธีกรดังแจงปมโดนปลดจากช่อง เข้าใจที่ช่องตัดสินใจแบบนี้

วันที่ 31 ต.ค. 2563 เวลา 11:02 น.

“กาละแมร์” แจงปมโดนปลดจากช่อง 3 เผยเป็นพนักงานรับเงินเดือนมาตลอด 23 ปี เข้าใจที่ช่องตัดสินใจแบบนี้

เป็นอีกหนึ่งข่าวที่กำลังเป็นที่ฮือฮากันเลยทีเดียว สำหรับกรณีข่าวที่ช่อง 3 ได้ปรับลดพนักงานอีกระลอก ซึ่งในครั้งมีชื่อของพิธีกรชื่อดัง “กาละแมร์-พัชรศรี เบญจมาศ” รวมอยู่ด้วย ทำเอาหลายคนอยากรู้ว่าใช่เรื่องจริงหรือไม่ แล้วทำไมพิธีกรสร้างชื่อให้ช่องขนาดนี้ถึงถูกปลด

โดยล่าสุดทาง “กาละแมร์” ได้ออกมาแจงปมที่เกิดขึ้นผ่านอินสตาแกรมส่วนตัวแล้วว่า เธอนั้นเป็นพนักงานช่อง 3 มา 23 ปี รับเงินเดือนเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป หากมีการอ่านข่าว เช่น รายการผู้หญิงถึงผู้หญิง การอ่านข่าวเบรก ตนก็จะได้เงินพิเศษจากตรงนั้นด้วย ส่วนรายการ 3 แซ่บ หรือรายการเทคมีเอ้าท์ ตนก็ได้รับเงินพิเศษจากผู้จัดรายการนั้นๆ

และในช่วงที่ผ่านมาประมาณ 4 ปีกว่า เธอรับเงินเดือนทุกเดือนมาโดยตลอดจนถึงทุกวันนี้ แต่เธอนั้นไม่มีโอกาสไปช่วยงานช่อง โดยเฉพาะฝ่ายข่าวและเธอเองเป็นพนักงานฝ่ายข่าว สมัครงานมาด้วยตำแหน่งนี้ตลอด แต่ส่วนใหญ่จะทำรายการเป็นส่วนมาก ไม่ค่อยเข้าช่อง ปีหนึ่งจะช่วยงานช่องสักครั้งสองครั้ง เช่น งานฟุตบอล งานพบสื่อ งานปาร์ตี้ งานครบรอบช่อง นอกจากนั้นก็ไม่ได้เข้าเลย นอกจากนั้นก็มีคุยเรื่องการทำรายการเช่น ซุปเปอร์แมร์ ที่ช่องเมตตา และให้ตนได้ทำ อนาคตอันใกล้ก็มีโอกาสจะได้คุยโปรเจกต์ต่อไป

อีกทั้งในยุคนี้โฆษณาเข้าน้อยลง และยิ่งช่วงโควิด-19 ก็เข้าใจในสถานการณ์ที่ช่องเผชิญ ดังนั้นถ้าจะต้องมีการลดค่าใช้จ่าย อะไรที่สามารถตัดได้ ตนเข้าใจในการตัดสินของช่อง 3 เป็นอย่างยิ่ง

และถ้าไม่มีช่อง 3 ก็ไม่มี “กาละแมร์” ตลอดระยะเวลา 23 ปี ของการเป็นพนักงานช่อง 3 ก็เกินครึ่งชีวิต ช่อง 3 เหมือนครอบครัว เจ้านายเหมือนพ่อแม่ ทีมงานเพื่อนร่วมงานเหมือนพี่น้อง เจอหน้ากันใครก็ยิ้มแย้มสนุกสนาน ช่องให้ความช่วยเหลือมาตลอด และถ้าจะไม่ได้เป็นพนักงานช่อง 3 แล้ว ถ้าวันไหนทางช่องอยากเรียกใช้ ก็ยินดีเสมอ ยืนยันว่าไม่มีการย้ายช่อง

ทางช่องได้เล็งเห็นว่าเรานั้นเติบโตขึ้น มีธุรกิจ ลงแรงลงใจกับมันไปเยอะ จริงจังมาก ดังนั้น เมื่อช่อง 3 เห็นการเติบโตที่แข็งแรงของ ก็อาจจะคิดแล้วว่าเด็กคนนี้น่าจะไปรอด ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม ช่อง 3 เป็นครอบครัวตนเสมอ เมื่อไหร่เมื่อนั้น มองตาก็รู้ใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเราก็ติดตามกันได้เสมอ หน้าจอยังมี 2 รายการให้ติดตาม และสามารถติดตามกันได้ในโซเชียลมีเดีย ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.posttoday.com/ent/news/636908
ขอขอบคุณ : https://www.posttoday.com/ent/news/636908