บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง วันนี้ไปเป็นประธาน ถวายผ้ากฐินที่วัดป่าพรหมยาน อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา และได้เปิดเผยถึงกรณีที่จะมีการรวมตัวไปรับเสด็จ ที่หน้าวัดพระแก้ว ในวันพรุ่งนี้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าให้เหตุการณ์ต้องลุกลามบานปลายไปมากกว่านี้

ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยคน เพื่อนหน้าแฟนเพจตน 8 ล้านกว่าคน และคนกดติดตามอีก 9 ล้านคน ให้ออกมาเฝ้าฯ รับเสด็จ และให้กำลังใจพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี 

โดยวันพรุ่งนี้ ตนจะไปถึงประมาณ 14.00 น. อยากไปพูดคุยกับพี่น้องประชาชนที่มารอรับเสด็จร่วมกัน ให้รู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องออกมา ออกมาด้วยความสันติ ส่วนเรื่องสีเสื้อ ที่มีหลายคนกังวล บางคนอยากออกไป แต่ไม่ชอบรัฐบาล ไม่อยากใส่เสื้อสีเหลือง

ตนคิดว่า มีแต่คนเสื้อเหลืองเท่านั้นเหรอที่รักสถาบัน ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเหลือง จะใส่สีแดง สีขาว สีชมพู สีเขียว สีอะไรก็ออกมาได้ ให้เป็นหลากสี สีแห่งความสามัคคี เทิดทูนสถาบัน แต่ยกเว้นสีดำ

ส่วนจะมีดาราออกมาร่วมในวันพรุ่งนี้หรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ แต่เห็นใจดาราหลายคน ที่จะออกมาปกป้อง หรือทำสิ่งดีๆ ก็กลัวทัวร์ลง หรือไปคุกคาม

แต่ถ้าดาราหรือศิลปินไม่ว่าค่ายไหนก็ตามจะออกมาช่วยกันเยอะๆ ปกป้องพระองค์ท่าน ตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี ส่วนที่ทัวร์ลงตนนั้นไม่ใช่ทัวร์แต่เป็นรถแห่ ทุกวันนี้ตนทำแต่สิ่งที่ดีซึ่งมีประชาชนสนับสนุน ส่วนที่ตั้งฉายาให้ตนว่านักบุญทุนชาวบ้าน คำนี้ตนชอบ

นอกจากนี้ บิณฑ์ ยังระบุอีกว่า ตนไม่เคยมีเรื่องกับใครไม่เคยด่ารัฐบาลไม่เคยด่ากลุ่มผู้ชุมนุมนักศึกษา แต่ที่ทนเห็นมันไม่ใช่แค่ชู 3 นิ้ว แต่มีบางกลุ่มที่จาบจ้วงและเหิมเกริมไปกันใหญ่ แสดงความไม่เหมาะสมต่อขบวนเสด็จฯ สมเด็จพระราชินี จึงรู้สึกว่าทนไม่ได้แล้ว และยืนยันว่าตนไม่ได้มาโหนเจ้า เพราะตนทำมานานแล้ว

ส่วนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้สนิทกับตน แต่เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วตนนับถือพลเอกประยุทธ์ เพราะพลเอกประยุทธ์รักในหลวง แค่นั้น เรื่องส่วนตัวที่บริหารราชการแผ่นดินตนก็ไม่เคยยุ่ง

พลเอกประยุทธ์ก็ไม่เคยมาช่วยอะไรตน ซึ่งตนคิดว่าถ้าใครรักในหลวงคนนั้นก็เป็นมิตรกับตน แต่ไม่ได้ประกาศเป็นศัตรูกับใครแค่อยากปกป้อง ไม่มีการเมืองแอบแฝงไม่มีใครหนุนหลัง

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า ตนได้ไปพูดคุยกับอดีตพระพุทธะอิสระ ยืนยันว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว เคยแต่ได้ยินชื่อ แต่เมื่อวันก่อน อดีตพระพุทธะอิสระได้ให้เลขาโทรมาหาตน ทีแรกตนไม่รับสายเพราะเป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกชื่อไว้

จนเลขาของอดีตพระพุทธะอิสระส่งข้อความมาบอกตนจึงโทรกลับไป ซึ่งอดีตพระพุทธะอิสระระบุว่า จะมาร่วมรับเสด็จพร้อมกับตนโดยจะนำประชาชนมาประมาณ 4,000-5,000 คน เรื่องทั้งหมดมีเท่านั้น แต่ดันนำตนไปโยงกับการเมืองหาว่าตนเข้ากับพุทธะอิสระ ตนจะยืนหยัดทำสิ่งที่ถูกต้อง ขอให้คนไทยทุกคนออกมาแสดงพลังปกป้องสถาบัน

ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่าตนจะตบเด็กขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง มีสื่อนำไปบิดเบือน ที่ตนพูดด้วยความโมโหวันนั้นคือหมายถึงคนที่ชูนิ้วใส่ขบวนเสด็จฯ ซึ่งถ้าตนอยู่ตรงนั้น บอกว่าจะตบคนนั้น แต่ถ้าไปอยู่จริงก็คงไม่ทำ

สำหรับเครื่องที่ตนขอลาออกจากมูลนิธิร่วมกตัญญู ยืนยันว่าได้ลาออกจริง เพราะไม่อยากให้มูลนิธิต้องมาเดือดร้อน จากการที่มีหลายคนเข้ามาด่าและแสดงความเห็นบอกว่าจะไม่ร่วมบริจาคให้กับมูลนิธิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ

แต่สักวันหนึ่งหากตนทำภารกิจสำเร็จและกอบกู้ในสิ่งที่เกิดจะเสียไป แต่ตอนนี้ให้กลับมาเหมือนเดิม ตนจะไปกราบมูลนิธิเพื่อขอสมัครเป็นอาสาใหม่ หรือคุณอาจจะไปช่วยเหลือประเทศชาติมากกว่านั้น แต่หากตนไปอีกขั้นหนึ่งสามารถช่วยประชาชนได้แบบมหาศาลตนก็จะทำ ทั้งนี้ บิณฑ์ ยังบอกอีกว่า ตนเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีต่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์.