“หลุยส์ สก๊อตต์” เลิฟซีนดุเป็นเหตุ “นุ่น” งอนจริง “ทายาท” ขอปล่อยตามธรรมชาติจัดสรร


ให้คะแนน


แชร์

คอมเมนต์ก็มารัวๆไม่พักสักตอน “ผมดูแต่สื่อของผมเลย ไม่ได้ไปอ่านคอมเมนต์ที่ไหน แต่คนจะเล่าให้ฟังเยอะ แต่ได้ยินบ่อยๆ คือเลว (หัวเราะ) แต่ในสื่อของผมก็จะเป็นมุมแซว เพราะเค้าซัพพอร์ตเราอยู่ แต่ใครที่เมนต์โกรธจริงจัง ผมก็แล้วแต่เลย แต่มองให้เป็นมุมบวก คนเกลียด แปลว่าเล่นดี”

บทแนวนี้ท้าทายแค่ไหน

“เป็นอีกหนึ่งความยาก แต่มากกว่ายากคือเหนื่อยมาก เล่นแต่ละวันที่เป็นซีนอารมณ์คือสูบพลังไปหมด เพราะจุดเปลี่ยนในชีวิตเค้าเยอะ มีสถานการณ์ต่างๆเข้ามาตลอดเวลา เรื่องความรักมีอิทธิพลกับตัวละครนี้มาก การปะทะทั้งคำพูด หรือการกระทำ ยังไม่เหนื่อยเท่ากับระดับอารมณ์ที่เราต้องแสดง เพราะเลเวลมีแต่จะแรงขึ้น ทำให้เรากับพี่แมน ผู้กำกับ ต้องวางแผนในการแสดงอารมณ์ ใส่สุดหมดเลยไม่ได้ เพราะในบทจะมีสถานการณ์ที่สุดกว่านี้อีก หน้างานก็มาปรับกันไปตามเรื่องราว เพิ่มบ้าง ลดบ้าง ซึ่งผมชอบ มันทำให้ตัวละครนี้ว้าวสำหรับคนดูที่คิดว่าหนักแล้ว อาจจะเจอเซอร์ไพรส์กว่า”

อินหนักถึงขั้นติดคาแรกเตอร์นี้เลย “มีครับ บางวันที่ถ่ายซีนอารมณ์หนักๆ แล้วย้ำอยู่ตลอด อารมณ์มันฝังติดกับเรา กลายเป็นว่าแอบหงุดหงิด บางทีโดนอะไรนิดหน่อย ความโกรธมันโดดขึ้นมาเลย อารมณ์ข้ามขั้นไป 10 เลยก็มี พอเรารู้ตัวก็ดึงเวลาให้อยู่กับตัวเองคนเดียวก่อน ให้เวลาช่วยผ่อนลง”

เล่นกับวาววา–ณิชชา คนพูดถึงเยอะ

“ผมรู้จักกับน้องตั้งแต่เรื่องซิกซ์เซ้นส์ ซึ่งนานมาก มาเรื่องนี้ พัฒนาการของน้องคือเซอร์ไพรส์ ผมว่าคาแรกเตอร์เค้าเล่นยากสุดในเรื่องแล้ว เพราะต้องเจอกับแทบทุกตัวในเรื่อง อารมณ์ที่เค้าต้องแสดงกับแต่ละคนก็ต่างกัน ความจำเค้าต้องดีมาก กับนักแสดงคนอื่น โป๊ป เบลล่า แม่ตุ๊ก ก็จะคุ้นเคย เพราะเล่นด้วยกันมาแล้ว รู้จังหวะการเล่น รู้สไตล์การรับส่งอารมณ์ เวลาเข้าฉากด้วยกัน ฉากปะทะคือสุด สนุกมาก”

เลิฟซีนก็แซ่บ

“(หัวเราะ) ก็คุยกันก่อนว่าเอาเท่าที่น้องไหว เค้าเป็นผู้หญิง ยังไงก็เสียมากกว่าผู้ชาย บทแบบนี้เราต้องให้เกียรติ และให้ความสบายใจกับคู่เล่นเราด้วย ซึ่งผู้กำกับต้องการแบบไหน ในฐานะนักแสดงผมสามารถเล่นให้ได้ แต่ก็ในภาพที่เหมาะสม แล้วให้ผู้กำกับตัดสินใจ เคลียร์กับน้องว่าได้มั๊ย ต้องย้ำว่า น้องเล่นแล้วสบายใจ ซึ่งก็เซฟกันอย่างดีอยู่แล้ว อันไหนหลบมุมได้ก็ทำ แต่ถ้าอยากให้อารมณ์ของฉากนั้นได้ เล่นจริง ก็ขอเทกเดียวให้จบ”

ช่วงละครออน นุ่น-รมิดา เอฟซียืนหนึ่ง ถึงขั้นโพสต์แซวหลุยส์ตลอด

“แรกๆไม่รู้แซวหรือจริง (หัวเราะ) แต่ปฏิกิริยาเปลี่ยนไป ผมก็รู้สึกว่า จริงแล้ว (หัวเราะ) เพราะเค้าพูดว่า ถ้าผมเล่นออกมาได้ขนาดนี้ ลึกๆแล้วผมมีความเป็นภมรอยู่ในตัวเอง ซึ่งผิดมั้ย ก็ไม่ได้ผิด แต่ไม่ได้แปลว่าผมเจ้าชู้แบบในละคร ผมว่าทุกคนมีความเจ้าชู้อยู่แล้ว แต่เราจะทำในสิ่งที่เราคิดรึเปล่า แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น ช่วงละครออนแอร์ก็อาจจะเป็นช่วงงานเข้าของผม (หัวเราะ) เพราะเค้าไม่เข้าห้องนอน ผมก็ตามง้อ เค้าโกรธจริง พูดอะไรไม่ตอบ เหมือนผมเป็นอากาศ หรือตอบสั้นๆห้วนๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะหมั่นไส้อยู่ เหมือนไม่ได้ยินเราเลย หลังจากนี้ ทุกวันจันทร์ อังคาร ตอน 20.20 น. ผมจะพาไปข้างนอกเลย แต่ข้างนอกก็เปิดอีก (หัวเราะ) ไม่น่ารอด”

ได้นั่งดูด้วยกันมั้ย “ไม่มีทางครับ มันจะมีผลกับเราทันทีเลย เรียกว่าฉากแบบนี้ออกปุ๊บ ผมน่าจะโดนปั๊บเลย (หัวเราะ)”

หลังจากนี้เลือกรับบทแนวนี้มากขึ้น

“ผู้จัดการคนใหม่ผม (นุ่น) เค้าบอกเลย เรื่องหน้าจะรับบทอะไร ขออ่านบทด้วยว่าเยอะแค่ไหน อาจจะไม่ค่อยได้เล่นแล้วล่ะ คงแบนเลย (หัวเราะ)”

ชีวิตหลังแต่งงานเป็นยังไง

“ดีครับ เราตื่นมาก็จะคิดทุกวันว่า แต่งงานแล้ว จะดูแลเค้ายังไง วางอนาคตยังไง คิดเผื่อคนข้างๆเยอะขึ้น ก็เริ่มทำแล้ว ซื้อบ้านให้ครอบครัว กำลังตกแต่งอยู่ เรื่องงบก็พอประมาณ คำว่าครอบครัวสำคัญสำหรับผมมาก ถ้าเรามีพื้นฐานดี ทุกอย่างจะดี”

รู้สึกชีวิตสมบูรณ์ขึ้น “เป็นการเริ่มต้นของคนสองคนมากกว่า ถึงจะคบมาเป็นสิบปีก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป ไม่ได้มองแค่เรื่องตัวเอง มองถึงอนาคตด้วย อย่างตอนนี้ผมคุยกับนุ่นว่าถ้าส่งลูกเรียนอินเตอร์ นุ่นก็ต้องเพิ่มเรื่องเรียนรู้ขึ้นอีก คือเรียนภาษาอังกฤษ จะได้สื่อสารได้เข้าใจมากขึ้น ตอนนี้เค้าก็อ่านหนังสือภาษาอังกฤษทุกวัน มันมีความเปลี่ยนแปลงในชีวิต เพราะเรามองอนาคตร่วมกันมากขึ้น”

โครงการมีลูกไปถึงไหนแล้ว

“ขอไปตามธรรมชาติ ไม่ตั้งความหวังมากไป เพราะร่างกายจะเครียด ตอนนี้ก็เช็กร่างกายแล้ว แข็งแรงทั้งคู่ ถามว่านุ่นเค้าตั้งใจมั้ย ก็มีความตั้งใจสูง ทุ่มเทกับเรื่องนี้ แต่มากไป เครียดไป มันส่งผลกับร่างกายหมด ผมจะคุยกับเค้าตลอด”

กดดันมั้ย “ถ้ากับ ครอบครัวผมเคลียร์กับทั้งสองครอบครัวก่อนเลย เรื่องนี้ไม่อยากให้เร่ง”

เห็นนุ่น หลุยส์ เดินสายทำบุญ ขอลูกมั้ย “ทำบุญกันตลอดอยู่แล้ว แต่ที่ไหนที่เค้าว่าได้เรื่องลูก นุ่นเค้าก็ไป ซึ่งผมก็ไปด้วย เค้าก็มีขอเรื่องนี้”

ถ้ามีลูกอยากให้นุ่นหยุดทำงานมั้ย “ก็อยากให้นุ่นหยุดทำงาน เพราะอยากให้ดูแลลูก ดูแลบ้าน ผมอยากให้นุ่นเลี้ยงลูกเองในวัยเด็กของลูก เค้าควรจะซึมซับ ผูกพันกับพ่อแม่มากกว่าการติดพี่เลี้ยง เราดูแลเอง ผมว่าอุ่นใจ พ่อแม่คือเกราะป้องกันคุ้มครองลูกที่ดีที่สุดแล้ว”

มองอนาคตยังไง

“อยากมีครอบครัวใหญ่ขึ้น ก็มองเรื่องการมีลูก มองเรื่องธุรกิจส่วนตัว เพราะเราเป็นนักแสดงตลอดไปไม่ได้ ทุกอย่างมีช่วงเวลาของมัน มีคลื่นลูกใหม่เข้ามา การทำงานของเราก็ต้องเปลี่ยนไปตาม ด้วยบท ด้วยอายุ ด้วยการพัฒนา เป็นไปตามวงจร งานในวงการเอาแน่นอนไม่ได้”.

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1971141
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1971141