แอฟ ทักษอร เคลียร์ หลัง ปู่ไพวงษ์ ทิ้งระเบิด ถูกมองกีดกันลูกสาวจากครอบครัว สงกรานต์


ให้คะแนน


แชร์

แอฟ ทักษอร เคลียร์ หลัง ปู่ไพวงษ์ ทิ้งระเบิด ถูกมองกีดกันลูกสาวจากครอบครัว สงกรานต์

วันที่ 25 พ.ย. ที่ ลานเซ็นทรัลคอร์ท ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แอฟ ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ คุณแม่คนสวย ควง น้องปีใหม่ ลูกสาวสุดที่รัก มาร่วมเปิดนิทรรศการ “Celebrate Magic” โดยความร่วมมือของ เดอะ วอลท์ ดิสนีย์ ประเทศไทย และ ช้อปปี้ ประเทศไทย

หลังกิจกรรมเสร็จสิ้น แอฟ ทักษอร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่พูดในรายการหนึ่งว่าจะไม่มีแฟนแล้ว รวมถึงดราม่าที่คุณปู่ไพวงษ์คอมเมนต์ตอบชาวเน็ตถึงเหตุผลที่ไม่ได้ไปให้กำลังใจ น้องปีใหม่ ในงานต่างๆ เพราะไม่ได้รับการแจ้งคิวทางฝั่งอดีตลูกสะใภ้

ก่อนหน้านี้กระแสละครดีมาก แฟนๆ เลยถามว่าหลังจากนี้จะมีละครให้ชมกันต่ออีกไหม?
“มีค่ะ มีแน่นอน ยังอยากจะขอให้ดูกันอีกนะคะ(หัวเราะ) ถามว่าจะต้องเลือกมากกว่าเดิมมั้ยในความที่มีประสบการณ์มา จริงๆ แอฟว่ายากสุดน่าจะเป็นเรื่องแรกที่เรากล้าที่จะก้าวออกมาคือ ขอเกิดใหม่ใกล้ๆ เธอ เนี่ยแอฟว่าน่าจะเป็นสเต็ปที่ยากที่สุดแล้ว เพราะว่าหยุดไปนานพอจะก้าวออกมาอีกทีอันนี้น่าจะยากที่สุด หลังจากนี้ก็คงหลักการคล้ายๆ เดิม ดูเรื่องที่คิดว่าเหมาะสม”

เรื่องใหม่กับทางช่องเดิมไหม หรือว่าจะได้เห็นในที่ใหม่?
“ยังไม่แน่ใจค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนลงตัวที่สุด ถามว่าละครเรื่องต่อไปมีแพลนในใจบ้างหรือยัง มีคุยๆ กันอยู่ค่ะ แต่ว่ายังไม่ได้ไฟนอลค่ะ”

ตอนนี้ก็ฮอตทั้งคุณแม่และลูกสาว?
“ลูกสาวเหรอ ลูกสาวแค่รับเชิญค่ะ อยากให้เขาได้ประสบการณ์ หมายถึงว่าจุดเริ่มต้นคือเขาอยากเอง ถามเขาแล้วเขาสนใจและก็อยากทำ เราก็ถามแล้วว่าเขาสนใจแล้วสามารถจะรับผิดชอบหน้าที่นี้ได้จริงๆ ใช่มั้ย ต้องแลกมากับการที่เราอาจจะไม่ได้สนุกเหมือนกับการถ่ายโฆษณานะ อาจจะยากกว่าอะไรอย่างนี้ เขาก็พร้อมบอกว่าเขายอม เขาจะรับผิดชอบหน้าที่ของเขาเต็มที่”

พอได้ลองแล้วเขาดูชอบไหม?
“ชอบค่ะ ชอบมากเลย ถามว่ามีสอนเรื่องการแสดงมั้ย ไม่ค่ะไม่ ไม่กล้าสอนเลยค่ะ ไม่สอนอะไรเกี่ยวกับการแสดงเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแอ๊กติ้งโค้ชและพี่สันต์ผู้กำกับ อันนี้ทำหน้าที่เป็นแม่เลย ไม่ได้เป็นนักแสดงก็คือแค่บอกเขาว่ามีอะไรก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้กำกับ ฟังบรี๊ฟ แล้วก็รีแอ๊กต์กับผู้ร่วมแสดง แล้วก็ต้องรับผิดชอบในการเป็นนักแสดงที่ดีแค่นั้นเองค่ะ”

เห็นการทำงานของลูกสาวแล้ว ถ้าเต็มสิบให้คะแนนเท่าไหร่?
“อ๋อ…ให้คะแนนเต็มค่ะ(ยิ้ม) เต็มไม่ใช่เรื่องของการแสดงนะคะ การแสดงนี่แม่ไม่กล้าให้คะแนน ต้องให้คนดูกับผู้กำกับให้คะแนน แต่คือแม่ให้คะแนนในส่วนของความตั้งใจและความรับผิดชอบในการทำงาน สำหรับเด็ก 5 ขวบแอฟก็ให้เต็มที่ค่ะ”

ดูแล้วน้องปีใหม่ติดใจการแสดงไหม?
“เขาติดใจค่ะ ถ่ายเสร็จก็วิ่งไปเกาะพี่สันต์แบบว่าหนูชอบ หนูอยากถ่ายอีก หนูอยากทำอีก เราก็ต้องบอกว่าใจเย็นๆ ลูก แค่นี้พอก่อนตอนนี้หน้าที่หลักของเราคือเรียนหนังสือ อันนี้มันก็เป็นแค่ถ้าเขาจะมีโอกาสมีประสบการณ์ได้ก็เลยให้เขาทำ แล้วอันนี้ไม่ได้เส้นนะ(ยิ้ม) ถึงแม้ว่าทั้งแม่ทั้งลูกจะร่วมงานกับพี่สันต์เหมือนกัน แต่ว่าอันนี้ไม่ได้เส้นนะคะ แคสติ้งเหมือนคนอื่น ส่งเทปออดิชั่น แม่ถ่ายเอง(ยิ้ม)”

บางคนอาจจะบอกว่าน้องเข้ามาได้เพราะแม่หรือเปล่า?
“ถามว่าโอกาสมันมาถึงเราว่าสนใจมั้ยก็อาจจะใช่ แอฟอยู่ตรงนี้อยู่แล้ว อาจจะรู้ว่ามีแคสติ้งอันนี้ ทีมและพี่สันต์ก็ถามว่าสนใจมั้ย ถ้าสนใจก็มาออดิชั่นนะซึ่งเราก็ทำตามระบบทุกอย่าง แอฟเห็นด้วยกับการออดิชั่นอยู่แล้ว ถ้าลูกเราไม่สามารถทำได้ถึงตรงนั้น เราก็หยุดซะแต่ตรงนี้ดีกว่าไปเกิดปัญหาที่กอง อันนี้ดีนะคะหลักการในการที่เขาให้เข้าระบบก็ได้อธิบายให้ปีใหม่ฟังเหมือนกันว่าเราทำเทปส่งไป หนูต้องยอมรับกฎกติกาว่าส่งไปอาจจะได้หรือไม่ได้ ถ้าไม่ได้ก็คือดีแล้วเราจะได้ไม่มีปัญหาในกอง แต่ถ้าได้เราจะได้ไปทำ ถ้าไม่ได้ก็ต้องยอมรับ ซึ่งเขาก็บอกหนูเข้าใจค่ะแต่เขาก็ถามว่าแล้ววันนี้ใครตัดสินคะ ลุงสันต์ตัดสินใช่มั้ย(ยิ้ม) แม่ก็บอกว่าไม่ใช่ มีท่านอื่นด้วย”

ถามถึงเรื่องที่เราพูดว่าคงไม่มีแฟนใหม่แล้ว หลัง แพท ณปภา ถามในรายการ?
“ในแชร์ข่าวสาวตรองใช่มั้ยคะ เอาจริงๆ มันก็บอกไม่ถูก จริงๆ มันก็เป็นการเล่นๆ คุยกันเล่นๆ ขำๆ สนุกๆ คือแพทเขาบอกว่าเขาจะไม่มีแฟนแล้วคือข้ามไปอีกทีก็แต่งงานเลย มีสามีเลย แอฟเลยแซวเขาว่า แอฟคงไม่มีโอกาสมีข่าวแบบนี้ หมายถึงอย่างน้อยก็ในตอนนี้”

แสดงว่ายังไม่ปิดทางว่าจะไม่มีความรัก?
“ไม่เคยปิดอยู่แล้วค่ะ(ยิ้ม)”

แต่คนก็มองว่าเราปิดแล้วไม่มีแล้ว?
“ถึงเวลาจริงๆ มันก็ต้องมาดูอีกทีว่ามันจะมีในลักษณะไหน เพราะรู้สึกว่ายิ่งโตขึ้นเราจะความสัมพันธ์ในหลายรูปแบบมากขึ้นมันอาจจะไม่ใช่แค่แฟนไม่แฟน สามีไม่สามี บางครั้งมันก็แล้วแต่คนจะให้คำจำกัดความด้วยซ้ำว่าจะเรียกอะไรยังไง แต่เราไม่ต้องพูดถึงขั้นนั้นเพราะตอนนี้มีแต่ลูก”

จริงๆ มันจะทำให้คนที่เข้ามายากขึ้นด้วยไหม ด้วยสถานการณ์อะไรแบบนี้?
“ก็ไม่ง่ายมาตลอดอยู่แล้วค่ะ(หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ซีเรียส รู้สึกว่าเราก็ใช้ชีวิตของเรา ทำให้ดีที่สุด ในบทบาททั้งเรื่องงาน แล้วก็บทบาทความเป็นแม่ ทุ่มเทกับสองบทบาทนี้ให้ดีที่สุด นอกนั้นก็ตามสถานการณ์ค่ะ”

มองภาพความรักของเราในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง?
“ไม่มีภาพนะคะ แอฟรู้สึกว่าถ้ามันมาถึงเรา แล้วเรารู้สึกยังไง มันก็อย่างนั้นแหละค่ะ ถ้ามีใครก็คงเกิดขึ้นเอง”

มุมมองความรักเปลี่ยนไปเลยไหม?
“ไม่ได้เปลี่ยนนะ สำหรับแอฟก็ยังรู้สึกว่าถ้ามีมันก็จะเป็นกำลังใจที่ดี ทั้งในการใช้ชีวิตและในการทำงาน แอฟรู้สึกว่าสุดท้ายทุกคนก็ต้องการ แต่ว่ามันจะเป็นในรูปแบบไหนแค่นั้นเอง(ยิ้ม)”

แต่หลักๆ คนที่จะเข้ามาก็ต้องผ่านด่านลูกสาวก่อน?
“อุ๊ย…ลูกสาวน่าจะง่ายกว่าแม่(หัวเราะ) ลูกสาวเวลคัมหมด”

เขาเคยอยากให้แม่มีแฟนไหม เขาเข้าใจไหม?
“คือตามประสาเด็กค่ะ เขาก็บอกว่าอยาก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าเขาเข้าใจอะไรขนาดไหน แล้วเราก็ไม่ได้เคยพูดกันจริงจัง แต่ถามเล่นๆ เขาก็บอกว่าเขาแค่อยากให้แม่แฮปปี้ อยากให้แม่ยิ้ม อยากให้แม่มีความสุข แล้วก็ชอบแซว เวลาเห็นโฆษณาหรือละครก็จะชอบ”

ตอนนี้มีคนเข้ามาให้ได้เรียนรู้กันบ้างไหม?
“ถ้าเข้าข่ายประเภทนี้ไม่มีค่ะ(ยิ้ม)”

ล่าสุดมีประเด็นที่คุณปู่ตอบคอมเมนต์ ว่าไม่ได้ไปให้กำลังใจน้อง เพราะไม่มีการแจ้งคิวตามงานต่างๆ เราได้ทราบข่าวนี้ไหม?
“ไม่อะค่ะ”

คือมีคนเอาไปเปรียบเทียบว่าทำไมไปให้กำลังใจฝ่ายโน้นในงานได้ แต่มาให้กำลังใจหลานตัวเองไม่ได้ แล้วคุณปู่ก็ตอบว่าก็ไม่เคยทราบคิวว่าหลานทำอะไร อยู่ที่ไหน เลยไม่ได้มา?
“เอาจริงๆ ไม่ทราบเลยค่ะ คือตอนนี้แอฟยุ่งมาก ทั้งงานละคร แล้วพอจบละครมันก็จะมีงานอื่นๆ งานโฆษณา งานอะไรแบบนี้ คือตอนนี้ไม่ใช่แค่แอฟคนเดียว แม้กระทั่งปีใหม่ คือตอนนี้เขาปิดเทอม 2 อาทิตย์ ยุ่งกับงานโฆษณา เลยไม่ได้เห็นเลยค่ะ แต่ถ้าถามแอฟ แล้วฟังจากแค่นี้นะคะ แอฟคิดว่ามันไม่ได้มีอะไร เพราะทุกวันนี้เราก็คุยกันอยู่ หมายถึงกับคุณปู่นะคะ ถ้ามีอะไรก็อัพเดต ก็คุยกันตลอด แล้วเขาก็เจอตลอดค่ะ อาทิตย์ที่แล้วก็เพิ่งไปมา มีอะไรก็คุยตรง แล้วบางทีเวลาคุณปู่มารับ แอฟก็เจอ คิดว่าถ้ามีประเด็นอะไร มีปัญหาอะไร คุณปู่ก็คงคุยกับแอฟได้โดยตรงเสมออยู่แล้ว แต่ก็ไม่เห็นท่านพูดอะไรนะคะ(ยิ้ม)”

ก่อนหน้านี้ได้มีการแจ้งอีกฝั่งไหมว่าจะมีงานอะไรบ้าง?
“ถ้าถามก็ตอบค่ะ แต่ถ้าไม่ได้ถาม ตามปกติก็ไม่ได้รายงานค่ะ เพราะเราทำอะไรเยอะมาก แล้วก็ทำทุกวันก็คงไม่ได้มีประเด็นที่จะต้องบอกตารางทุกวัน แค่นั้นเอง แต่ถ้าถามก็ตอบได้ ทุกวันนี้ไม่มีอะไร สบายๆ”

แต่อีกฝั่งคอมเมนต์พูดถึงพี่เปิ้ล เลขาของเราว่าเหมือนกีดกันไม่ให้มาหา?
“ไม่มีแน่นอนค่ะ เท่าที่ฟังตอนนี้ คือบางทีส่วนใหญ่ปู่จะติดต่อผ่านแอฟโดยตรง หรือติดต่อเลขาแอฟก็คือพี่เปิ้ลค่ะ เพราะบางทีแอฟติดงานก็จะเช็กว่าจะเจอกันกี่โมง”

แบ่งเวลาดูแลลูกยังไงบ้างกลับมารับงานแล้ว?
“ยังไงลูกมาอันดับ 1 ค่ะ เพราะฉะนั้นก็จะแบ่งเวลาทำงานช่วงที่เขาไปโรงเรียน คิวละครที่ผ่านมาที่ถ่ายแอฟก็จะให้คิววันธรรมดา เพราะเสาร์-อาทิตย์ ต้องอยู่กับลูก ซึ่งเสาร์-อาทิตย์ก็จะแปลงร่างเป็นคุณแม่คนเดิม หน้าไม่แต่ง หน้าสด พาลูกไปตระเวนเรียนพิเศษ”

เลือกลูกก่อน?
“แน่นอนค่ะ เพราะเขาจะอยู่กับเรา สนิทกับเรา ให้เราดูแลใกล้ชิดแบบนี้อีกไม่กี่ปี เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ต้องทำเต็มที่ อย่างงานแสดงแอฟก็รู้สึกดีใจที่ได้โอกาสกลับมา ต้องทำเต็มที่เหมือนกัน ก็พยายามแบ่งเวลาให้ได้ดีที่สุด”

ด้านไหนส่งเสริมน้องเพิ่มเติมไหม?
“ตอนนี้เสริมเขาทุกด้านเลย ทั้งด้านที่เขาสนใจ และด้านที่ดูแล้วเขาไม่ค่อยสนใจ จะพยายามให้เขาทำด้วย ยกตัวอย่าง ยิมนาสติก ตอนแรกเขาเห็นภาพแล้วกลัว ไม่ค่อยอยากไป แต่ชอบเต้นบัลเล่ต์ ชอบรำไทย เราก็พยายามให้เขาลอง ยิมนาสติก หลังๆ เขาก็สนุกใหญ่เลย เราก็แค่ส่งเสริมด้านที่เขาชอบ ส่วนด้านที่ไม่มั่นใจก็ให้เขาลุยไปก่อน แอฟก็บอกเขาเสมอว่าถ้าเรียนไปแล้วมันไม่ได้ ไม่ชอบจริงๆ แม่ก็ไม่ได้บังคับให้หนูทำทุกอย่าง ค่อยมาเลือกอีกทีหนึ่ง แต่ก็เห็นแล้วว่าพอให้เขาทำสักช่วงหนึ่ง พอเครื่องติดแล้วคราวนี้ก็ไม่ยอมกลับบ้าน เลิกเรียนก็ยังไม่อยากกลับค่ะ”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5400464
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5400464