ย้อนวันวาน ตูน บอดี้สแลม จากนักร้องวงละอ่อน เป็นร็อกเกอร์ดังสละโสด

จุดเริ่มต้นของบอดี้สแลม

หลังจากที่สมาชิกในวงละอ่อนแยกย้ายไปเรียนต่อทำให้วงยุบไปชั่วคราว ตูนซึ่งตัดสินใจลาออกจากวงละอ่อนก็กลับมาสนใจการแต่งเพลงและเล่นดนตรีอีกครั้ง โดยมีมือกีตาร์อย่างเภาและมือเบสอย่างปิ๊ดมาร่วมทำงานเพลงในรูปแบบใหม่ และแนวดนตรีเปลี่ยนไปจากเดิมคือเป็นดนตรีร็อกเข้มข้นมากขึ้น พร้อมทั้งตั้งชื่อวง “บอดี้สแลม” (Bodyslam) ซึ่งมีที่มาจากชื่อท่าท่าหนึ่งของมวยปล้ำ โดย “body” แปลว่า “ร่างกาย” และ “slam” แปลว่า “ทุ่ม” พอนำมารวมกันจึงกลายเป็นนิยามว่า “การทุ่มสุดตัว” คือการทำเพลงชนิดทุ่มสุดตัว

บอดี้สแลมออกอัลบั้มชุดแรก Bodyslam ในปี 2545 ภายใต้สังกัดเดิมคือมิวสิค บั๊กส์ มีเพลงดัง อาทิ อากาศ, งมงาย, ย้ำ, สักวันฉันจะดีพอ ก่อนจะออกอัลบั้มที่ 2 Drive ในปี 2546 ส่วนเพลงฮิตในอัลบั้มนี้คือ ความซื่อสัตย์, หวั่นไหว, ปลายทาง ซึ่งทั้ง 2 อัลบั้มนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ แม้จะเป็นวงร็อกน้องใหม่ในเวลานั้น แต่ก็เป็นวงดนตรีที่มีแฟนเพลงวัยรุ่นเป็นจำนวนมาก

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

แต่หลังจากออกอัลบั้มที่ 2 วงบอดี้สแลมก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะนอกจากจะออกจากค่ายมิวสิค บั๊กส์ และเซ็นสัญญากับจีนี่ เรคคอร์ดส ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ หนึ่งในสมาชิกอย่างเภาก็ออกจากวงและออกอัลบั้มเดี่ยวในสังกัดค่ายสนามหลวง ทำให้บอดี้สแลมต้องหามือกีตาร์คนใหม่ ซึ่งก็ได้ ยอด ธนชัย ตันตระกูล มาร่วมงาน อีกทั้งยังให้ ชัช สุชัฒติ จั่นอี๊ด มือกลองแบ็กอัพมาเป็นสมาชิกแบบเต็มตัวด้วย

จากนั้นบอดี้สแลมออกอัลบั้มที่ 3 ภายใต้สังกัดใหม่ในชื่อชุด Believe เมื่อปี 2548 ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก มีเพลงฮิตเกือบทั้งอัลบั้ม อาทิ ขอบฟ้า, ความรักทำให้คนตาบอด, คนที่ถูกรัก, ความเชื่อ, ชีวิตเป็นของเรา, พูดในใจ, ห้ามใจ และยิ่งตอกย้ำความสำเร็จของบอดี้สแลมมากขึ้นกับอัลบั้มชุดที่ 4 Save My Life ปี 2550 ที่มีเพลงดังมากมาย อกหัก, ยาพิษ, เสี้ยววินาที, นาฬิกาตาย, คนมีตังค์ จนทำให้บอดี้สแลมกลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ฮอตที่สุดในเมืองไทย

คอนเสิร์ตใหญ่ราชมังคลาฯ

และจากความนิยมอย่างมากในวงบอดี้สแลม ทำให้วงยังคงมีผลงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังให้ โอม เปล่งขำ มือคีย์บอร์ดแบ็กอัพและร้องประสาน เข้ามาเป็นสมาชิกอีกคนของวง โดยในปี 2553 บอดี้สแลมออกอัลบั้มชุดที่ 5 “คราม” ที่มาพร้อมกับเพลงดังหลายเพลง อาทิ แสงสุดท้าย, คิดฮอด, คราม, สติ๊กเกอร์, ความรัก, ทางกลับบ้าน, เปราะบาง ฯลฯ อีกทั้งยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ระดับสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถานครั้งแรก “Bodyslam Live in คราม” ที่เหมือนเป็นการตอกย้ำความสำเร็จอย่างมากของบอดี้สแลม เพราะมีเพียงไม่กี่วงดนตรีของไทยที่จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองในระดับสนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน

จากนั้นในปี 2557 บอดี้สแลมออกอัลบั้มชุดที่ 6 “ดัม-มะ-ชา-ติ” มีเพลงดัง อาทิ เรือเล็กควรออกจากฝั่ง, ปลิดปลิว, ชีวิตยังคงสวยงาม, คิดถึง ฯลฯ และหลังจากห่างหายการออกอัลบั้มใหม่ไปนานกว่า 4 ปี บอดี้สแลมกลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มล่าสุด “วิชาตัวเบา” ในปี 2561 ที่มีเพลงดังทั้ง วิชาตัวเบา, ครึ่งๆ กลางๆ, ความหมาย ฯลฯ รวมไปถึงคอนเสิร์ตใหญ่ที่ราชมังคลากีฬาสถานเป็นครั้งที่ 2 “Bodyslam Fest วิชาตัวเบา” ในปี 2562

ก้าวคนละก้าว

และอีกหนึ่งมุมของผู้ชายที่ชื่อ อาทิวราห์ ที่แฟนๆ บอดี้สแลมรู้กันดี คือการเป็นหนุ่มนักกีฬา ซึ่งนอกจากเคยเป็นนักกีฬาแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์ระดับประเทศไทย ลงแข่งขันไตรกีฬา ชื่นชอบการเตะฟุตบอลและปั่นจักรยานแล้ว ตูนยังเป็นศิลปินที่ชื่นชอบการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจจนถึงขั้นไปแข่งขันงานวิ่งต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีทั้งงานวิ่งมาราธอน รวมไปถึงงานวิ่งอัลตร้ามาราธอน ระยะ 100 กม. มาแล้ว

แต่การวิ่งครั้งสำคัญซึ่งเป็นที่กล่าวถึงไปทั้งประเทศ คือการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมด้วยการวิ่งระดมทุนในโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ซึ่งในครั้งแรกตูนจัดขึ้นในชื่อกิจกรรม “ก้าวคนละก้าวเพื่อโรงพยาบาลบางสะพาน” ในปี 2559 โดยตูนเริ่มต้นวิ่งจากกรุงเทพฯ สิ้นสุดที่ รพ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมเป็นระยะทาง 400 กม. โดยมียอดบริจาคจากคนไทยทั้งประเทศ 85 ล้านบาท

จากนั้นในปี 2560 ตูนสร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของประเทศไทย คือการจัดโครงการ “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ” โดยเป็นการวิ่งจาก อ.เบตง จ.ยะลา ไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อระดมทุนซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับ รพ. 11 แห่งทั่วประเทศ ในระยะทาง 2,191 กม. โดยในตอนแรกตั้งเป้ายอดเงินบริจาคไว้ที่ 700-1,000 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าระยะทางที่วิ่งจริงๆ คือ 2,215 กม. และมียอดบริจาคสูงถึงประมาณ 1,228 ล้านบาท ซึ่งการวิ่งครั้งนี้ทำให้เกิดภาพยนตร์สารคดี “2,215 เชื่อ บ้า กล้า ก้าว” ผลิตโดยค่ายหนังดังอย่างจีดีเอช

และล่าสุดกับโครงการ “ก้าวต่อไปด้วยพลังเล็กๆ” ซึ่งเป็นการจัดงานวิ่งมินิมาราธอน 5 ภาคทั่วประเทศ (อีสาน, ใต้, เหนือ, ตะวันออก, กลาง) และในรูปแบบ Virtual Run พร้อมทั้งจัดตั้งมูลนิธิก้าวคนละก้าว โดยในภาคอีสานจัดขึ้นในเดือน มิ.ย. 2562 ก่อนที่จะจัดงานวิ่งภาคใต้ในเดือน ต.ค. 2562 และภาคเหนือจัดขึ้นในเดือน ธ.ค. 2562 แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์โควิดระบาด จึงได้เลื่อนงานวิ่ง 2 ภาคที่เหลือ (ภาคตะวันออกและภาคกลาง) ออกไปก่อน

ความรักในแบบฉบับอาทิวราห์

ด้วยความเป็นร็อกเกอร์ดังระดับแถวหน้าเมืองไทย ทำให้ตูน บอดี้สแลม เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ มากมาย และถูกจับตามองเรื่องความรักมาตลอดตั้งแต่เข้าวงการ โดยมีทั้งข่าวเคยคบหาดูใจกับนักแสดงสาว ขิง ทัศนพรรณ สิริสุขะ รวมถึงพิธีกรสาวรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน ฝน นันทกา วรวณิชชานันท์ แต่สุดท้ายก็โบกมือบ๊ายบายเลิกรากันไป

แต่ที่เป็นความรักที่หวานกันยาวนานจนถึงขั้นลงเอยแต่งงาน คือการคบหาดูใจกับนักแสดงสาว ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ ซึ่งทั้งคู่พบกันครั้งแรกเมื่อตอนที่ก้อยเป็นดีเจอยู่ที่คลื่น Fat Radio และวงบอดี้สแลมมาส่งซิงเกิ้ลเพลง “คิดฮอด” ในวันที่ 5 พ.ค. 2553 ซึ่งตูนเคยพูดถึงเรื่องนี้ในรายการ “3 แซ่บ” ทางช่อง 3 ไว้ว่า ตอนนั้นประทับใจที่เขาฟังเราตอบคำถาม และถามจากคำตอบที่เราตอบไป ดูเขาใส่ใจและแตกต่างจากคนอื่น ดูมีเสน่ห์ หลังจากนั้นก็จีบเขาผ่านร่างทรง ซึ่งก็คืออุ๋ย บุดดาเบลส เพราะอุ๋ยรู้จักกับก้อย และเป็นคนเอาเบอร์ของก้อยมาให้

ซึ่งหลังจากนั้น ตูน-ก้อย ก็คุยกันผ่าน SMS เริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้น โดยเดตแรกของทั้งคู่คือการไปดูละครใบ้ เพราะความที่ก้อยชอบละครเวทีจึงพาตูนไปดูด้วยกัน และเมื่อก้อยรู้ว่าตูนชอบการวิ่งจึงมาฝึกวิ่งด้วย และกลายเป็นนักวิ่งหญิงของวงการบันเทิงไปอีกคน อีกทั้งเมื่อตูนทำโครงการก้าวคนละก้าว ก้อยก็พร้อมซัพพอร์ตอยู่เคียงข้างและเคลียร์คิวงานไปวิ่งกับตูนด้วย

วันเวลาผ่านไปเกือบ 10 ปี ในที่สุดตูนก็ตัดสินใจขอก้อยแต่งงานเมื่อ 14 ก.พ. 2563 ซึ่งเป็นการขอแต่งงานแบบเรียบง่ายแต่ฮือฮาไปทั้งประเทศ เพราะขอในระหว่างที่ก้อยกำลังแพลงก์อยู่ในฟิตเนส ซึ่งก้อยบอกว่าตูนให้เหตุผลที่ขอแต่งงานในยิมในวันวาเลนไทน์ เพราะอยากให้วันวาเลนไทน์ที่ตูนและก้อยเคยคิดว่าเป็นวันธรรมดากลายเป็นวันสำคัญของทั้งคู่ และเลือกขอที่ยิมเพราะเป็นสถานที่ที่ได้ใช้เวลาร่วมกัน 2 คน มีความสุขด้วยกัน โดยทั้งคู่จะเข้าสู่ประตูวิวาห์ในวันที่ 28 พ.ย. 2563 ที่จะถึงนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ.

ผู้เขียน : Penguin บินได้
ภาพ : อินสตาแกรม @artiwara, @rachwinwong, @bodyslamband, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, มิวสิค บั๊กส์, อินเทอร์เน็ต
กราฟิก : Supassara Taiyansuwan

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1982216
ขอขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/entertain/news/1982216