แม็กกี้ อาภา ฟื้นตัวจากงูสวัด กลับมาลุยงานต่อ เผย บำรุงยาสารพัด สร้างภูมิคุ้มกัน


ให้คะแนน


แชร์

แม็กกี้ อาภา ฟื้นตัวจากงูสวัด – อัพเดตอาการโรคงูสวัด เชื้อลามขึ้นเยื่อหุ้มสมอง สำหรับนักแสดงสาว แม็กกี้ อาภา ภาวิไล เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้อง 3 ละครเด็ดช่อง 7 HD เรื่อง “ปางเสน่หา”, “ตุ๊กตา” และ “ธิดาวานร” ณ ลานด้านหน้า บ.ดีด้า วิดีโอ โดยภายหลังจบงานได้ให้สัมภาษณ์ถึง อาการล่าสุดแข็งแรงขึ้นหรือยัง หลังกลับมาทำงานต่อ

อัพเดตอาการงูสวัดเป็นยังไงบ้าง?
“ออกจากโรงพยาบาลมาอาทิตย์ที่ 3 แล้ว ก็พักผ่อนอยู่ที่บ้านค่ะ แต่ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาเหมือนจะไม่ได้พักผ่อนมากเท่าไหร่ ลุยงานต่อ มีโปรโมตละคร แล้วก็ถ่ายละครต่อเลย ถือว่ายังไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ อยู่ในช่วงที่กำลังดูแลตนเอง แต่ก็ต้องพักเยอะขึ้น แล้วก็กินยาเยอะ ดูแลตัวเองค่ะ มีพวกยาตัวอื่นๆที่เสริมร่างกายในช่วงนี้ เพราะว่าต้องเพิ่มภูมิต้านทานให้มันแข็งแรง”

มันเริ่มจากอีสุดอีใสมาเป็นงูสวัด?
“ใช่ค่ะ มันเหมือนแผลเล็กๆเอง มันเป็น 5 จุด ขึ้นอยู่บริเวณหน้าท้องค่ะ แล้วมันเหมือนเป็นแผลผื่นคันทั่วไป เราก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นงูสวัด คิดว่าเป็นแผลผื่นแพ้แมลงเลยไม่ได้สนใจ แล้วพอผ่านไป 2-3 วัน มันก็เริ่ม…แผลเริ่มเห่อ เป็นตุ่มน้ำใสใส ก็เริ่มเอะใจว่ามันเป็นอะไร แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มเป็นไข้ขึ้นสูงมาก เช็ดตัวก็แล้ว กินยาก็แล้ว ไข้ก็ไม่ลด ก็เลยไปโรงพยาบาล เพราะมีอาการปวดหัวมากด้วย คุณหมอก็บอกว่าเป็นงูสวัด ตอนแรกดูจากแผลก็เลยบอกว่า งูสวัด แต่ว่าเราปวดหัวมากก็เลยทำให้เราบินกลับไม่ได้ ไข้ขึ้นสูง ก็เลยแอดมิดอยู่โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต แล้วพอเรามีอาการปวดหัวมากๆ คุณหมอก็สงสัยว่า ทำไมถึงมีอาการปวดหัวเลยขอเจาะน้ำไขสันกระดูกสันไปตรวจดูว่ามันเข้าเยื่อหุ้มสมองหรือเปล่า เพราะจากอาการเราปวดหัวไม่หาย สรุปว่าเชื้อของงูสวัดเข้าไปในเยื้อหุ้มสมอง แต่คุณหมอก็ไม่รู้อยู่ดีว่ามันอยู่ส่วนไหนของเยื่อหุ้มสมอง ก็ต้องทำเอ็มอาร์ไอสแกน สรุปประมาณ 3 จุดที่มันเข้าไป แต่ก็ยังไม่ถือว่าโคม่ามาก ยังไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ ถือว่าเจอเร็วแล้วก็รักษาทัน

เชื้อมันน่ากลัวมาก ตอนนั้นเรารู้สึกยังไง?
“ก็กลัว เรารู้สึกช็อกเหมือนกัน จริงๆจะว่ามันรุนแรงไหมก็ถือว่ารุนแรงนะคะ เราก็งงเหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แล้วอยู่ๆก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ร่างกายแข็งแรงมาก ออกกำลังกายตลอดแล้วก็ไม่ได้เข้าโรงพยาบาลไม่ได้เจ็บป่วยอะไรเลยมาประมาณ 3-4 ปีเต็ม สุขภาพดีมาก แต่อยู่ๆก็เป็นขึ้นมาได้ อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ตากฝนมาหลายวัน แล้วก็ไปเจอพายุที่ภูเก็ตด้วย แล้วก็น้ำทะเลค่ะ อาจจะไม่สะอาด ช่วงนั้นเรามีรอบเดือนเลยทำให้ภูมิคุ้มดันเราค่อนข้างต่ำมาก อาจจะได้รับเชื้อจากทางใดทางหนึ่งที่เราคิดนะคะ

มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้อีกไหม?
คุณหมอบอกว่าโรคนี้สามารถมีโอกาสเป็นได้อีกถ้าร่างกายภูมิต่ำ ร่างกายไม่แข็งแรงก็จะสามารถกลับขึ้นมาเป็นได้อีก แล้วก็โรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะว่าเชื้อตัวนี้มีอยู่ในร่างกายทุกคนอยู่แล้ว เพราะว่าคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสก็คือเป็นเชื้อตัวเดียวกัน”

วิธีรักษา?
“ก็ทำตามขั้นตอนของคุณหมอด้วย แล้วก็มีอาหารเสริมอย่างพวกสมุนไพรค่ะ แล้วก็หลายๆทาง ถ้าเราทานยาในโรงพยาบาลมันก็จะมีผลเอฟเฟ็กต์เรื่องการตกค้างของตัวยา เราก็เลยต้องมีสมุนไพรไทยที่มันสามารถดีท็อกแล้วก็ทำให้เลือดเราดีขึ้น”

มันอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้นะ?
“จริงๆเคยได้ยินมาว่าถ้าสมมติว่างูสวัดเป็นรอบเอวจะเสียชีวิตได้ อันนี้เป็นความเชื่อ ถามคุณหมอแล้วว่าเป็นไปได้มั้ย จริงหรือเปล่า หมอบอกว่าไม่ใช่ เป็นความเชื่อมากกว่าว่า ถ้างูสวัดรัดรอบเอวจะเสียชีวิต บอกว่าไม่เกี่ยว”

อาการตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหม?
ถือว่าดีขึ้นเพราะจริงๆถามคุณหมอว่าใช้เวลานานมั้ยกว่าจะหาย คุณหมอบอกว่าประมาณ 6 เดือน แต่ว่าขึ้นอยู่กับการดูแลร่างกายของเรา ถ้าดูแลดีก็ 1-2 เดือนก็จะดีขึ้น ตอนนี้ก็ดูแลสารพัดเลย ทั้งกินสารพัด อยากหายเร็วค่ะ อยากแข็งแรงเร็วๆ เพราะเราอยากหายป่วยแล้วอะ ไม่อยากเป็นคนป่วย แล้วก็อยากทำงาน แล้วงานเราก็มา มาเยอะมากเลยจังหวะนี้”

ตอนนี้ต้องรอรีเช็กอะไรอีกไหม?
“มีค่ะ ต้องรีเช็กหาคุณหมออีก ต้องดูอาการเรื่อยๆเพราะว่าช่วงนี้ถือว่ายังไม่ได้หายร้อยเปอร์เซ็นต์”

นอยด์ไหมว่าป่วยกว่าที่ผ่านๆมา?
“ตอนแรกก็นอยด์นะคะ เรารู้สึกแบบไม่เคยนอนโรงพยาบาลนานขนาดนี้ 11 วัน เรารู้สึกว่ามันเป็นอะไรมากหรอ เป็นเยอะมาก คุณหมอก็ไม่ให้ขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน เพราะว่ามันอันตราย เลยคิดว่าเราไม่เคยเป็นหนักขนาดนี้ ก็รู้สึกกลัว แล้วก็นอยด์ในช่วงนั้น แต่ก็ได้กำลังใจจากคุณแม่ แล้วก็เพื่อนที่ส่งกำลังใจมาให้เราสู้ๆ เรารู้สึกว่าโอเคต้องมีกำลังใจนะ เราก็เข้มแข็งขึ้น แล้วเราก็ต้องหาย”

ต้องแบ่งเวลาพักผ่อนอะไรขึ้นไหม?
“ต้องแบ่ง หลังจากนี้ก็ต้องดูแลตัวเองมากกว่าเดิม เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างหักโหม ทำงานหนักมาก เหมือนเราใส่ใจตัวเองน้อยไปด้วยค่ะ แล้วใช้ร่างกายเยอะ ตอนนี้เราต้องหันมาดูแลเขาให้มากกว่าเดิม”

แต่ว่าก็ไม่ได้ลดงานใช่ไหม?
“ใช่ค่ะ ไม่ได้ลด แต่ว่าจัดให้พอดีค่ะ”

กังวลอยู่ไหม?
“จริงๆก็มีความกังวลบ้าง แต่ว่าเราคิดว่าเรามีคุณแม่ที่ดูแลเราอยู่ใกล้ๆ แล้วก็มียาบำรุง นี่เราก็กำลังกินบำรุง รักษาตัวเองอยู่ ถือว่าเราฟื้นฟูตัวเองได้เร็วเหมือนกัน”

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5406324
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5406324