ลีเดีย ไม่ติดใจเอาความ คู่กรณีถอยรถชนรถพ่อ โชคดีมีกล้องหน้ารถ-พยาน


ให้คะแนน


แชร์

ลีเดีย ไม่ติดใจเอาความ คู่กรณีถอยรถชนรถพ่อ โชคดีมีกล้องหน้ารถ คนขับรถเมล์ช่วยเป็นพยาน

จากกรณีรถคุณพ่อของนักร้องสาว ลีเดีย ศรัณย์รัชต์ ถูกรถคู่กรณีถอยชนระหว่างติดไฟแดง ซึ่งถูกเผยแพร่คลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถของคุณพ่อ โดย ลีเดีย ได้โพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ ระหว่างรถถอยชน ที่มีการไกล่เกลี่ยกัน ระหว่างคุณพ่อ และคู่กรณีที่มีความไม่พอใจ พูดจาเชิงข่มขู่เรียกร้องค่าเสียหาย จนพ่อของลีเดียพยายามจะเรียกประกัน และขอเช็กกล้องที่หน้ารถ จนมีรถเมล์สาธารณะออกมาเป็นพยานว่า รถของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายชน ก่อนที่คู่กรณีจะบอกว่าไม่เป็นไร และรีบขับรถออกไป

โดย ลีเดีย ได้ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานเปิดต้นคริสต์มาส “Robinson Magical Celebration” บริเวณด้านหน้า ศูนย์การค้าโรบินสันไลฟ์สไตล์ ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2563 อัพเดตถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้ง

ถามถึงเหตุการณ์รถคุณพ่อ?

“ใช่ ในเรื่องประเด็นของคุณพ่อก็ตามที่ทุกคนเห็นในคลิป คือตัวเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะว่าวันนั้นเป็นแค่คุณพ่อคุณแม่สองคนที่ขับรถอยู่ คือเรามารู้ตัวอีกทีนึง คือตอนที่เขากลับมาถึงบ้าน เขาก็บอกว่าพอดีเปิดกล้องให้หน่อย เปิดไม่ได้ ก็เลยให้น้องสาวเป็นคนเปิด แล้วก็เห็นตามคลิปแบบที่ทุกคนเห็น ซึ่งก็น่าตกใจ เพราะว่าเขาก็จอดอยู่ของเขาเฉยๆ เป็นอะไรที่น่ากลัวนิดนึง เพราะว่าเขาลงมาแล้วก็เรียกร้องเลย แล้วก็อารมณ์ขึ้นมาก ซึ่งเรารู้สึกว่าอย่างน้อยคุณพ่อคุณแม่ได้กลับมาบ้านแล้วก็ปลอดภัย เลยรู้สึกว่าทุกคนที่ขับรถควรจะต้องมีสติตลอดเวลา คือป๊าเนี่ยอาจจะแฮปปี้ร้องเพลง ออกนอกหน้าต่างแล้วก็ไม่ได้สังเกตอะไรเท่าไหร่ พอมารู้ตัวอีกที คือเราชนเขาหรอ ไม่รู้อย่างนี้ เลยรู้สึกว่าทุกคนที่ขับรถติดกล้องหน้ารถก็จะดีมาก แล้วก็ต้องมีสติเพราะว่ามันมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ตัวเราเองตอนทราบข่าว รู้สึกตกใจไหม?

“ก็แน่นอนคือแบบตกใจ ทำไมพ่อเดียเขาไม่ได้เป็นคนชน แล้วทำไมเขาลงมาแล้วแบบของขึ้นขนาดนั้น อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเจตนาเขาคืออะไร แต่คือเราก็เห็นตามคลิปอย่างที่ทุกคนเห็นค่ะ”

เราไม่ได้คิดจะดำเนินคดีอะไรใช่ไหม?

“เดียก็มีถามคุณพ่อแล้ว คุณพ่อเขาก็บอกอยากจะอยู่แบบสงบๆไม่ได้อยากมีเรื่องกับใครหรอก เดียก็คิดว่าคุณพ่อคุณแม่ออกมาปลอดภัยก็พอแล้ว คือรถมันก็ไม่ได้เป็นอะไร”

เราโชคดีที่พี่รถเมล์เขาก็มาช่วย?

“ใช่ ต้องขอบคุณพี่รถเมล์ กล้องตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่เขาพยายามเปิด แต่ก็ยังเปิดไม่ได้ คือเขาก็บอกว่าเราชนเขา เขาเสียหายทั้งๆที่รถเขาจริงๆไม่มีรอยอะไรเลย คือรถเมล์เขาก็มาจอดข้างๆแล้วก็บอกว่า เฮ้ยไม่ใช่…เขาชนคุณ ไม่ใช่คุณชนเขา พ่อก็เลยแบบ เหรอ…โอเค เดี๋ยวไปเปิดกล้องดูก่อน เขาก็พยายามเปิด แต่ก็ยังเปิดไม่ได้”

คือคุณพ่อยอมรับผิดตั้งแต่ตอนนั้นว่าตัวเองผิด?

“ประเด็นคือตอนนั้นรถติดมากแล้วก็คุณพ่อก็เห็นลงไปดูแล้วว่ามันไม่ได้เป็นอะไร รถไม่ได้มีรอยอะไร แล้วคุณพ่อก็อยากรีบกลับบ้าน เพราะมันก็กลางคืนแล้ว เขาก็อยากกลับไปหาหลาน เลยรีบกลับไม่อยากให้มีเรื่องมีราว แต่ว่าฝั่งนู้นคือแบบ ไม่ได้ มันเสียหาย”

พอเราโพสต์ไปเขามาติดต่อยัง มีฟีดแบ็กอะไรกลับมาไหม?

“ก็ไม่ได้คุยอะไร”

คือเรื่องจบไปตั้งแต่วันนั้น?

“คือเรื่องก็จบหลังจากที่เดียบอกก็คือพอจะเรียกประกัน เขาก็บอกไม่เป็นไร ไปก่อนละกัน เราก็โอเคอย่างน้อยคุณพ่อคุณแม่กลับมาปลอดภัยค่ะ ดีที่พ่อยังใจเย็น เดียไม่รู้ว่าถ้าสมมติพ่อเดียร้อนขึ้นด้วยจะเกิดอะไรขึ้น เดียก็ไม่รู้ แต่ว่าคุณพ่อกลับมาปลอดภัยทั้งคู่ รถก็ไม่ได้เสียหายอะไร ไม่ได้คิดว่าจะดำเนินคดีอะไร”

คนก็ชื่นชมคุณพ่อมากเหมือนกัน?

“ถ้าอยู่ในสถานการณ์นั้น เดียคงบอกป๊าอย่าลงไป แต่เราไม่ได้อยู่ ก็ถือว่าโชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่านี้”

คุณพ่อไม่มีเงินติดตัวด้วย?

“คุณพ่อก็มีเงินติดตัวแหละ แต่โดยปกติแล้วก็คงต้องเรียกประกัน แต่ก็ตามที่ทุกคนเห็นค่ะ”

มีข้องใจไหม อยากจะควักเงินให้เขาไปก่อน?

“เดียว่าในใจปะป๊าก็คงคิดว่าอยากจะเคลียร์ให้มันจบๆ แต่จริงๆแล้วรถมันไม่เป็นอะไร ก็ไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายค่าเสียหายอะไรยังไง เพราะว่ามันไม่ได้เป็นอะไรเลย ก็เรียกประกันดีกว่า แล้วเราก็ไม่ได้ผิดด้วย เราอยู่ของเราเฉยๆค่ะ”

อยากจะบอกอะไรสังคมกับคนแบบนี้?

“ต้องบอกว่าทุกคนต้องใช้ถนนร่วมกัน ฉะนั้นเราต้องมีสติตลอดเวลาแล้วก็คอยระวังเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดคาดมันเกิดขึ้นได้เสมอ โชคดีที่มีกล้อง แล้วก็โชคดีที่มีพี่ขับรถเมล์ช่วยอยู่เป็นพยานให้ค่ะ อยากจะฝากทุกคนว่ามีสติ ติดกล้องค่ะ ช่วยคุณได้

โควิดจะกลับมาอีกแล้ว?

“โควิดน่ากลัวมาก จริงๆแล้วมันเป็นอะไรที่ทั่วโลกเขาก็ยังเจอปัญหานี้อยู่ แต่บ้านเราก็ถือว่ายังรับมือกับสถานการณ์ได้ดีอยู่ เพราะมันก็ไม่ได้แพร่ระบาดในหลักที่เยอะๆ เดียคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้ตอนนี้คือใส่แมสก์ ระวังให้มากที่สุด ล้างมือบ่อยๆอย่าไปในที่คนเยอะ แอร์อัด ในช่วงโซเชียล ดิสแทนซิ่ง แล้วก็ทำตามไกด์ไลน์ที่มีมาตลอด เดียก็คิดว่าน่าจะช่วยได้ในระดับนึง”

เราเคยเป็น มีโอกาสเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นได้มากกว่าคนอื่นไหม?

“อันนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นแล้วเนี่ย เป็นอีกได้มั้ย แต่ในทางทฤษฎีแล้วน่าจะเป็นอยู่ได้ ก็ไม่แน่ใจว่าตัวที่เป็นแอนติบอดี้ในร่างกายเรา มันจะยังสามารถสู้กับเชื้อโรคได้เร็วกับครั้งแรกที่เราติดหรือเปล่า ยังไงก็ต้องระวังค่ะ ไม่อยากติดรอบ 2 ค่ะ”

ปีใหม่ต้องระวังตัวเองยังไงบ้าง?

“ต้องระวังตัวเอง ตอนนี้ก็ใส่แมสก์ตลอด ล้างมือบ่อยๆ ฉีดแอลกอฮอล์ สเปรย์เจลทุกอย่าง ต้องระวังให้มากที่สุด แล้วก็ทำร่างกายเราให้แข็งแรง มีภูมิต้านทานให้ดีที่สุดตอนนี้ค่ะ”

ปีใหม่มีแผนเที่ยวพกผ่อนหรือยัง?

“ปีใหม่ก็น่าจะพาครอบครัวไปเที่ยว แต่ยังดูที่อยู่ว่าจะไปไหน เพราะลูกก็ปิดเทอมวันที่ 20 กว่าๆ ก็คงไปเที่ยว”

ขอบคุณภาพ lydiasarunrat

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5468745
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5468745