กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย หนึ่ง จักรวาล จากเด็กสลัมคลองเตย โดนดูถูก สู่นักดนตรีชื่อดัง

กว่าจะมีวันนี้ไม่ง่ายเลย หนึ่ง จักรวาล โพสต์ภาพบันทึกความทรงจำ จากเด็กสลัมคลองเตย เจอคำดูถูกมากมาย สู้ไม่ถอย สู่นักดนตรีชื่อดัง ให้กำลังใจคนทำตามฝัน อย่าท้อ

เกาะติดข่าว กดติดตามข่าวสด

นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดัง หนึ่ง จักรวาล เสาธงยุติธรรม โพสต์ภาพบันทึกความทรงจำ ในวัยเด็ก เมื่อครั้งยังเล่นดนตรีในย่านสลัมคลองเตย กว่าจะมีวันนี้เป็นนักดนตรีอาชีพประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่ง่ายเลยต้องเจอกับคำดูถูกมากมาย แต่เพราะสู้ไม่ถอย ไม่หวั่นอุปสรรค จึงเดินตามฝันได้สำเร็จ โดยเจ้าตัวนำภาพเปรียบเทียบขณะเล่นดนตรีอดีตกับปัจจุบัน พร้อมเขียนข้อความว่า “เป็น 2 ภาพที่ต่างกันมาก (แต่มีความสุขเท่ากัน คือได้เล่นดนตรีและมอบความสุขให้ผู้ชม ผู้ฟัง)

บันทึกความทรงจำ “หนึ่งสยาม” (วงดนตรีลูกทุ่งเล็กๆในย่านสลัมคลองเตย ที่พ่อเป็นคนตั้งชื่อให้) ผมเชื่อว่ามีหลายคนและเด็กๆนักดนตรีรุ่นใหม่อยากเป็นผมในตอนนี้ ที่คิดว่า “หนึ่ง จักรวาล” ใช้ชีวิตสบายๆ มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จ มีทุกอย่างพร้อม ทั้งบ้านและเงินทอง แต่!! “มีใครอยากเป็นผมตอนเด็กๆมั้ยล่ะ”กว่าผมจะมีวันนี้ ผมใช้เวลานานเท่าไร ในการอดทนกับคำพูดของคน การซ้อมอย่างหนัก การโดนดูถูก…ผมเจออะไรมาบ้างเหรอ?

-เคยโดนไล่ลงจากเวทีนับครั้งไม่ถ้วน เพราะเห็นว่าเราเป็นเด็ก
-โดนนักร้องด่าเกือบทุกวัน เพราะว่าอ่านโน้ตไม่ออก เล่นเพลงจากการแกะเท่านั้น
-โดนดูถูกว่า (มึง!!ไอ้เด็กสลัม ไม่ได้เรียนดนตรี เป็นนักดนตรีไม่ได้หรอก)
-โดนล้อว่า ชื่อวงโคตรเชยเลยว่ะ “หนึ่งสยาม” แต่พ่อของผมเป็นคนตั้งให้ ผมภูมิใจนะ
-โดนแซวตลอดว่า วงเด็กๆเล่นก๊องแก๊ง ใครจะดูวะ?
-เคยโดนดูถูกว่า (นักดนตรีอะไรวะ ไม่มีเครื่องเป็นของตัวเอง ไม่มีปัญญาซื้อเหรอ) ก็ผมไม่มีเงินซื้อนี่นา

นี่คือแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น กับสิ่งที่ผมเจอมา ซึ่งในสมัยก่อนแทบจะไม่มีการให้โอกาสกันได้แสดงฝีมือ คุณต้องใช้ความพยายามเท่านั้น ที่จะสร้างโอกาสให้กับตัวเอง

ในสมัยที่ผมเป็นนักดนตรีอาชีพ เริ่มเล่นคาเฟ่ตั้งแต่ม.1 คาเฟ่สมัยนั้นเล่นตั้งแต่ 1ทุ่ม-ตี3ครึ่ง คิดดูว่าผมต้องเจออะไรบ้าง (เพราะผมอ่านโน้ตไม่ออก) แน่นอนครับทั้งคำด่า คำดูถูก แต่เพื่อเป็นการฝึกตัวเอง และอยากอ่านโน้ตได้เหมือนนักดนตรีคนอื่นเขา ซึ่งมันเป็นประสบการณ์ตรงที่เราต้องเจอทุกคืน 

“ผมสู้ไม่ถอย” กลับถึงบ้านตี 4 ครึ่ง อาบน้ำและไปโรงเรียนต่อครับ พอเลิกเรียน 4 โมงเย็น ก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้าน (แถมยืนเกือบตลอดเส้นทางตั้งแต่สนามหลวงจนถึงคลองเตย) พอถึงบ้านก็อาบน้ำไปทำงานที่คาเฟ่ต่อเลย ชีวิตจะวนเวียนอยู่อย่างนี้ทุกวัน แม้กระทั่งเสาร์-อาทิตย์ ผมก็มาที่รร. เพื่อเอาโน้ตที่เราเล่นไม่ได้มานั่งซ้อมที่รร. เพราะที่บ้านไม่มีเครื่องมือซ้อมครับ ชีวิตในช่วงนี้ของผมแทบไม่รู้จักคำว่า “ที่นอน” ด้วยซ้ำ

ผมเชื่อว่าบางคนอาจคิดว่า มันเป็นไปไม่ได้ แต่สำหรับผมมันเป็นไปแล้วครับ และผมผ่านมันมาแล้วด้วย สู้ๆนะ อุปสรรคทำอะไรเราไม่ได้ #1jakkawal #หนึ่งจักรวาล #กำลังใจ #อย่าท้อ #ทำตามความฝัน #คำสอนพ่อ #ยิ่งแพ้ยิ่งดี

ขอบคุณ Cr. jakkawal_1

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5637001
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5637001