‘เบลล่า’ขอพักร่าง ปิดม่านโปรเจ็กต์ปี64

คอลัมน์ อาทิตย์ใส

‘เบลล่า’ขอพักร่างปิดม่านโปรเจ็กต์ปี64 – ปังรัวๆ สำหรับสาวฮอต ‘เบลล่า’ ราณี แคมเปน ที่กลายเป็น “นางเอกสองร้อยล้าน” หลังผลงานการแสดงภาพยนตร์ “อีเรียมซิ่ง” กวาดรายได้สูงสองร้อยล้าน จนสมาคมนักข่าวบันเทิงมอบฉายาดาราประจำปี 2563 ให้ว่า “อีเรียมกู้ชาติ” ด้วยทำให้วงการหนังไทยกลับมาคึกคักจากที่เจอพิษโควิด-19

รู้สึกอย่างไรกับฉายา “อีเรียมกู้ชาติ”?
เบลล่า – “ปลาบปลื้มมาก ขอบคุณสำหรับฉายานี้ ดีต่อใจ รู้สึกมีไฟทำงาน ฟังดูยิ่งใหญ่มากแต่จริงๆ เราเป็นแค่คนนำ ต้องมีคนรอบข้างแวดล้อม ถ้าไม่มีแก๊งน้าค่อม หรือไม่มีพี่ๆ คนอื่นๆ หรือพี่ๆ ทีมงาม ก็คงไม่ได้มาถึงจุดนี้ เราคุยกับทีมงาน สิ่งที่เขาพูดดูยิ่งใหญ่มาก ขอบคุณมากที่ช่วยอุตสาหกรรมหนัง เพราะปีที่ผ่านมาหนักมากจริงๆ อันนี้พอให้วงการหนัง โรงหนังได้ลืมตาอ้าปากได้บ้าง และต้องขอบคุณแฟนๆหลายๆ ท่านดูซ้ำแล้วซ้ำอีก สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคนก็เลยเป็นอีเรียมกู้ชาติ”

ความรู้สึกของนางเอกสองร้อยล้านล่ะ?
เบลล่า – “ร้อยล้านแรกเหนือความคาดหมายแล้ว มันคอมพลีตตั้งแต่ร้อยแรก หลังจากนี้เท่าไหร่ก็ได้ แต่ที่ดีใจกว่ายอดเงินที่ได้มาคือทำให้คนได้ยิ้มได้หัวเราะ รู้สึกฟีลกู๊ดไปกับหนังไปกับตัวอีเรียม แล้วเราเล่นเต็มที่มากๆ ทุ่มจนไม่รู้จะทุ่มยังไง แล้วคนก็ให้การตอนรับที่ดี ดีใจที่เห็นสิ่งที่เราตั้งใจมันเป็นโอกาสที่เข้ามาก็อยากทำให้สุดทาง เรื่องนี้ดีมาตั้งแต่บท แค่อ่านบท ก็ฮาแล้ว พอมาเห็นภาพว่าเล่นกับน้าค่อม (ชวนชื่น) พี่บอล (เชิญยิ้ม) พี่โรเบิร์ต (สายควัน) พี่เดียริส (ดอลล์) ภาพค่อนข้างชัด”

มาเล่นกับแก๊งน้าค่อม กลัวดร็อปไหม?
เบลล่า – “ไม่ค่ะ มาเลย…พร้อม ไม่ได้กลัว เพราะเบลก็ไม่ได้เบา (หัวเราะ) เบลเป็นคนเล่นอิมโพรไวส์ได้ ไม่ต้องห่วง แถๆ ไปได้ เบลชอบแนวนี้ด้วย ชีวิตประจำวันเบลก็จะมีความคอมเมดี้อยู่แล้ว ตอนนี้เบลมีเมืองทิพย์แล้ว ล่าสุดเบลเป็นมหาเทวีเจ้า พี่พลอย (ผู้จัดการ) เป็นเจ้าเมือง ถ้าใครอยากร้องเรียนอะไร ก็ต้องถวายฎีกา เจ้าเมืองจะเป็นคนจัดการ ส่วนมหาเทวีมีหน้าที่สร้างความเอ็นเตอร์เทนอย่างเดียว”

เมืองทิพย์ มาจากไหน?
เบลล่า – “เป็นอะไรที่เล่นขำๆ ในวันที่เราทำงานกันหนักมาก ไม่อยากให้บรรยากาศมันเครียด เลยสมมติเมืองนี้ขึ้นมา มีต้นแบบมาจากเพจเพจหนึ่ง พี่เวียร์ (ศุกลวัฒน์) เป็นเจ้าเมืองมีด รำดาบอย่างเดียว (หัวเราะ)”

จากนี้ ส่งผลให้มาตรฐานการรับงานสูงขึ้นด้วยไหม?
เบลล่า – “ของเบลขึ้นอยู่กับคิวอย่างเดียวเลยค่ะ คิวปีนี้เต็มมาก เลยปฏิเสธงานไปเยอะ เพราะเรามีการวางโปรเจ็กต์งานไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีทั้งละคร พรหมลิขิต หนัง บุพเพสันนิวาส และที่ทางช่องคุยไว้ น่าจะมีละครอีก 1 เรื่อง ก็จะลากยาวไปถึงกลางปี 2565 โชคดีที่เรามีเจ้าเมืองทิพย์จัดแจงให้ แต่จะเห็นเบลถ่ายงานต่างๆ อีก โฆษณาเอยอะไรเอย แต่ไม่ได้ไปเบียดเบียนเวลากอง บางทีมีเรื่องรอบทคิวนักแสดงคนอื่นไม่ได้ เราถึงจะใช้เวลานั้นในการไปถ่ายงานอื่น”

เริ่มงานตั้งแต่ต้นปี?
เบลล่า – “มีเวิร์กช็อปหนังก่อน ละครก็ต้องเวิร์กช็อป เพราะมีการเชื่อมโยง ความยากคือต้องหาคาแร็กเตอร์ให้ชัดเพื่อให้มีแนวทางในการเล่น”

ต้องเตรียมตัวเยอะไหม?
เบลล่า – “ต้องเตรียมสติในการทำงาน เจอกับพี่โป๊ป (ธนวรรธน์) อาทิตย์ละ 7 วัน ไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไง เหนื่อยแค่ไหน (หัวเราะ) หลังๆ มาเหมือนเป็นเด็กซนที่เล่นเข้าขากัน บางที่เบลอยู่นิ่งๆ เขาก็แกล้ง บางทีเขาอยู่นิ่งๆ เบลก็ไปแหย่ หรือคนอื่นอยู่นิ่งๆ เบลก็ไปแหย่มันเหมือนกับแฝดนรก (หัวเราะ) เวลาอยู่ด้วยกันทุกคนจะสนุก บรรยากาศการทำงาน จะโอเค”

มาตรฐานการแสดงของเราล่ะ?
เบลล่า – “เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ พอเห็นเยอะ ได้ลองทำเหมือนแพรวพราวขึ้นเรื่อยๆ เอง โดยไม่ได้รู้สึกว่าพยายามทำอะไรมากขึ้นเท่าไหร่ แค่เป็นคนชอบหยอด ชอบเติม เจออะไรก็แซวในฉาก หรือบางทีโดนคนอื่นทำใส่ ก็จะบอกตัวเองสติๆ อย่าขำ”

สมมติว่าต้องเล่นบทคอมเมดี้ แต่ต้องมีดราม่าด้วย?
เบลล่า – “เป็นเรื่องความเข้าใจ อย่างเรื่องให้รักพิพากษา เบลเล่นกับพี่ใหม่ นัฏฐา ลอยด์ รู้สึกเข้าขากันมาก เบลเห็นอนาคตเบลในตัวพี่ใหม่ เขาเป็นคน คอมเมดี้จ๋า แต่เวลาดราม่าปุ๊บ มันก็ตกใจเหมือนกันที่เราเห็นการเล่นเต็มของทั้งเขาและเรา เรื่อง ดราม่าไม่รู้สึกกดดัน แต่สิ่งที่ยากสำหรับเบล น่าจะเป็นเรื่องบู๊ เพราะไม่ค่อยถนัด ส่วนเรื่องการทำการบ้านหนักๆ เป็นส่วนของบท ต้องใช้ความลึกของความเข้าใจในสายอาชีพ อย่าง ให้รักพิพากษา เบลเล่นเป็นทนาย ก็ต้องมีทนายมาเป็นโค้ชให้ ซึ่งเรื่องนี้ได้ทนายเจมส์มาเป็นโค้ชให้คำแนะนำ ทุกบทบาทต้องศึกษาคาแร็กเตอร์ให้ชัดก่อน ต้องอ่านบทไปก่อนด้วย เพราะทุกครั้งที่ไปเข้าฉากจะตื่นเต้น ตกใจ กลัวพูดผิด ยิ่งเป็นฉากยากๆ จะตื่นเต้นทุกครั้ง อย่างฉากว่าความเบลต้องพูดคนเดียว 10 หน้า หินมาก พลาดไม่ได้ ผิดไม่ได้ ต้องเอาสติตัวเองกลับมาให้ได้ เราต้องเอาตัวเองหลบมุม ซึ่งเบลเป็นคนขี้เหงาจะไม่ชอบหลบมุม เบลจะอยู่กับทีมงาน ถ้าหลบมุมแสดงว่าเบลจริงจังแหละ”

วางแผนชีวิตส่วนตัวยังไงนอกจากงาน?
เบลล่า – “อยากทำน้ำมันเขียวขายค่ะ (หัวเราะ) เพราะเบลซื้อและใช้เยอะจริงๆ ทุกๆ ครั้งที่หายใจไม่ออก เหนื่อยจะวูบ ก็จะดมยาเขียว เวลายุงกัดก็จะทายาเขียวปวดเมื่อยก็ทายาเขียว อากาศร้อนก็ยาเขียว หรือใครเป็นอะไร เบลก็ยื่นยาเขียวให้ เลยคิดว่าฉันอาจจะต้องทำน้ำมันเขียว (หัวเราะ) จริงๆ นะ มีธุรกิจที่จะทำทุกปี แต่ก็ยังไม่ได้ทำสักปี (หัวเราะ) คิดว่าปี 64 จะเริ่มสักนิดนึง ก่อนหน้านี้อยากทำ แต่ไม่มีเวลาจริงๆ”

มุมฮาๆ ของเบลที่หลายคนยังไม่รู้?
เบลล่า – “เบลว่าคนเห็นทุกมุมของเบลแล้ว เบลเป็นคนชอบพูดไปเรื่อย ต่อคำไปเรื่อย เขาเรียกว่ายิงมุข ทุกคนจะถามเบลว่าเบลเคยป่วยบ้างไหม เบลไม่เหนื่อยบ้างเหรอ โดยส่วนตัวชอบเอนเนอร์จี้แบบนี้ แล้วไม่ค่อยหลับนะ แต่จะหลับทุกครั้งที่ขึ้นรถ บนรถมีเวลาก็ขอหลับหน่อย บางทีแค่ 5 นาที ลงมาเบลเด้งมาแล้ว”

มีไหม แบบวันที่เรารู้สึก ฉันไม่ไหวแล้ว?
เบลล่า – “มี มีครั้งหนึ่งแม่เข้ามาปลุกถึงเตียง นาฬิกาปลุกไม่เท่าไหร่แม่มาเขย่าตัวแล้วไม่ตื่นนี่สิ ทุกอย่าง มันชัตดาวน์ ไปเลย ปลุกไม่ตื่น ถึงขั้นแม่เอานิ้วมาอังที่จมูก (หัวเราะ) จริงๆ แม่บอกว่าปลุกอยู่ครึ่งชั่วโมงเลยลูก มันไม่ไหว มันโหลด มันเป็นช่วงบุพเพฯ ไม่ทำก็ไม่ได้ มันเป็นช่วงจังหวะ ที่สำคัญการนอนน้อยมันทำให้เราควบคุมตัวเองได้ยากขึ้น เดี๋ยวจะหงุดหงิด แต่เราพยายามท่องกับตัวเองตลอดว่าไม่ได้ การนอนน้อยมันเป็นเรื่องของเรา อย่าเอาเรื่องของเราไปโยนใส่คนอื่น”

เคยมีหลุดบ้างไหม?
เบลล่า – “มีบ้าง แต่ก็จะวกกลับมาหาตัวเองเร็วมาก เพราะเบล ไม่ชอบตัวเองในแบบนั้น เบลก็ เลยจะไม่ทำตัวเองในแบบนั้นกับคนอื่น”

ดูแลตัวเองยังไงบ้าง เพราะเป็นคนที่ทำงานหนักมาก?
เบลล่า – “ดูแลทุกอย่างเลยค่ะ ตั้งแต่กินน้ำเยอะๆ แอบนอนในรถ เราต้องหาเวลาพัก แล้วอีกหนึ่งอย่างที่เบลไม่ค่อยป่วย เพราะเบลมีความสุข ไม่ว่างานจะยากแค่ไหน เบลก็ทำให้มันมีความสุข และพยายามเผื่อแผ่ความสุขไปให้ทีมงานที่ทำงานกับเรา”

วางตัวยังไงให้อยู่แล้วงานแน่นๆ ขนาดนี้?
เบลล่า – “เป็นตัวเอง ในแบบที่ชอบตัวเองและรักตัวเองด้วย แล้วคนอื่นก็จะเอ็นดูเราเอง ในความติงต๊องของเรา แต่ก็ยึดในความที่เราเป็นคนจริงใจ เบลเป็นคนละเอียดมาก เวลาทำงานเบลจะเห็นไปหมด ได้ยินไปหมด บางทีเรารับเรื่องเยอะเกินไป ก็ต้องท่องในใจว่าปล่อยให้เขาทำหน้าที่ของเขา หรือบางทีมันจะต้องรีบจริงๆ ในเรื่องของเวลา เบลก็จะพูดบ้าง หรือว่าจัดการตัวเอง ไม่ใช่ว่าผมฟูก็จะเรียกช่างผมอยู่นั่น เบลก็จะพยายามดูแล บวกกับเอาความติงต๊องมาเบรกความละเอียดของเรา เบลรู้สึกว่าการทำให้คนยิ้ม มันก็จะทำให้วันนั้นของเขามีความสุข จากโมเมนต์ที่ว่าวันนี้ทำงานหนักมาก มาเป็นวันนี้ก็ทำงานสนุกดีนะ แม้ว่าจะเหนื่อย แต่ผ่านมันมาได้”

กับงานในวงการเราวางแผนจะทำถึงเมื่อไหร่ หรือจะไปทำเบื้องหลัง?
เบลล่า – “ยังไม่ได้วางแผนอะไรชัดเจนขนาดนั้น แต่พอผ่าน 2 โปรเจ็กต์ของปี 64 เบลอาจจะต้องให้เวลากับตัวเอง มากขึ้น หันมาดูแลสุขภาพ ให้เวลากับตัวเองพักร่างบ้าง เพราะเราทำงานติดมาหลายปี คือเบลถ่าย 2 เรื่องติดตั้งแต่เข้าช่อง ตอนแรกว่าจะรับทีละเรื่อง แต่ก็ไม่เคยมีเรื่องเดียวเลย เราถ่าย 2 เรื่องพร้อมกันมามากกว่า 6 ปี เท่ากับเราทำงาน 7 วันมาตลอด ช่องเขาก็ให้เวลาพักแล้วนะ แต่มันก็มีผิดแผน จากที่วางเอาไว้ แต่เบลโอเคนะ อย่างน้อยเราก็มีผลงานให้คนดูตลอด ดีกว่าไม่มีงาน แต่ตอนนี้มันสุดตัวแล้ว ขอพักบ้าง แต่ก็ไม่ได้หายไปไหน”

ชีวิตรักของเรา ต้องรอกันไปอีกยาวๆ หรือว่าอีก ไม่นาน?
เบลล่า – “อันนี้เบลก็พูดจริงๆ เหมือนกันว่าเบลไม่รู้ว่าจะเมื่อไหร่ เพราะคุณคนนั้น (เวียร์) ก็เจ้าพ่อโปรเจ็กต์ค่ะ ถ้านับจำนวนเยอะกว่าเบล ของเบลยังดูน้อย แล้วเป็นคนที่ชอบทำอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ค่อยได้เจอ อย่างวันนี้ที่มาเจอ เพราะมาทำงานด้วยกัน เลยได้มาอัดเสียงด้วยกัน เมื่อกี๊แค่ทักทายแล้วเบลก็ขึ้นมาสัมภาษณ์ พอจะกลับพี่เขาก็ขึ้นมาบ๊ายบาย ชิลชิลจริงๆ เพราะเราก็หนักแล้วบางทีหายไปทั้งวันลืมโทร.หา เราทำงานเหมือนกันเลยเข้าใจคำว่าไม่มีเวลามันเป็นยังไง เอาจริงๆ วันนี้เบลไม่รู้ด้วยว่าพี่เขามีอัดเสียงที่นี่เหมือนกัน”

คู่เราไม่ได้บอกกันตลอดว่าไปไหนกันบ้าง?
เบลล่า – “บางทีบอกก็ลืมค่ะ พี่เขาอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเบลมา บางทีกางตารางมาลองมาแมตช์กันดูซิว่ายังไง เวลาเราก็จะสลับกัน วันไหนน้องว่างพี่ไม่ว่าง วันไหนพี่ว่างน้อง ไม่ว่าง แต่เราก็เข้าใจ เพราะวัยเราเป็นช่วงวัยทำงาน ต้องโฟกัสที่งาน แล้วพี่เขาได้ก้าวเข้าไปงานหนัง เขาก็กำลังสนุกกับงานใหม่ๆ ตรงนั้น”

แผนชีวิตคู่ก็ต้องเลื่อนๆ ไปก่อน?
เบลล่า – “ก็ต้องแล้วแต่จังหวะเวลาดีกว่าค่ะ ไม่รีบ”

แต่ดูเหมือนเขารีบเนอะ?
เบลล่า – “ไม่จริง ตอนนี้เขารับหนังไม่หยุดเลยนะ ซึ่งมีงานที่ยังเปิดเผยไม่ได้เยอะมาก (ลากเสียงยาว) เบลไม่อะไรเลย เบลโอเค แม่ก็โอเค เพราะแม่อยากให้เบลอยู่บ้าน (หัวเราะ) แม่จะห่วงอย่างเดียวเรื่องการพักผ่อน เรื่องสุขภาพ บางทีไม่ใช่แค่พักผ่อนแต่กาย มันต้องพักผ่อนใจด้วย”

อนงค์ จันทร

ดูข่าวต้นฉบับ

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5653720
ขอขอบคุณ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_5653720