อันดับที่ 10 Start-Up

การจับคู่ในแบบเคมีสุดจะเข้ากัน ระหว่างน้องสาวแห่งเกาหลี แพ ซูจี (Bae Suzy) กับไอดอลหนุ่มสุดหล่อ นัม จูฮยอก (Nam Joo-hyuk) ท่ามกลางฉากหลังที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกของหนุ่มสาวและความทะเยอทะยานอย่างสุดขั้วใน Silicon Valley ใจกลางกรุงโซล ซึ่งได้กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวโลกหลงรักหัวปักหัวปำ นอกจากนี้ ประเด็นการนำเสนอที่จับไปที่ “คนหนุ่มสาว” เป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อน ดูเหมือนจะ “แปลกแยก” ไปจากรูปแบบมาตราฐานของซีรีส์ที่ผลิตจากเกาหลีใต้ได้พอสมควร

และแน่นอนซีนอันชวนจดจำสำหรับสาวๆ ของซีรีส์นี้ก็คือ การล้างคราบไคลความเนิร์ด ก่อนกลายเป็น พ่อหนุ่มชวนฝันตามตัวอักษรในจดหมาย ในการพบกันเป็นครั้งแรกกับสาวแก่นเสี้ยวไม่ห่วงสวยในงานเลี้ยงอวดแฟน

ในขณะที่ คาแรกเตอร์ที่มิอาจละสายตาและน้ำตารื้นทุกครั้งที่ปรากฏตัว คือ ฮัลมอนี (Halmoni) คุณยายขายอาหารผู้แสนอบอุ่นและสุดใจดี ที่มีไหล่ไว้คอยให้ซบและร้องไห้ในช่วงเวลาแห่งความยากลำบาก

อันดับที่ 9 Hospital Playlist

แม้ซีรีส์ที่ว่าด้วยวงการแพทย์ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการบันเทิงเกาหลีใต้ แต่ Hospital Playlist จะพา “คุณ” ไปติดตามมิตรภาพฉันท์เพื่อนภายในแก๊งหมอ 5 คน ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ ความเจ็บป่วย และความเศร้าโศก ที่เล่นไปกับความสัมพันธ์อันแสนอ่อนโยนภายในกลุ่มที่ต้องการเพียงการปลอบประโลมซึ่งกันและกัน หลังพบกับความยากลำบากในหน้าที่การงาน

อ่อ…และสิ่งสำคัญที่ “คุณ” ต้องไม่ลืมสำหรับซีรีส์หมอเรื่องนี้ก็คือ ความน่าอภิรมย์ในการรับฟังการรวมตัวกันบรรเลงเพลงสุดละมุนของคุณหมอทั้ง 5

อันดับที่ 8 Itaewon Class

จากอดีตที่ตั้งฐานทัพกองทัพสหรัฐอเมริกา สู่แหล่งหลอมรวมหลากหลายวัฒนธรรมของกรุงโซล และแน่นอนมันกลายเป็นฉากหลังหนึ่งในซีรีส์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดซีรีส์หนึ่งในปี 2020 จากความกล้าหาญ ในการต่อล้อต่อเถียงเรื่องต้องห้ามของสังคมเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็น การข้ามเพศ ขนบเคารพผู้อาวุโส หรือสังคมชายเหนือหญิง ซึ่งแทบไม่เคยปรากฏมาก่อนในโทรทัศน์ของดินแดนกิมจิ

เอาล่ะแม้ช่วงกลางๆ ซีรีส์อาจจะอืดๆ ไปนิด จากความพยายามใส่บทโรแมนซ์ที่ออกจะเกินพอดีไปสักนิด แต่การมี “บอส” เอาไว้ให้หาทาง “เอาชนะ” ในช่วงท้ายยังคงสามารถตรึง “คุณ” ให้ดูซีรีส์นี้ได้ต่อไปพอรอคอย “จุดจบ” ที่เหมาะสมกับ “บอสผู้แสนชั่วร้ายและแพรวพราวด้วยเล่ห์เหลี่ยม” แน่นอน

อันดับที่ 7 Kingdom season 2

เมื่อลมหนาวพัดผ่านเข้าดินแดนโชซอน นั่นแปลว่า ห้วงเวลาแห่งการรอคอยอันแสนยาวนานได้มาถึงจุดสิ้นสุด ซีรีส์ซอมบี้ย้อนยุคสุดฮิตกลับมาอีกครั้ง หลังปล่อยให้สาวกค้างเติ่งกับ “ตอนจบ” ที่แทบอยากจะเขวี้ยงรีโมทใส่หน้าจอโทรทัศน์ในซีซั่นแรก

ความตาย แรงอาฆาต และการทรยศหักหลัง ดูจะมีดีกรีความเข้มข้นขึ้นจากซีซั่นแรกอย่างเห็นได้ชัด และแน่นอน ซอมบี้ที่คราวนี้สามารถโผล่ออกมาวิ่งไล่ล่า “ก้อนเนื้อ” ในช่วงเวลากลางวันได้ ยิ่งทำให้ “คุณ” ลุ้นตัวบิดเกลียวมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ความพยายามเล่าเรื่องเพื่อนำไปสู่จุดเริ่มต้น จะทำให้ “คำถาม” ที่ค้างคาบางส่วนจากซีซั่นก่อน จะได้รับ “คำตอบ” ที่ “คุณ” ปราถนามานานแสนนานเสียด้วยสิ ฉะนั้น “คุณ” จึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ส่วนซีซั่น 3 ซึ่งอาจจะเป็น Special Prequel Episode (เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนซีซั่น 1) ที่มีซุปตาร์ยัยตัวร้ายอย่าง จอน จีฮยอน (Jun Ji-hyun) มาร่วมวงด้วยนั้น บางที “คุณ” อาจต้องรอคอยด้วยใจระทึกนานขึ้นกว่าเดิม ด้วยเพราะพิษ Covid-19 ทำให้การถ่ายทำต้องล่าช้าออกไปพอสมควร

อันดับที่ 6 Crash Landing on You

“สหายผู้กอง” ของฉันนนนนนน!

ซีรีส์ที่ทำให้ภาพจำของชาวเกาหลีเหนือในใจของ “คุณ” เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล พร้อมกับการที่ “คุณ” ต้องเปล่งเสียงร้องเรียกอย่าเพ้อฝันว่า “สหายผู้กอง” ไปตลอดการรับชมซีรีส์สุดฮิตเรื่องนี้ (จริงใช่ไหม?)

การสมรสกันในจอระหว่าง ซน เยจิน (Son Ye-jin) และฮยอนบิน (Hyun Bin) เป็นซีรีส์ที่ว่าด้วย ลิขิตรักพายุทอร์นาโด (โอว…แม่เจ้าคิดได้ไง?) ซึ่งได้ชักนำทายาทธุรกิจแฟชั่นไปบรรจบกับนายทหารของประเทศคู่อริอย่างสุดเหลือเชื่อ

การเล่าชีวิตในจินตนาการในอีกฝากฝั่งหนึ่งของพรมแดนที่สุดแสนอันตราย อาจเป็นเพียงโบนัสในการรับชมซีรีส์เรื่องนี้ เพราะสิ่งที่ “คุณ” จะได้รับแบบ FULL HD คือ การแสดงที่ยอดเยี่ยมและเคมีสุดจะเข้ากันจนยากจะหาใดเปรียบระหว่าง “คู่รัก” ที่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องจริงไปแล้ว (ไม่จริ๊ง ไม่จริง สาวกสหายผู้กองกำลังร่ำร้อง) น่าจะเป็น “อรรถรส” ที่จะทำให้ “คุณ” ยากจะละสายตาไปจากซีรีย์นี้ได้

อันดับที่ 5 The Penthouse: War in Life

หาก “คุณ” อยากดูซีรีส์กระชากเรตติ้ง พล็อตเชือดเฉือนแฝงไว้ด้วยแรงทะเยอทะยานสู่การก้าวไปสู่จุดสูงสุด ที่จะพา “คุณ” กลับคืนสู่อรรถรสเดิมๆ ในการรับชมซีรีส์แบบไม่ต้องอาศัยการตีความให้ลึกซึ้งอะไรมากมายในแบบฉบับที่ชาวเกาหลีเรียกว่า มัคจัง (Makjang) The Penthouse: War in Life น่าจะทำให้ “คุณ” ได้เสพ “อรรถรส” ในแบบที่ว่านั้นได้อย่างชนิดเต็มอิ่ม

ซีรีส์สุดอลหม่านด้วยความริษยา เคียดแค้น แทงข้างหลัง ล่อลวง ชิงดีชิงเด่น ตะโกนด่าทอ การปรายสายตาที่เต็มไปด้วยความเดียดฉันท์และสุดเย็นชา เพื่อเป้าหมาย ลาภยศ และชื่อเสียงนี้ อัดแน่นอยู่ในเพนต์เฮ้าส์สุดลักซ์ชัวรีสูงตระหง่าน 100 ชั้น ซึ่งด้วยพล็อตเอาใจเรตติ้งเช่นนี้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ ซีรีส์นี้จะฮิตระเบิดจนถูกขยายออกไปถึง 21 ตอน และปัจจุบันยังออนแอร์อยู่

อันดับที่ 4 The World of the Married

“คุณ” จะทำอย่างไร หากชีวิตคู่อันสุดแสนสมบูรณ์เพรียบพร้อมจนกระทั่ง “คุณ” ไม่ต่างอะไรจากเมียและแม่ตัวอย่าง แต่แล้ววันหนึ่ง “คุณ” เริ่มจับสัญญาณผิดปกติอะไรบางอย่างได้ว่า คนข้างตัวของ “คุณ” กำลังมี “ชู้”

ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงเศษเสี้ยวของภูเขาน้ำแข็งที่ถูกกัดเซาะจากลมพายุแห่งการแก้แค้นและความเสียใจ จนกระทั่งกลายเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ฮิตถล่มทลายประจำปี 2020 ในประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงมันยังได้ทำให้ประเด็นที่ว่า เหตุใดผู้หญิงเกาหลีจึงมักถูกทำให้ด้อยค่าลงหลังการ “หย่าร้าง” ถูกหยิบยกขึ้นมาสังเคราะห์กันอย่างกว้างขวางด้วย

The World of the Married เวอร์ชันเกาหลีนี้ รีเมกมาจากซีรีส์ Doctor Foster ของเมืองผู้ดีอังกฤษ โดยพล็อตหลักได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานปรัมปราของชาวโรมัน เรื่องโศกนาฏกรรมของเมดิอา (Medea) ผู้ลงมือแก้แค้นคนเคยรักที่ทอดทิ้งเธอไป ด้วยการฆ่าลูกตัวเองและวางยาพิษเจ้าสาวคนใหม่ของอดีตสามี

อันดับที่ 3 Extracurricular

ซีรีส์ดรามาอาชญากรรมวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยสีสันสุดฉูดฉาด ที่จะพา “คุณ” ไปติดตามเด็กนักเรียนที่ใช้ความขี้อายเป็นเปลือกนอกเพื่อซุกซ่อนตัวตนในฐานะ “จอมบงการ” ที่ไม่มีใครคาดถึงเอาไว้ เพียงเพื่อมุ่งหวังจะหาเงินมาส่งตัวเองไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอันสุดหรูเลิศของเกาหลีใต้ ถึงแม้ว่า…บางครั้งมันจะเป็นการกระทำที่ “สกปรก” รวมถึงพาตัวเองไปสู่สถานะการณ์สุดเสี่ยงภัย หรือต้องหลบหนีแบบหัวซุกหัวซุน จนกระทั่งมันถึงกับลุกลามไปถึงจุดที่ยากจะแก้ไข

อันดับที่ 2 Hot Stove League

ซีรีส์เบสบอส กีฬาสุดฮิตอันดับหนึ่งของเกาหลีชน ที่ว่าด้วยการมาถึงของผู้จัดการทีมคนใหม่ เพื่อเข้ามาพลิกฟื้นทีมจมบ๊วย ที่มีชื่อว่า “ดรีมส์” ซึ่งเต็มไปด้วยอัตตาและเพชรที่รอการเจียระไน ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำหน้าที่ผู้จัดการทีมเบสบอลมาก่อน ความละเอียดในการนำเสนอประเด็น การกอบกู้ทีมกีฬาสักทีม ผ่านกระบวนการต่างๆ ที่ดูสมจริงสมจัง คือ เสน่ห์ที่น่าชวนหลงไหลให้ติดตามแม้ว่า “คุณ” อาจจะไม่รู้จัก ไกีฬาเบสบอล” สักเท่าไหร่ก็ตาม

อันดับที่ 1 The Uncanny Counter

ซีรีส์ลูกผสมระหว่างแอคชันซุปเปอร์ฮีโร การจับกลุ่มตัวละครอันแสนชาญฉลาด และการสร้างโลกแห่งความหฤหรรษ์ ด้วยการให้พนักงานร้านบะหมี่ในตอนกลางวัน สวมชุดวอร์มออกไล่ล่าสังหารปีศาจในตอนกลางคืน กลายเป็นปรากฏการณ์เซอร์ไพรส์แรงแซงโค้งส่งท้ายปี

ด้วยการแสดงที่สดใหม่ มีชีวิตชีวาและเข้าขากันสุดๆ ของกลุ่มตัวละครหลัก อย่าง โจ บยองกยู (Jo Byung-gyu) คิม เซจอง (Kim Sejeong) ยู จุนซัง (Yu Jun-sang) และยอม ฮเยรัน (Yum Hye-ran) ทำให้ The Uncanny Counter เป็นอะไรที่เตะตาและน่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบัน ซีรีส์นี้เล่าเรื่องไปเกินกว่าครึ่งทางจากจำนวน 16 ตอนแล้ว ฉะนั้น จึงยังไม่สายหาก “คุณ” คิดจะเริ่มไปดูเสียตั้งแต่ตอนนี้.

ทีมข่าวเฉพาะกิจไทยรัฐออนไลน์ รายงาน
กราฟิก: เทพอมร แสงธรรมาพิทักษ์

ข่าวน่าสนใจ: