เจอ ปั๊บ เล่าการใช้ชีวิตคู่ว่า

สงบขึ้นแล้วความรักมากขึ้นมั้ย?

“มันอิ่มเอมขึ้น เมื่อก่อนอยู่นอกบ้านแล้วเราอยากจะกอดจะอะไรวันนี้ก็เป็นภรรยาก็ทำได้ เราแอบถ่ายรูปเธอบนที่นอนได้เนอะ มันไม่ผิดผีแล้ว (ยิ้ม) ก็คุยกันว่าเรามีโมเมนต์บ้าๆบอๆเยอะ”

แต่งแล้วก็ไม่เลิกแกล้งเค้า?

“ไม่ครับ ชอบเล่นกัน”

ความรักการดูแลในฐานะสามีภรรยาล่ะ?

“ตอนเช้าๆเค้าก็ปิ้งขนมปัง ทาเนยถั่ว ทำไข่ลวกให้ ผมรู้สึกสบายใจเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตเราก็ไม่ต้องกังวลมาก กลับบ้านมาเราก็จะเจอเค้าเหมือนซูชินอนห่อในผ้าห่ม มันก็เท่านี้ครับ ผมว่าชีวิตจริงมันคือการที่เราได้อยู่ที่บ้าน กลับบ้านมาเราก็วางทุกอย่างลง ส่วนเรื่องไปไหนมาไหนต้องรายงานเยอะขึ้นมั้ย อันนั้นผมทำอยู่แล้วตั้งแต่ตอนเป็นแฟนกัน ตอนไปเล่นคอนเสิร์ตก็บอกตลอดว่าจะเล่นแล้วนะ ลงแล้วนะ ถึงบ้านแล้ว หลังแต่งงาน ถึงมีไปเล่นต่างจังหวัดก็จะกลับบ้านทุกวันถ้ากลับได้ เราเหมือนเป็นบัดดี้กัน บางวันก็เหมือนน้อง บางวันก็เหมือนแม่ เพราะเค้าดุ บางวันก็เป็นภรรยา เป็นเพื่อน ก็พอๆกันเพราะบางวันผมก็เหมือนเด็ก”

เวลาเตยดุคือเรื่องแบบไหน?

“เช่น ล้างมือรึยัง อย่าแคะขี้มูก เช็ดแอลกอฮอล์รึยัง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสุขลักษณะและความโก๊ะๆของผม บางทีผมอาจจะไม่ได้มารยาทเป๊ะ”

เรื่องทายาทล่ะ?

“ผมกับเตยก็อยากมีนะ แต่ก็ต้องดูเรื่องงานต่างๆก่อน จริงๆหลายคนก็เตือนเยอะนะเรื่องการเตรียมตัวก่อนจะมีลูก แต่ผมเช็กแล้วนะ ผมโอเค”

ล่าสุดปล่อยเพลงยังมีฉันที่ร้องในงานแต่ง?

“เพลงนี้เป็นเพลงที่ผมแต่งให้เตยตอนวันเกิดตอนที่ คบกันปีแรกเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ใส่ธัมบ์ไดรฟ์ไว้ให้เค้าฟังแล้วผมก็ลืมไปแล้ว พอใกล้วันงานแต่งผมก็นึกไม่ออกว่าจะทำอะไรเลยรู้สึกว่าเรามีเพลงอยู่เพลงนึงแล้วความหมายในวันนี้เราก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่ เลยเอาเพลงนี้มาร้องให้เค้าฟังดีกว่า ผมเองก็ไม่เคยรู้สึกแบบนี้ว่ามันตื้นตันมันซาบซึ้ง”

เป็นโมเมนต์น้ำตาชาวร็อก?

“กลับไปดูตอนนั้นคือผมขี้แยมาก (หัวเราะ)”

เพลงและทิศทางของวงล่ะ?

“ถ้ามีงานเราก็รับผิดชอบงานเต็มที่ เราสองคนจะรู้สึกดีถ้าอีกคนเต็มที่กับงานครับ”.